1. ฟิลเลอร์ใต้ตาคือการฉีดยากลุ่ม Cross-linked Hyaluronic acid ลักษณะจะเป็นเนื้อเจล บริเวณใต้ตาโดยหลังจากฉีดไปตัวเนื้อเจลจะสามารถกลืนกับผิวตามธรรมชาติได้ ไม่เหมือนการเสริมซิลิโคนที่จะแยกชั้นกับผิวชัดเจน 

2. ฟิลเลอร์จะสามารถแก้ไขปัญหา ใต้ตาลึก, ร่องใต้ตา, ใต้ตาคล้ำ และถุงใต้ตา ซึ่งปัญหาใต้ตาแต่ละประเภทจะต้องมีการวิเคราะห์และเทคนิคฉีดที่แตกต่างกัน 

3. การเติมฟิลเลอร์ไม่ใช่การเติมผิวให้เต็ม และจำเป็นต้องเข้าใจโครงสร้างกายวิภาคของผิวหน้า กระดูก ไขมัน กล้ามเนื้อ เส้นเลือด ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ละเอียด เพราะโครงสร้างภายในใบหน้าเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนมาก 

4. อยากฉีดฟิลเลอร์ต้องเข้าใจ สาเหตุของปัญหาแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน เพราะปัญหาใต้ตาแต่ละประเภท มีสาเหตุและการรักษาที่ต่างกัน ที่สามารถแบ่งปัญหาออกได้ถึง 5 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภท ต้องไปจัดการกระดูก ไขมัน กล้ามเนื้อ หรือผิวหนังคนละบริเวณกัน การฉีดใต้ตาเลยไม่ง่ายเลย

5. ปัญหาที่มักเกิดจากการฉีดใต้ตาคือ ตาดูบวมล้น แข็งไม่ธรรมชาติ มิติหน้าดูแปลก เป็นก้อน ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากการไม่เข้าใจในสาเหตุของปัญหาใต้ตาที่ต่างกัน ซึ่งเกิดจากการไม่เข้าใจกายวิภาคของหน้า และการไม่เข้าใจมิติที่ดูสวยธรรมชาติของใบหน้านั้นเอง 

6. เทคนิคแพทย์สำคัญมาก เพราะใต้ตาที่ดูสวย จะต้องเป็นใต้ตาที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติมีมิติหน้าที่ละมุน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายซึ่งไม่ง่ายเลย หลายท่านอาจเคยเห็นบางคนที่ฉีดใต้ตามาแล้วดูรู้ว่าทำมา สาเหตุมักเกิดจากการเติมในมิติที่ไม่ธรรมชาติ ใต้ตาล้น ใต้ตาบวมเกินไป ซึ่งเกิดจากเทคนิค ที่ไม่ถูกต้อง นั้นเอง 

7. ต้องมียาที่ดี ปกติหมอจะไม่แนะนำให้คนไข้ฝังใจ เลือกรุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์จากบ้าน เพราะคนไข้แต่ละคนเหมาะกับรุ่นและยี่ห้อที่ต่างกัน ในบางคนอาจต้องใช้ฟิลเลอร์หลายรุ่นร่วมกันด้วยซ้ำ เพราะฟิลเลอร์แต่ละตัวมีความตั้งทรง ความหนืด ความนิ่มแข็งที่ต่างกัน ดังนั้นจึงแนะนำให้แพทย์เป็นคนเลือกรุ่นให้ดีกว่า แต่โดยปกติที่ DSK เราจะใช้แบรนด์จากยุโรปอย่าง Belotero, Restylane มากกว่าแบรนด์จากฝั่งเกาหลี เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และการกลืนกับผิวที่ดีกว่า

8. ปัญหาใต้ตาบางครั้งสาเหตุอาจไม่ได้อยุ่ที่ใต้ตา เพราะบางครั้งปัญหาใต้ตาเกิดจากกระดูก หรือไขมันหน้าแก้มทรุด ทำให้โครงสร้างใต้ตา เกิดการค้ำจุน การแก้ปัญหาใต้ตาในเคสที่ต้องแก้โครงสร้างก่อน แต่ไม่ได้แก้ อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดี หรือไม่เป็นธรรมชาติได้ 

9. เมืองไทยเป็นประเทศที่มีฟิลเลอร์ปลอมเยอะมาก และไม่มีใครบอกว่าตัวเองใช้ของปลอมแน่นอน (จากการคาดการณ์น่าจะเกิน 50% ที่พบการใช้ของของปลอม) หลายคนที่ ที่หลงไปกับสงครามราคา จนมาของหิ้วซึ่งคิดว่าใช้ได้ แต่จริงๆ แล้วคำว่าหิ้วแท้ไม่มีจริง ฟิลเลอร์ปลอมมักเป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตมาจากโรงงานอื่นเลียนแบบ และเอามาติดแบรนด์เอง อาจเป็นฟิลเลอร์คุณภาพต่ำที่ทำให้เกิดปัญหาได้

10. อย่าหลงเชือฟิลเลอร์ราคาถูก ฟิลเลอร์ใต้ตาโดยปกติใช้ปริมาณยา 1-3 cc หากต้องมีการเติมหน้าแก้มเพื่อค้ำจุนด้วยจะใช้เพิ่มอีกประมาณ 2-3 cc ราคาฟิลเลอร์ที่เหมาะสมหากเป็นแบรนด์ยุโรปไม่ควรต่ำกว่า 10,000-15,000 บาท 

11. คลินิกดัง คลินิกได้รางวัลไม่ได้การันตีฟิลเลอร์ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ดังนั้นควรเช็คทุกครั้ง ตั้งแต่การแกะกล่อง และควรเช็คทุกหลอด เพราะกลโกงฟิลเลอร์มีมากมายเช่น ซื้อ 10 หลอดแต่เป็นแท้ 1 ปลอม 9 ซื้อฟิลเลอร์ยุโรป 10 ได้ยุโรป 1 เกาหลี 9 หรือแม้กระทั่งการเลือกฟิลเลอร์เนื้อเหลวกว่าที่ต้องการจะได้อัดปริมาณยาเยอะๆ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีการเกิดขึ้นจริงในคลินิกที่ไม่ซื่อสัตย์กับคนไข้ครับ

12. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่เสี่ยงตาบอด เพราะใต้ตาถือว่าไม่ใช่ตำแหน่งที่มีความเสี่ยงสูง แม้จะอยู้ใต้ตา สิ่งที่หลายๆ คนกังวลคือจะเสี่ยงต่อการตาบอดไหม แต่จริงๆ ฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ได้เสี่ยงต่อการเข้าเส้นเลือดที่ทำให้เกิดตาบอดครับ ถือว่าเป็นพื้นที่ความเสี่ยงต่ำในการทำฟิลเลอร์บริเวณหนึ่ง แต่ต้องอาศัยเทคนิคและความเชี่ยวชาญด้วย ดูรีวิวเพิ่มเติม คลิก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LINE OA @dskinclinic