- Blog
- August 22, 2023
ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาตาคล้ำ เติมร่องใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์
คุณหมอขอสรุป ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ DSK Clinic ดียังไง ? – ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับปัญหา ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ร่องใต้ตา และถุงใต้ตา – ปัญหาใต้ตาอาจเกิดได้จากทั้งเม็ดสี เส้นเลือด ไขมัน หรือกระดูกที่สลาย – การรักษาปัญหาใต้ตาให้ผลลัพธ์ออกมาธรรมชาติ หมอคิดว่าเทคนิคเป็นเรื่องสำคัญ ในการเติมฟิลเลอร์อย่างแม่นยำ ในความลึก และระดับชั้นที่เป็นสาเหตุของปัญหา จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในกายวิภาค และสามารถมองปัญหาออก – ฟิลเลอร์ในมุมมองของทีมแพทย์ DSK มันไม่ใช่การถมร่องให้เต็ม แต่ต้องพิจารณาตามความงามแบบ “เฉพาะบุคคล” และสาเหตุของปัญหาที่อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคลด้วย – ปัจจุบันฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์สอดไส้ กลโกงฟิลเลอร์พบมากกว่าที่คิดในไทย จึงควรเลือกคลินิกที่ไว้ใจได้ และตรวจสอบทุกครั้งในทุกกล่องของฟิลเลอร์ – จุดเด่นของฟิลเลอร์ที่ DSK Clinic คือ เทคนิค ABI หรือ Analyze Before Injection ซึ่งเกิดจากการวิเคราะห์สาเหตุตามกายวิภาค และอัตราส่วนความงามที่แตกต่างในแต่ละบุคคล และวิเคราะห์ถึงชั้นที่ควรฉีด ตำแหน่งและความลึก ทำให้วางยาได้แม่นยำ สวยกว่า ธรรมชาติกว่า และใช้ยาน้อยกว่า การใช้เทคนิคแบบปกติ ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูบวม ไม่เป็นธรรมชาติ – ที่ DSK เราให้การรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และการปรับรูปหน้า จบการศึกษาปริญญาโทด้านผิวหนัง และผ่านการศึกษาด้านการใช้ฟิลเลอร์อย่างต่อเนื่องจากทั้งใน และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ให้คำปรึกษา และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม – DSK Clinic มีฟิลเลอร์หลากหลายรุ่น ที่แพทย์สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมตามปัญหาของคนไข้ได้ – การันตีด้วยรางวัลยอดผู้ใช้บริการฟิลเลอร์ Restylane สูงสุดระดับประเทศจากบริษัท Galderma – การันตีรางวัล Top 5 คลินิกที่มียอดการใช้ Belotero สูงสุดของเมืองไทย – การันตีรางวัล Thailand Rising Star อัตราการเติบโตผู้รับบริการฟิลเลอร์ Ulthera และ โบท็อกซ์ Xeomin สูงสุดหนึ่งเดียวในไทย |
ปัญหาใต้ตาลึก ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาหมีแพนด้าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วแก้ไขได้ ปัญหาดังกล่าวอาจทำให้ใบหน้าแลดูอิดโรย ดูโทรม และดูไม่สดใส ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้หน้าดูมีอายุแก่กว่าวัย ไม่ว่าคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชาย คงไม่อยากให้ใบหน้าของตนเองแลดูแก่อย่างแน่นอน
ปัจจุบันจึงมีวิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกหลายวิธีด้วยกัน เช่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอารองพื้น หรือคอนซีลเลอร์มาปกปิดบริเวณใต้ตา แต่หากต้องการแก้ปัญหาให้ดีขึ้นแบบธรรมชาติจากโครงหน้าของเราเอง ต้องทำการแก้ไขด้วยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ทำให้บริเวณรอบดวงตาอิ่มฟู รอยคล้ำ รอยดำ และริ้วรอยใต้ตาดีขึ้น คืนความอ่อนวัยของใบหน้า หากใครสนใจการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมออยากชวนมาดูไปพร้อมกันกันว่า มีอะไรที่เราควรรู้บ้างเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับปัญหาแบบไหน และควรรู้อะไรก่อนทำ
