- Blog
- Custom Skin Quality
- July 17, 2021
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ”หลุมสิว “
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
การทาครีม เวชสำอาง การใช้สมุนไพร การใช้ IPL การใช้ Dermapen หรือการกินอาหารเสริมได้ผลไหมในการรักษาหลุมสิว?
ปัจจุบัน ไม่มีครีม เวชสำอาง สมุนไพร หรืออาหารเสริมชนิดใด ๆ ที่สามารถรักษาหลุมสิวได้จริงและมีงานวิจัยหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ส่วนการใช้เลเซอร์หรือแสงประเภทอื่น ๆ เช่น IPL หรือ Q-switch Nd:YAG ก็ไม่สามารถรักษาหลุมสิวได้เช่นกัน
รักษาหลุมสิวต้องทำกี่ครั้ง เห็นผลมากน้อยแค่ไหน?
กระบวนการรักษาหลุมสิวที่เราทำในทางการแพทย์ปัจจุบัน คือ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องกระตุ้นซ้ำ ๆ โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความลึกของหลุมสิว และความยากของแต่ละเคส
แต่ด้วยเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยของ DSK คนไข้จำนวนมากพบว่าเห็นผลดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและการตอบสนองในแต่ละคนด้วย
การรักษาหลุมสิวไม่สามารถทำให้หลุมสิวหายไปเหมือนไม่เคยมีหลุมเกิดขึ้นบนใบหน้าได้ แต่เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถทำให้รอยหลุมตื้นขึ้น 60-90% จนคนทั่วไปมองแทบไม่เห็น หรือไม่ทันสังเกตว่าเคยมีหลุมสิวเกิดขึ้น
รักษาหลุมสิวต้องพักหน้าไหม ต้องหยุดงานไหม?
- Fractora จะมีสะเก็ดด้านบนบาง ๆ 5-7 วัน แต่สะเก็ดจะบางมากกว่าเลเซอร์แบบเก่า ทำให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- Infini เนื่องจากมีการหุ้มฉนวนที่ตัวเข็ม ทำให้เกิดสะเก็ดบนผิวหนังด้านบนน้อยมาก และเน้นกระตุ้นที่ผิวหนังชั้นล่างแทน
- Picosecond laser จะมีเพียงรอยแดงบนใบหน้า แต่ไม่มีสะเก็ดแผล ทำให้สามารถแต่งหน้ากลบรอยแดงได้เลย ไม่จำเป็นต้องพักหน้า สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เลเซอร์แพงและเลเซอร์ถูกแตกต่างกันหรือไม่?
ถึงแม้เลเซอร์บางตัวจะมีชื่อคล้ายคลึงกัน แต่คุณภาพและผลลัพธ์การรักษาอาจแตกต่างกัน เช่น Fractional RF ที่ใช้ในคลินิกทั่วไปก็มีหลายแบรนด์หลายรุ่น แต่ไม่ใช่ทุกรุ่นจะให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน โดยแต่ละรุ่นก็จะมีรายละเอียดและมาตรฐานของเครื่องที่แตกต่างกันออกไป ในปัจจุบันเลเซอร์หลุมสิวมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน ซึ่งเลเซอร์ราคาถูกเหล่านี้มักเป็นเลเซอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นต้นทุนของตัวเครื่องและผลลัพธ์ในการรักษาจึงแตกต่างจากเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน 10-100 เท่า คนไข้หลายคนอาจเคยอยากลองเลเซอร์ที่ราคาถูกและมักพบผลลัพธ์ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจแม้จะทำเป็นสิบครั้งก็ตาม ซึ่งค่าใช้จ่ายรวม ๆ อาจจะมากกว่าการเริ่มรักษาอย่างถูกต้องด้วยเครื่องมือที่มีคุณภาพก็ได้
อย่างไรก็ตามเลเซอร์ที่มีราคาสูงก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้เครื่องที่มีประสิทธิภาพเสมอไป ดังนั้นจึงควรเข้ารับบริการเลเซอร์หลุมสิวในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
เลเซอร์รักษาหลุมสิวแต่ละตัวต่างกันอย่างไร?
