หลุมสิว ปัญหาน่ากลุ้มใจของคนเป็นสิว ที่นานวันไปยิ่งเริ่มลุกลาม จากจุดเล็ก ๆ รู้ตัวอีกทีก็เพิ่มปริมาณพื้นที่เต็มใบหน้าจนหมดความมั่นใจ แม้ปัญหาหลุมสิวจะเป็นปัญหาที่แสนรักษายาก แต่ไม่ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้! หากเราเข้าใจปัญหาและรักษาอย่างตรงจุด วันนี้ DSK Clinic ขอพาทุกคนไปรู้จักหลุมสิวกัน

หลุมสิวเกิดจาก…?

หลุมสิว (Acne Scar) เกิดจากการยุบตัวของผิวหนังชั้นบนบริเวณหนึ่งซึ่งมักเป็นบริเวณที่เคยเป็นแผลหรือเป็นสิว จนเกิดการอักเสบของผิวชั้นใน การอักเสบที่เกิดขึ้นจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเสียหายและสลายไป
หลังจากนั้นร่างกายจะสร้างพังผืดยึดผิวชั้นบนที่ยุบตัวเข้ากับผิวชั้นใน ตามกลไกรักษาตัวเองของผิว ก่อให้เกิดหลุมสิวอย่างถาวรในที่สุด

ประเภทของหลุมสิว

หลุมสิวจะมีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่

หลักการรักษาหลุมสิว (ปี 2021)

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในการรักษาหลุมสิวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีพลังงานแสงเลเซอร์ และเทคโนโลยีพลังงานคลื่นวิทยุ โดยทั้ง 2 เทคโนโลยีจะเป็นการเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการซ่อมแซม และเกิดการปรับสภาพความเรียบเนียนของหลุมสิว โดยระดับความตื้นลึกที่แสงแลเซอร์หรือคลื่นวิทยุสามารถทะลุทะลวงลงสู่ชั้นผิวหนังได้นั้นจะแตกต่างกันออกไปตามความสามารถของแต่ละเครื่อง ยิ่งเครื่องมือมีวิวัฒนาการมากขึ้น เครื่องนั้นก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น พลังงานลงสู่ชั้นผิวได้ลึกมากขึ้น และมีผลข้างเคียงน้อยลง

อ่านรายละเอียดเลเซอร์หลุมสิวแต่ละประเภท คลิก!

เปรียบเทียบเลเซอร์หลุมสิวปี 2021

หมอปอร์เช่ เปรียบเทียบเลเซอร์หลุมสิวปี 2021 เลเซอร์หลุมสิวมีกี่ประเภท ตัวไหนดีที่สุด

ตารางสรุปเปรียบเทียบ เลเซอร์หลุมสิว

• เปรียบเทียบ E-Matrix, Fractora, Infini, PicoSecond Laser  รักษาหลุมอะไรดีกว่ากัน!
• เปรียบเทียบเลเซอร์หลุมสิวปี 2021 เลเซอร์หลุมสิวมีกี่ประเภท ตัวไหนดีที่สุด!
• Picosecond Laser สร้างลูกโป่งใต้ผิว หลุมจึงตื้นขึ้น จริงหรือ? เหมาะกับหลุมแบบไหน
• เปรียบเทียบ PicoSecond Laser 5 รุ่น ชั้นนำของโลก

วิธีการรักษา “จำเพาะ” ของหลุมสิวแต่ละประเภท

แม้หลุมสิวทั้ง 3 ประเภท จะมีการรักษาหลักที่คล้ายกันคือ การใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
จำเป็นต้องใช้เทคนิคการรักษาหลุมสิวที่แตกต่างกันในแต่ละประเภท โดย D-skin Clinic ขอสรุปเทคนิคการรักษาหลุมสิวแต่ละประเภทดังนี้ 

• หลุมสิวแบบจิก (Icepick Scar) การรักษาที่เหมาะสมคือ TCA CROSS ซึ่งเป็นการใช้กรดกระตุ้นการสร้างฐานหลุม โดยปกติจะทำทุกครั้งก่อนเลเซอร์ ช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นครั้งละ 20-25% โดยหัตถการนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น
• หลุมสิวแบบแอ่งกระทะ (Rolling Scar) เทคนิคที่ดีที่สุดคือการตัดพังผืดด้วยวิธี Cannular Subcision ร่วมกับการฉีด Filler เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดซ้ำ หรืออาจใช้เข็มประเภทอื่น ๆ ในการตัดพังผืดก็ได้
• หลุมสิวแบบกล่อง (Boxcar scar) หากหลุมสิวมีขนาดเล็ก สามารถใช้แนวทางการรักษาเดียวกับ Icepick scar ได้ แต่หากหลุมสิวมีขนาดใหญ่ สามารถใช้แนวทางการรักษาเดียวกันกับ Rolling Scar

การรักษาแบบจำเพาะทั้งหมด ควรทำร่วมกับการใช้เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

อ่านเพิ่มเติม

• เทคนิครักษาหลุมสิว “จำเพาะ” ตามประเภท
• หลุมสิวมีอะไรบ้าง Subcision มีกี่แบบ เทคนิคไหนดีที่สุด!