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารที่เรียกว่า ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เข้าไปเติมเต็มใต้ชั้นผิวในบริเวณใต้ดวงตา โดยปัญหาที่ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ได้ คือ ใต้ตาลึก หรือร่องใต้ตาที่เกิดจากกระดูก หรือไขมันที่มีการเสื่อมสลายไปตามวัย และยังสามารถจัดการปัญหาใต้ตาคล้ำได้ แต่ทั้งนี้ปัญหาใต้ตาแต่ละแบบก็มีสาเหตุจากโครงสร้างที่ต่างกัน ทำให้วิธี และเทคนิคในการฉีดแตกต่างกันไปตามปัญหาที่เป็น
โดยคุณสมบัติของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) คือ ช่วยในการอุ้มน้ำของผิว ทดแทนเนื้อเยื่อที่หายไป และยังช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ โดยใช้หลักการทดแทนเนื้อเยื่อ และคอลลาเจนใต้ดวงตาที่หายไปเมื่ออายุมากขึ้น ทดแทนชั้นกระดูกยุบตัว ไขมันสลาย รวมถึงปัญหาที่ผิวชั้นตื้น โดยเจ้าตัว HA เข้าไปช่วยเติมเต็มร่องลึกให้แลดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เรียกคืนใบหน้าที่อ่อนเยาว์สดใสให้กลับคืนมาอีกครั้ง
ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาอะไรได้บ้าง ?
หมอไม่อยากให้มองฟิลเลอร์เป็นยาวิเศษที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้ทุกอย่าง ดังนั้น อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง และแน่นอน ปัญหาแต่ละแบบมีเทคนิคการจัดการที่ต่างกันครับ
ปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก
ถ้าสังเกตคนที่มีอายุมากขึ้น เรามักเห็นการเริ่มมีเบ้าใต้ตา หรือร่องใต้ตามากขึ้น ทำให้ตาดูลึก หรือดูโหล ซึ่งปัญหานี้เกิดจากการที่กระดูกเบ้าตามีความเสื่อมสลายไปตามอายุ รวมถึงไขมันที่ค้ำจุนโครงสร้างใต้ตาที่มีปัญหา ทำให้ใต้ตาลึก ดูมีอายุ อิดโรย แลดูไม่สดใสได้
ปัญหาใต้ตาคล้ำ
ปัญหาใต้ตาคล้ำ เป็นปัญหาที่เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล โดนอาจเกิดจากเม็ดสีเมลานิน เส้นเลือดดำที่หนาแน่นในบางคน ผิวหนังที่บาง หรือความลึกของใต้ตาจนทำให้เกิดเงา โดยที่มาของปัญหาเหล่านี้ อาจเป็นได้ทั้งจากกรรมพันธุ์ ภูมิแพ้ หรือจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น อาการอักเสบ หรือรอยดำ ซึ่งไม่ว่าปัญหาจะเกิดจากอะไร ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจวินิจฉัย วิเคราะห์สาเหตุ และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
สำหรับฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ปัญหาใต้ตาดำ หรือใต้ตาคล้ำได้เช่นกัน โดยเทคนิคที่ใช้ฉีดจะเป็นเทคนิคการฉีดผิวหนังชั้นตื้น เพื่อให้ผิวหนังหนาขึ้น เห็นเงาใต้ตาน้อยลง และเห็นเส้นเลือดน้อยลงจากผิวหนังที่หนาขึ้น แต่ในบางครั้งปัญหาใต้ตาดำ หรือใต้ตาคล้ำอาจต้องใช้การรักษาอื่นร่วมด้วย เช่น หากมีการอักเสบจนเกิดเป็นเม็ดสีดำขึ้น อาจต้องหาสาเหตุ และลดอาการอักเสบนั้นไปพร้อมกัน
ปัญหาถุงใต้ตา
ปัญหาถุงใต้ตา เกิดจากการที่ไขมันในเบ้าตามีการหย่อนลงมาผิดตำแหน่งบริเวณใต้ตา ซึ่งเกิดจากการที่เมื่ออายุมากขึ้น เส้นเอ็นที่ค้ำจุนถุงใต้ตา กระดูก และผิวหนังเกิดการหย่อน หรือเสื่อมสภาพ ทำให้ถุงใต้ตาที่เคยมีการค้ำจุนอย่างดีหย่อนลงมาจนเป็นปัญหาถุงใต้ตาได้
โดยการฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ แต่ต้องมีเทคนิคการฉีดที่ดี โดยวิเคราะห์จากสาเหตุปัญหา เพราะไม่ใช่ถุงใต้ตาทุกเคสจะแก้เหมือนกัน บางเคสต้องไปฉีดค้ำจุนกระดูกหน้าแก้ม บางเคสต้องค้ำจุนกระดูกใต้ตา บางเคสใช้การฉีดตื้นใต้ผิว เทคนิคการฉีดขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ ซึ่งทีมแพทย์ที่ DSK เราจะประเมินปัญหากันก่อนจะเริ่มรักษาในทุกเคสครับ
สาเหตุของปัญหาใต้ตา
หลายคนอาจคิดว่าสาเหตุของปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตา เกิดจากการอดนอนเป็นส่วนใหญ่ จนต้องรีบไปเติมฟิลเลอร์ใต้ตากัน แต่แท้ที่จริงแล้ว ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
- พันธุกรรม สาเหตุของใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตา สามารถส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมได้ โดยผู้ที่มีพ่อแม่ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตา อาจเกิดปัญหาขอบใต้ตาได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อชาติอาหรับ และอินเดีย จะมีปัญหาใต้ตาคล้ำมากกว่าเชื้อชาติอื่นๆ
- เม็ดสีสะสม อีกหนึ่งสาเหตุของปัญหาใต้ตาคล้ำ คือ การที่เม็ดสีสะสมบริเวณใต้ตามากกว่าปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากการอักเสบของผิว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือผู้ที่แพ้สารเคมีในเครื่องสำอาง
- อายุเพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นกระดูก และไขมันบริเวณรอบดวงตา ทั้งตรงไขมันที่อยู่ระหว่างผิว และกล้ามเนื้อรอบดวงจะฝ่อลง เป็นสาเหตุให้ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตามองเห็นสีของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังชัดขึ้น และทำให้มองเห็นริ้วรอย และร่องใต้ตาลึกชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- พักผ่อนน้อย หากพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียด รวมถึงการอดหลับ อดนอน นอกจากเป็นการฝึกนิสัยที่ไม่ดี ทำให้เสียสุขภาพแล้ว ยังทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวหนังรอบดวงตาคล้ำขึ้นอย่างชัดเจน และทำให้ร่างกายขาดสมดุล
ฟิลเลอร์ใต้ตา ควรฉีดกี่ CC?
สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดใต้ตาในแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะเป็นผู้ที่พิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ในแต่ละเคส สำหรับปัญหาใต้ตาที่พบได้ทั่วไปอย่าง
- ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใช้ 1-3 cc
- ปัญหากระดูก หรือไขมันใต้ตาทรุด ใช้ 2-3 cc
- ปัญหาถุงใต้ตา ขึ้นอยู่กับปัญหา ถ้ามีกระดูกหน้าแก้มทรุดด้วย อาจต้องมีการแก้ไขบริเวณหน้าแก้มร่วมด้วยจะใช้อยู่ในปริมาณ 2-3 CC หรืออาจมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเคส ดังนั้น จึงจะต้องให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา และแก้ไข ซึ่งทาง DSK Clinic ใช้เทคนิคการรักษาแบบ ABI: Analyze Before Injection ที่เน้นการวิเคราะห์ ประเมินผล และวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้แก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม และตรงจุดมากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี?