- เครื่องเลเซอร์หลุมสิวแต่ละเครื่องแตกต่างกันที่เทคโนโลยีของเครื่องนั้น ๆ โดยประเภทเทคโนโลยีและสเป็คของเครื่องจะเป็นตัวกำหนดระดับความลึก และผลลัพธ์ที่ได้
- แม้จะเป็นเลเซอร์ประเภทเดียวกัน แต่เครื่องยิงเลเซอร์คนละแบรนด์ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน เพราะมีการปล่อยพลังงานที่แตกต่างกัน เช่น แม้จะเป็นเครื่อง Fractional RF เหมือนกัน แต่ราคาเครื่องก็อาจต่างกันถึง 10 เท่า ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันตามมาตรฐานและเทคโนโลยีของเครื่อง
- ปัจจุบันเครื่องที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุดและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด คือ Fractional RF โดยเครื่องที่ได้ผลดีที่สุด คือ Fractora และ Infini
เลเซอร์หลุมสิวโดยละเอียด คลิก!
เปรียบเทียบ E-Matrix, Fractora, Infini, PicoSecond Laser รักษาหลุมอะไรดีกว่ากัน
เลเซอร์รักษาหลุมสิวตัวไหนดีที่สุด
ปัจจุบันเลเซอร์หลุมสิวที่หมอคิดว่าได้ผลดีมี 3 ชนิดคือ Fractora, Infini และ Picosecond Laser ซึ่งจะเลือกตามลักษณะหลุมสิวของคนไข้
หลุมสิวแต่ละประเภทรักษาต่างกันหรือไม่
ลักษณะมีขอบคม ขอบเขด ปากขอบและฐานขนาดใกล้เคียงกัน
ลักษณะมีขอบคม ขอบเขด ปากขอบและฐานขนาดใกล้เคียงกัน
ลักษณะฐานกว้าง ไม่มีขอบขัด มีความโค้ง มีขนาดกว้างมากกว่า 4-5 mm
หลุมสิวแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Icepick, Rolling และ Boxcar โดยหลุมสิวแต่ละประเภทจะรักษาด้วยวิธีการหลักแบบเดียวกัน คือการใช้พลังงานกลุ่มเลเซอร์และคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ แต่จะมีการรักษาเสริมที่แตกต่างกัน เช่น ทั้งหลุมสิวแบบ Rolling scar และ Icepick scar ต้องรักษาด้วยเครื่องมือ Fractora หรือ Infini เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันโดยหลุมสิวแบบ Rolling จำเป็นต้องตัดพังผืด (Subcision) ร่วมด้วย ในขณะที่หลุมสิวแบบ Icepick ต้องอาศัยการทำหัตถการ TCA CROSS ร่วมด้วยจึงจะได้ผลดี
ดังนั้นการรักษาหลุมสิวให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จำเป็นต้องอาศัยทั้งการใช้เลเซอร์และการรักษาด้วยเทคนิคจำเพาะตามแต่ละประเภทของหลุมสิวควบคู่กัน
ซึ่งจะมีเฉพาะบางคลินิกเท่านั้นที่ให้บริการเหล่านี้ได้ครบครัน
เลือกคลินิกรักษาหลุมสิวอย่างไรให้ได้ผล?