เครื่องเลเซอร์หลุมสิวแต่ละเครื่องต่างกันอย่างไร

• เครื่องเลเซอร์หลุมสิวแต่ละเครื่องแตกต่างกันที่เทคโนโลยีของเครื่องนั้น ๆ โดยประเภทเทคโนโลยีและสเป็คของเครื่องจะเป็นตัวกำหนดระดับความลึกและผลลัพธ์ที่ได้
• แม้จะเป็นเลเซอร์ประเภทเดียวกัน แต่เครื่องยิงเลเซอร์คนละแบรนด์ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน เพราะมีการปล่อยพลังงานที่แตกต่างกัน เช่น แม้จะเป็นเครื่อง Fractional RF เหมือนกัน แต่ราคาเครื่องก็อาจต่างกันถึง 10 เท่า ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันตามมาตรฐานและเทคโนโลยีของเครื่อง
• ปัจจุบันเครื่องที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุดและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด คือ Fractional RF โดยเครื่องที่ได้ผลดีที่สุด คือ Fractora และ Infini

หากต้องการอ่านรายละเอียดเลเซอร์หลุมสิวแต่ละประเภทโดยละเอียดคลิกที่นี่

เปรียบเทียบ E-Matrix, Fractora, Infini, PicoSecond Laser  รักษาหลุมอะไรดีกว่ากัน!

การรักษาหลุมสิวที่ดี ควรเป็นอย่างไร ?

1. เลือกใช้เครื่องมือที่ลงลึกได้มากพอและเป็นเครื่องมือที่มีมาตรฐานผ่าน USFDA

การเลือกใช้เครื่องมือถือเป็นปัจจัยที่แต่ละคลินิกควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ  เนื่องจากเครื่องรักษาหลุมสิวเป็นเครื่องมือที่มีราคาสูง และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เครื่องมือที่ดีจะต้องมีงานวิจัยสนับสนุนผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการผลิตที่ทั่วโลกยอมรับ มีพลังงานลงลึกมากพอ และมีผลข้างเคียงต่ำ

จากประสบการณ์ของหมอที่ได้ลองเครื่องรักษาหลุมสิวมาแล้วทุกประเภท ปัจจุบันเครื่องมือรักษาหลุมสิวที่ลงไปยังชั้นผิวหนังได้ลึกและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ Infini และ Fractora ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Fractional RF ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA และได้รับการยอมรับทั่วโลก

2. วิเคราะห์ประเภทหลุมสิว และรักษาด้วยวิธีที่จำเพาะต่อหลุมสิวแต่ละประเภทร่วมด้วย

หากไม่รักษาหลุมสิวแต่ละประเภทด้วยวิธีที่จำเพาะร่วมด้วย ก็ยากที่จะทำให้หลุมสิวดีขึ้น เช่น หลุมสิวแบบ Rolling Scar ที่มีพังผืด หากไม่ได้ตัดพังผืด (Subcision) ร่วมด้วยก็ยากที่จะดีขึ้น ส่วนหลุมสิวแบบ Icepick Scar หากปราศจากการประเมินที่ดีเพียงพอและทำ TCA CROSS ร่วมด้วยก็ยากที่จะดีขึ้นเช่นกัน

3. เลือกคลินิกเฉพาะทางด้านหลุมสิวที่มีวิธีการรักษาครบ ทันสมัย และทีมแพทย์มีความชำนาญโดยตรงด้านหลุมสิว

การรักษาหลุมสิวเป็นศาสตร์ที่อาศัยหลายองค์ประกอบร่วมกัน ทั้งความรู้ เครื่องมือ และที่สำคัญคือความละเอียดในการประเมิน และการวางแผนการรักษาที่แตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน ที่ D-Skin Clinic ทีมแพทย์ของเราผ่านการศึกษาเฉพาะทางด้านผิวหนัง ศึกษาต่อเพิ่มเติมด้านหลุมสิวโดยตรง และเตรียมความพร้อมในทุกวิธีการรักษาและหัตถการหลุมสิว จึงมั่นใจได้ว่าสามารถดูแลคนไข้ได้ทุกรูปแบบอย่างดีที่สุด

หากคลินิกนั้น ๆ ขาดวิธีการรักษารูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นได้ว่า “หลุมสิว” นั้นเป็นปัญหาที่สามารถรักษาได้และไม่ใช่เรื่องยาก หากมีความเข้าใจปัญหาและรูปแบบของหลุมสิวของตัวเอง รวมถึงได้รับการรักษาจากแพทย์และเครื่องมือที่มีคุณภาพจาก D-Skin Clinic

5 ข้อแตกต่าง ทำไมต้องรักษาหลุมสิวที่ DSK D-Skin Clinic?