หลายคนอาจไม่ทราบว่าฟิลเลอร์นั้นมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีด้วยกัน 3 ยี่ห้อ ดังนี้
- Belotero เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่น และคงตัวสูง โดยมีด้วยกัน 4 รุ่น ได้แก่ Belotero Volume และ Belotero Intense เป็นรุ่นที่มีความคงตัว และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมใต้ตาชั้นลึก ส่วน Belotero Soft และ Belotero Balance มีเนื้อละเอียด เหมาะกับการฉีดใต้ตา เพราะเนื้อฟิลเลอร์สามารถเรียบเนียนไปกับผิวหน้าได้ดี
- Restylane เป็นอีกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีหลายรุ่น และช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลายรูปแบบ เช่น Restylane Vital Light เป็นเจลเนื้อนิ่มที่สุด จึงช่วยแก้ปัญหาร่องในชั้นผิว ใช้ฉีดที่ชั้นตื้น สำหรับ Restylane Classic, Restylane Defyne และ Restylane Lyft เป็นเจลโมเลกุลใหญ่ จึงเหมาะในการแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก หรือร่องใต้ตาลึก และปัญหาถุงใต้ตา
- Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มีหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาใต้ตาได้หลายรูปแบบ เช่น Juvederm Volite มีลักษณะเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด จึงเหมาะกับการทำให้ใต้ตาดูอิ่มฟูมีน้ำมีนวล ส่วน Juvederm Volift จะเป็นเจลแข็งปานกลางสามารถแก้ปัญหาร่องใต้ตาลึกให้ตื้นขึ้น และสุดท้าย คือ Juvederm Voluma เป็นเจลเนื้อแข็งที่สุด จึงช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา และใต้ตาลึกได้ดีที่สุด
ทั้งนี้การเลือกแบรนด์ หรือรุ่นของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับเคส ที่ DSK เราจะใช้เฉพาะฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรป และเลือกรุ่นให้เหมาะกับปัญหาเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และเป็นธรรมชาติสูงสุด
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับทุกคนไหม?
สำหรับการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นรอบดวงตา แต่ไม่ต้องการผ่าตัด ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหารอบตาคล้ำ ขอบตาดำ
- ผู้ที่มีร่องตาลึก เบ้าตาลึก หรือมีริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตา
- ผู้ที่มีเวลาพักฟื้นน้อย และไม่ต้องการผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการกระชับและปรับรูปหน้าบางจุด เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา และไม่ต้องการผ่าตัด
อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่สามารถฉีดให้ได้กับทุกคน โดยผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรฉีด รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเลือดออก หรือเลือดหยุดยาก ผู้ที่แพ้สารไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือมีโรคติดต่อก็ไม่ควรฉีดเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ หรือผู้ที่มีผิวรอบตาหย่อนคล้อยมากเกินไป อาจต้องอาศัยการผ่าตัด แต่อยากแนะนำให้ลองมาปรึกษาแพทย์ก่อนครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นไม่มีอันตราย หากฟิลเลอร์ดังกล่าวผ่านการรับรองจากองค์การอาหาร และยาหรือ อย. แล้ว ซึ่งสามารถมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้นมีความปลอดภัย ได้รับมาตรฐาน และเกิดผลข้างเคียงได้น้อยมาก เพราะมีสารประกอบที่มีอยู่ในร่างกายคนเราอยู่แล้ว อีกองค์ประกอบที่ต้องมีสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ความชำนาญของแพทย์ หากแพทย์มีความรู้ที่ถูกต้อง การใช้ฟิลเลอร์ก็ถือเป็นเรื่องที่ปลอดภัย
คำแนะนำก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สำหรับการดูแลตัว และการเตรียมก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีสิ่งที่ควรปฏิบัติไม่กี่อย่าง โดยทุกคนสามารถทำตามได้ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติ คือ ศึกษาข้อมูลโดยละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด รวมถึงการ เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีรางวัลการันตี และเลือกแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อรับคำนำแนะนำ และช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ เช่น รอยแดงจากเข็มที่ฉีด ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน รวมถึงอาการบวมหลังฉีดก็จะหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังทำอย่างชัดเจน
ส่วนคนที่พบว่าภายหลังการฉีดฟิลเลอร์แล้วมีก้อนบวมเกิดขึ้น ส่วนใหญ่อาจเกิดขึ้นจากยี่ห้อ รุ่น และปริมาณทไม่เหมาะสม รวมถึงเทคนิคของแพทย์ที่อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้ นอกจากนี้ อาจมีสาเหตุมาจากชนิดของฟิลเลอร์ไม่ตรงกับบริเวณที่ฉีด ฉีดไม่ตรงกับบริเวณที่มีปัญหา รวมถึงการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งการใช้ฟิลเลอร์ปลอมอันตรายมาก เพราะนอกจากจะทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนแล้ว ฟิลเลอร์ปลอมยังไม่สลายไปตามธรรมชาติ ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หรือขูดออกเท่านั้น
เช็กให้ชัวร์! ฟิลเลอร์แท้ดูอย่างไร ถ้าไม่อยากโดนย้อมแมว
อย่างที่กล่าวไปว่าการใช้ฟิลเลอร์ปลอมอันตรายมาก ดังนั้น เรามาเช็กกันว่าฟิลเลอร์แท้นั้น เขาดูกันอย่างไร
- Filler Belotero สามารถเช็กเลขทะเบียน อย. และมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง ซึ่งแต่ละกล่องจะมีทั้งหมด 1 CC รวมถึงสามารถเช็กเลข Lot ได้ทั้งบริเวณกล่อง สติกเกอร์ และหลอด รวมถึงโทรไปยังหลายเลข 02-026-1111 บริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่
- Filler Restylane สามารถตรวจสอบได้หลายอย่าง อาทิ มีรอยปรุสำหรับเปิดกล่อง มีเลขทะเบียน อย. รวมถึงเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง นอกจากนี้ ยังต้องมีสติกเกอร์ โมโนแกรม คำว่า “VOID” และเลข Lot ที่ตรงกัน 2 จุดคือ บริเวณข้างกล่อง และหลอด รวมถึงสามารถ สแกน QR CODE บนแอปพลิเคชัน Eztracker
- Filler Juvederm ก็เป็นยี่ห้อที่ได้รับเลขทะเบียน อย. เช่นกัน โดยสามารถเช็ก และดูเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง รวมถึงสามารถเช็กเลข Lot ได้ทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ บริเวณกล่อง ซอง สติกเกอร์ และหลอด โดยตัวเลข Lot ทั้งหมดต้องตรงกัน หรือสามารถโทรเช็กได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 02-640-4999 ต่อ 1
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สำหรับขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องมีการเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนการฉีด ไปจนถึงภายหลังการฉีด แต่ต้องทำอย่างไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกัน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและได้รับการรับมาตรฐาน
- ดูรีวิวจากผู้ที่เคยมาใช้บริการ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเติมฟิลเลอร์ใต้ตา 24 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกาย และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- งดยาแก้ปวด แอสไพริน กลุ่มยา NSAIDs รวมถึงอาหารเสริม
- งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว
ระหว่างฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- แพทย์เจ้าของไข้จะเป็นผู้ประเมินปัญหา และเลือกชนิดของฟิลเลอร์
- ทำความสะอาดฆ่าเชื้อรอบดวงตา และบริเวณที่ต้องทำการฉีดฟิลเลอร์
- แปะยาชา จากนั้นแพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
ภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- คลินิกจะจ่ายยาแก้ปวด ลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงความร้อน และอากาศเย็นจัดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการทำหัตถการบริเวณใต้ตาเป็นเวลา 1 เดือน
- ดื่มน้ำเยอะๆ จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานมากขึ้น
คำแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังจากเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนการดูแลตัวเอง เพื่อให้ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ และเกาในบริเวณที่เติมฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ และออกกำลังกายแบบหักโหมในช่วง 3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเผ็ด อาหารหมักดอง และอาหารดิบ
- ระวังอย่าขยับหน้าเยอะในช่วง 3 วันแรกเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยเฉลี่ย มักบวมประมาณ 1-2 วัน และค่อยๆ หายไปเอง โดยแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้ตามอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากที่หายบมแล้ว จึงสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
ฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดในทันที และเนื้อฟิลเลอร์จะค่อย ๆ กลืนเข้ากับผิวจริงใน 4 สัปดาห์ โดยทั่วไปมักอยู่ได้นาน 12-18 เดือน แล้วแต่ยี่ห้อ และรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็มีส่วนที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานเช่นกัน
วิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด หมอขอแนะนำดังนี้ครับ
ต้องตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ได้ ไม่เสี่ยงต่อยาสอดไส้ ยาหิ้ว
การใช้ยาแท้เป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันมีคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีการใช้ปลอม ยาหิ้ว จำนวนมาก ซึ่งยาหิ้วที่ว่าก็ถือว่าเป็นยาปลอม เพราะยาแท้จะต้องนำเข้าอย่างถูกต้องโดยตัวแทนผู้นำเข้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น หลายคนเข้าใจผิดว่า ฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์จะมีผู้นำเข้าหลายเจ้า ซึ่งไม่เป็นความจริง
- Filler Belotero นำเข้าโดย Merz Aesthetics ประเทศเยอรมัน
- Filler Restylane นำเข้าโดย Galderma ประเทศสวีเดน
- Filler Juvederm นำเข้าโดย Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา
ฟิลเลอร์ที่นำเข้าโดยบริษัทอื่นถือว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอมทั้งสิ้น ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมจะมีการปลอมแปลงหลายเทคนิค เช่น การนำฟิลเลอร์จีนมาสวมกล่องแบรนด์ยุโรป เป็นต้น หรืออีกกรณีที่สามารถเจอได้ คือ การใช้ฟิลเลอร์ปลอมผสมฟิลเลอร์จริง มีการตรวจสอบฟิลเลอร์จริง 1 กล่อง และมีการใช้ฟิลเลอร์ปลอมสอดไส้ หรือใช้แบรนด์เกาหลีสอดไส้ เป็นต้น หมอจึงแนะนำอยากให้คนไข้เช็กด้านในทุกกล่องก่อนฉีดครับ
แพทย์และเทคนิคที่ใช้ฉีด
แม้ฟิลเลอร์จะเป็นฟิลเลอร์แบรนด์เดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่ใช่ว่าการฉีดออกมาผลลัพธ์จะเหมือนกัน เพราะฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่การถมลงไปในจุดที่ขาด แต่ภายใต้ใบหน้าเรามีโครงสร้างที่เชื่อมถึงกัน ทั้งกระดูก ไขมัน กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น
โดยที่ DSK ทีมแพทย์ทุกคนจะใช้เทคนิค ABI หรือ Analyze before Injection ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของที่นี่ในการเพิ่มความละเอียด ในการฉีดด้วยการวิเคราะห์ก่อนฉีดว่าปัญหาที่เป็นเหมาะกับการวางฟิลเลอร์ในระดับความลึกแค่ไหน ในตำแหน่งใด และควรใช้ฟิลเลอร์ตัวไหน ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่สวย ธรรมชาติ และใช้ยาน้อยกว่า
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ DSK Clinic?
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ DSK Clinic เราเป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์ การแก้ไขปัญหาผิวหน้า โครงหน้า และการยกกระชับโดยเฉพาะ โดยทีมแพทย์ที่ DSK เราเป็นทีมแพทย์ที่เน้นในเรื่องของการรักษาที่เหมาะสมให้กับคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด โดยทำการวิเคราะห์ และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้แผนการรักษา และเทคนิคที่เหมาะสม
ที่ DSK เราเป็นคลินิกชั้นนำที่มีจำนวนผู้ใช้บริการติดอันดับ TOP 10 ของประเทศ โดยมีการรักษาด้วยเทคนิค ABI: Analyze Before Injection ที่ทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง และปรับรูปหน้า เพื่อทำการประเมินโครงหน้า และวิเคราะห์ทุกสัดส่วนบนใบหน้าของคนไข้แบบเฉพาะบุคคล ทำให้วินิจฉัยปัญหา และวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด
นอกจากนี้ DSK Clinic ยังคัดสรรฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้โดยเฉพาะ ผ่านมาตรฐาน US FDA และแกะกล่องใหม่ต่อหน้า มั่นใจในความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ทุกคนต้องการ ตลอดจนเทคนิคพิเศษของแพทย์ผู้ชำนาญการที่ไม่ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน จึงทำให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียนสดใส และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ DSK Clinic?
สรุป
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา ถือเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ต้องทนกับปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และริ้วรอยใต้ตา ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นวิธีการที่ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์นอกจากต้องอาศัยยาแท้ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ผลลัพธ์ที่ดีต้องอาศัยประสบการณ์ และเทคนิคของแพทย์ด้วย ไม่ใช่ว่าฟิลเลอร์รุ่นเดียวกันจะให้ผลเหมือนกัน ซึ่งที่ DSK เราเน้นในเรื่องของการวิเคราะห์เคส และออกแบบเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงควรศึกษาหาความรู้อย่างละเอียด รวมถึงเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีรางวัลการันตี และเลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และหมดห่วงในเรื่องผลข้างเคียง และอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น จากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมในคลินิกที่ไม่มีมาตรฐาน