การเลือกใช้เครื่องมือถือเป็นปัจจัยที่แต่ละคลินิกควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากเครื่องรักษาหลุมสิวเป็นเครื่องมือที่มีราคาสูง และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เครื่องมือที่ดีจะต้องมีงานวิจัยสนับสนุนผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการผลิตที่ทั่วโลกยอมรับ มีพลังงานลงลึกมากพอ และมีผลข้างเคียงต่ำ
จากประสบการณ์ของหมอที่ได้ลองเครื่องรักษาหลุมสิวมาแล้วทุกประเภท ปัจจุบันเครื่องมือรักษาหลุมสิวที่ลงไปยังชั้นผิวหนังได้ลึกและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ Infini และ Fractora ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Fractional RF ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA และได้รับการยอมรับทั่วโลก
หากไม่รักษาหลุมสิวแต่ละประเภทด้วยวิธีที่จำเพาะร่วมด้วย ก็ยากที่จะทำให้หลุมสิวดีขึ้น เช่น หลุมสิวแบบ Rolling Scar ที่มีพังผืด หากไม่ได้ตัดพังผืด (Subcision) ร่วมด้วยก็ยากที่จะดีขึ้น ส่วนหลุมสิวแบบ Icepick Scar หากปราศจากการประเมินที่ดีเพียงพอและทำ TCA CROSS ร่วมด้วยก็ยากที่จะดีขึ้นเช่นกัน
การรักษาหลุมสิวเป็นศาสตร์ที่อาศัยหลายองค์ประกอบร่วมกัน ทั้งความรู้ เครื่องมือ และที่สำคัญคือความละเอียดในการประเมิน และการวางแผนการรักษาที่แตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน ที่ D-Skin Clinic ทีมแพทย์ของเราผ่านการศึกษาเฉพาะทางด้านผิวหนัง ศึกษาต่อเพิ่มเติมด้านหลุมสิวโดยตรง และเตรียมความพร้อมในทุกวิธีการรักษาและหัตถการหลุมสิว จึงมั่นใจได้ว่าสามารถดูแลคนไข้ได้ทุกรูปแบบอย่างดีที่สุด
หากคลินิกนั้น ๆ ขาดวิธีการรักษารูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร
PRP หลุมสิวได้ผลหรือไม่?
PRP คือการสกัด Growth Factor ออกมาจากเกล็ดเลือดของตัวเราเอง ซึ่งโดยปกติ Growth Factor ที่อยู่ในเกล็ดเลือดนี้จะไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ทำงานได้ จึงจำเป็นต้องสกัดออกมาด้วยวิธีการดังกล่าว ดังนั้นประสิทธิภาพของ PRP จึงขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและระบบที่ใช้ในการสกัดเกล็ดเลือดนี้ออกมาให้ได้
จากงานวิจัยจำนวนมากที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ พบว่าการใช้ PRP ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น เลเซอร์หลุมสิว หรือการตัดพังผืด จะทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้น เปรียบเสมือนการเติม Growth Factor เพื่อให้เนื้อเยื่อสามารถสร้างได้ดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า PRP ที่คลินิกไหนก็เหมือนกัน เพราะปัจจุบันคลินิกจำนวนมากใช้หลอดปั่นเลือดแบบธรรมดาแล้วสกัดส่วนของน้ำเลือดสีเหลืองใสหรือ plasma มาฉีดให้คนไข้ โดยไม่ได้ใส่ส่วนของ PRP ที่แท้จริง หลอดปั่นเลือดเหล่านั้นคือหลอดปั่นเลือดที่ใช้ในการเก็บเลือดไปตรวจแลปในโรงพยาบาล เช่น ตรวจระดับน้ำตาลหรือระดับไขมัน ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการปั่น แล้วดูดกลับไปฉีดที่ใบหน้า ทำให้ไม่สามารถสกัดส่วนที่มีประโยชน์ในเลือดได้มากพอ นอกจากนี้บางสถานพยาบาลอาจใช้สารกันเลือดแข็งตัวชนิดที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้มากอีกด้วย
ดังนั้นหากต้องการ PRP ที่ได้ผล สิ่งสำคัญ คือควรเลือกระบบที่มีประสิทธิภาพจริง สามารถสกัดเกล็ดเลือดออกมาได้มากจริง ทำให้ได้ปริมาณ Growth Factor ที่ออกฤทธิ์ได้มากเพียงพอ
Picosecond Laser เหมาะกับการรักษาหลุมสิวหรือไม่?
เทคโนโลยีใหม่อีกตัวที่เป็นที่พูดถึงกันในปีที่ผ่านมาก็คือ Picosecond Laser ซึ่งสำหรับหมอก็ถือเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนวงการเลเซอร์ผิวหนังไปมากทีเดียว สิ่งที่ Picosecond Laser ทำได้ดีอันดับ 1 แบบที่เลเซอร์ตัวอื่นเทียบไม่ติดคือ ปัญหาฝ้า กระ รอยสิว ผิวหน้ากระจ่างใส และการย้อนวัยผิวแก่หรือไม่เรียบเนียน
และสิ่งที่โดดเด่นของ Picosecond Laser คือ การที่ตัวมันเองสามารถจัดการ 2 ปัญหาได้พร้อมกัน ทั้งปัญหาเม็ดสีรอยดำรอยแดง ฝ้ากระ และปัญหาพื้นผิวไม่เรียบเนียน เช่น รูขุมขน หลุมสิว ผิวมีริ้วรอย โดยเทคโนโลยีนี้จะใช้เลนส์พิเศษที่เรียกว่า Fractional Lens Array เช่น MLA (Micro Lens Array) หรือ DOE (Diffractive Lens Array) ซึ่งการใช้เลนส์พิเศษนี้จะทำให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ใต้ผิว (Microcavity) ที่เรียกว่า LIOB (Laser-Induced Optical Breakdown) ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาได้ โดยไม่ก่อให้เกิดบาดแผลด้านบนผิวเหมือนเลเซอร์กลุ่มเดิม
สิ่งที่ไม่มีเลเซอร์ตัวไหนเทียบ Picosecond Laser ได้ในด้านการรักษาหลุมสิว คือ
– Low Downtime เนื่องจาก Picosecond Laser ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือสะเก็ดด้านบน ทำให้หลังการรักษามีเพียงรอยแดง ๆ เท่านั้น จึงสามารถแต่งหน้าทับได้ทันที และไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมากนัก
– สามารถจัดการรอยดำและรอยแดงของสิวพร้อมกับปัญหาผิวไม่เรียบเนียนและรูขุมขน หลุมสิว
อ่านบทความเกี่ยวกับ Picosecond Laser โดยละเอียดได้ที่นี่
Picosecond laser VS Fractora VS Infini VS E-Matrix
หากเราไม่พูดถึงเรื่อง Downtime ไม่พูดถึงสะเก็ด ไม่พูดถึงเรื่องรอยดำรอยแดง แต่พูดถึงผลลัพธ์ด้านหลุมสิวอย่างเดียว อะไรให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า?
ต้องบอกว่าในเชิงของการสร้างคอลลาเจน บริเวณหลุมสิว Infini
ยังเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะในหลุมสิวที่ยากต่อการรักษา Infini ถือว่าให้ผลดีมาก
ตามมาด้วย Fractora
สำหรับ Picosecond Laser ในความเห็นส่วนตัวของหมอ หมอชอบมากกว่า E-matrix เพราะจากการสังเกตคนไข้พบว่า Picosecond Laser มอบผลลัพธ์ที่ดีกว่า ทั้งในเชิงของหลุมสิว และรอยแดงรอยดำ
ดังนั้นถ้าเรียงลำดับอาจจะเป็น Infini > Fractora > Picosecond Laser > E-matrix
ทั้งนี้ตัว Picosecond Laser เองก็มีข้อดีอื่น ๆ ดังนั้นเคสหลุมสิวทุกเคสจึงควรให้แพทย์ประเมินอย่างละเอียด เพราะในบางเคส การรักษาด้วยเครื่องมือหลายชนิดก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า และเหมาะสมกับคนไข้มากกว่า
การรักษาด้วยฟิลเลอร์หลุมสิว ได้ผลไหม? ถาวรหรือชั่วคราว?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นการใช้ฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid ซึ่งมีส่วนประกอบเหมือนองค์ประกอบตามธรรมชาติของผิว ฉีดเข้าไปใต้หลุมเพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้นทันที การรักษาวิธีนี้มักใช้ร่วมกับการตัดพังผืดด้วยวิธี Subcision เพื่อตัดพังผืดที่ยึดใต้ฐานหลุมออกก่อน หลังจากนั้นจึงเติม Filler เพื่อให้หลุมตื้นขึ้น ตัวฟิลเลอร์ที่ใช้มักเป็นฟิลเลอร์เนื้อบางซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ แต่การเติมฟิลเลอร์หลุมสิว นอกจากได้ผลชั่วคราวแล้ว ยังได้ผลระยะยาวในการป้องกันการเกิดพังผืดใหม่หลังตัดพังผืดไปแล้ว โดยทั่วไปหลังตัดพังผืด (Subcision) ไปแล้ว หากเนื้อเยื่อบริเวณนั้นไม่มีอะไรมาคั่นก็อาจเกิดพังผืดใหม่ได้ง่าย ทำให้การรักษาเป็นไปได้ยากขึ้น ดังนั้นการเติมฟิลเลอร์หลุมสิว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวระยะยาวดีขึ้นร่วมกับการทำเลเซอร์หรือ Subcision
เทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวที่ DSK D-Skin Clinic : Fractora, Infini, Picosecond Laser เลเซอร์ชนิดไหนดีกว่ากัน?
ที่ D-Skin Clinic เราเลือกใช้ Fractora, Infini และ Picosecond Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ 3 ชนิดที่ให้ผลดีที่สุดเรื่องหลุมสิวในปัจจุบัน
ข้อดีของการมีทั้ง 3 เครื่อง คือแพทย์ผู้มีประสบการณ์ชำนาญในการรักษาหลุมสิวจะสามารถเลือกเครื่องมือที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดกับผิวของคนไข้แต่ละคนได้ คนไข้จึงไม่ต้องตัดสินใจเลือกรักษาด้วยเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีเอง
ความแตกต่างของ Fractora และ Infini คือ Fractora จะสามารถส่งพลังงานได้ระดับเดียว คือที่ความลึก 1.5 mm แต่ Infini จะส่งพลังงานโดยระบบ Automatic สามารถตั้งระดับการส่งพลังงานได้ตั้งแต่ 0.5-3.5 mm โดยแพทย์สามารถเลือกระดับความลึกที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนได้ นอกจากนี้ Infini ยังมีหัว Gold-Insulation ทำให้พลังงานส่งตรงไปที่ผิวชั้นล่าง โดยสร้างความเสียหายกับผิวชั้นบนน้อยกว่าเลเซอร์ทั้งหมดที่เคยมีมา
ในประเทศไทย E-Matrix เคยเป็นที่นิยมในช่วงเวลาหนึ่งอย่างมาก แต่ในต่างประเทศ E-matrix จะใช้เฉพาะกับหลุมที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ หรือหลุมที่ไม่ได้เป็นเยอะเท่านั้น
สำหรับ Picosecond Laser จะเหมาะกับเคสที่ระดับความรุนแรงของหลุมน้อยกว่า แต่มีปัญหารอยดำรอยแดงร่วมด้วย และเหมาะกับผู้ที่ต้องการแต่งหน้าทันที หรือต้องการทำได้บ่อย ๆ โดยไม่มีสะเก็ดเลย
หากเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีเดิมที่เคยได้รับความนิยมอย่าง Fractional CO2, E-Matrix (ไม่มีระบบเข็มนำพลังงาน), Venus Viva (มีระบบเข็มนำพลังงานยาว 0.5 mm)
หมอพบว่า Fractora และ Infini ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าหลายเท่า และคนไข้จำนวนมากที่ไม่ตอบสนองต่อ E-Matrix ก็สามารถตอบสนองต่อ Fractora และ Infini ได้ดี ซึ่งก็เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า เลเซอร์เหล่านั้นไม่สามารถส่งพลังงานได้ลึกมากพอเมื่อเทียบกับ Fractora และ Infini ทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน