- Blog
- Custom Skin Quality
- October 11, 2021
พาไปรู้จัก 4 หัตถการเสริมสำหรับหลุมสิว: Subcision, PRP, TCA Cross และ Filler
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
หากพูดถึงการรักษาหลุมสิว วิธีการรักษายอดนิยมคงจะไม่พ้นเลเซอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Fractora, Infini หรือ Picosecond Laser ซึ่งถือเป็น 3 เลเซอร์ยอดฮิตมาตรฐานจากอเมริกาที่สามารถกระตุ้นผิวชั้นลึกอย่างได้ผล เสริมสร้างคอลลาเจน และทำให้หลุมตื้นขึ้นได้จริง
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเสริมประสิทธิภาพของเลเซอร์ให้ปังขึ้นไปอีก ปัจจุบันมีหัตถการมากมายที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นมากขึ้น ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย
Subcision
การตัดพังผืดหลุมสิว (Subcision) เป็นหัตถการรักษาหลุมสิวรูปแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมมาก ทำโดยใช้เข็มขนาดเล็กเข้าไปเซาะพังผืดใต้หลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบแอ่งกระทะ (Rolling scar) และหลุมสิวแบบกล่อง (Boxscar Scar) โดยการทำ Subcision ให้ประสบความสำเร็จจะต้องตัดพังผืดให้ขาดออกจากกันจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่แทงเข็มเข้าไป เพื่อให้สิ่งที่ยึดฐานหลุมสิวไว้มันขาดออกนั่นเอง
ปัจจุบัน Subcision สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่สามารถตัดพังผืดทั้งหมดได้ในคราวเดียว และไม่ต้องมีแผลหลายบริเวณ และเป็นวิธีที่มีงานวิจัยสนับสนุนว่าดีกว่าวิธีอื่น ๆ คือ Cannula Subcision ซึ่งเป็นวิธีที่ DSK D-Skin Clinic เลือกใช้
เพื่อให้ Subcision ได้ผลดีขึ้น และไม่ต้องทำบ่อย การเติมฟิลเลอร์ที่ทำจากไฮยาลูรอน (HA) เข้าไปที่หลุมสิวหลังทำ Subcision จึงเป็นที่นิยม พบว่าช่วยให้ผลลัพธ์หลังการรักษาดีขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
Subcision มีกี่แบบ! เทคนิคไหนดีที่สุด
PRP
PRP (Platelet-rich Plasma) เป็นการสกัดเอา Growth factor ที่อยู่ในเกล็ดเลือดของเราออกมาแล้วฉีดลงไปบนหลุมสิว เพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนที่หลุมสิวเดิม โดยการฉีดหลุมสิวให้ได้ประสิทธิภาพ ความเข้มข้นของเกล็ดเลือดต้องมากเพียงพอ และต้องสกัดเอาส่วนที่เป็นเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาวออกไปให้หมด
ในท้องตลาดเราจะเห็นราคา PRP ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น โดยสิ่งที่แตกต่างกันของ PRP เหล่านี้คือระบบที่ใช้ในการสกัด ชุด Kit ที่ใช้สกัด รวมถึงเครื่องปั่นเลือด แน่นอนว่า PRP หลักร้อยมักมีต้นทุนหลอดปั่นเลือดเพียงหลักสิบบาท ในขณะที่ชุดปั่น PRP ที่ดีและได้ผลจริง ๆ มักมีราคาหลักหลายพัน เนื่องจากสามารถปั่นเกล็ดเลือดให้ออกมามีความเข้มข้นมากพอ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมเหนือกว่า PRP แบบถูก ๆ แน่นอน
นอกจากผลลัพธ์แล้ว อีกสิ่งที่ต้องกังวลคือความปลอดภัย เพราะหลาย ๆ คลินิกใช้หลอดปั่นเลือดทั่วไปเหมือนที่ใช้ส่งตรวจแลปตามโรงพยาบาล ซึ่งหลอดพวกนั้นไม่ได้ปลอดเชื้อ 100% และไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ PRP โดยตรง ดังนั้นหากนำหลอดที่ปนเปื้อนมาบรรจุเกล็ดเลือด ก็อาจทำให้ใบหน้าบริเวณที่ฉีดเกิดการอักเสบได้
ที่ DSK D-Skin Clinic เราใช้หลอดปั่นเลือด ชุด Kit และระบบคัดแยกที่ได้มาตรฐานแบบเดียวกับที่ใช้ในโรงพยาบาลชั้นนำ ใช้ได้แม้กระทั่งกับดวงตา ดังนั้นมั่นใจได้ในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
หลาย ๆ งานวิจัยพบว่าเมื่อทำ PRP ร่วมกับเลเซอร์หลุมสิว หรือหัตถการหลุมสิวอื่น ๆ เช่น Subcision จะช่วยให้หลุมสิวต่าง ๆ ตื้นขึ้น ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
TCA CROSS
เป็นการใช้กรด TCA (Trichloro-acetic Acid) ความเข้มข้นสูงแต้มลงไปบริเวณที่เป็นหลุมสิวด้วยไม้จิ้มฟันหรือเข็มเล็ก ๆ กรดจะทำให้หลุมสิวเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา บริเวณที่เคยเป็นหลุมจึงดูตื้นขึ้น เรียบเนียนขึ้น เติมเต็มมากขึ้น เหมาะกับหลุมสิวแบบจิก (Icepick scar) และหลุมสิวแบบกล่อง (Boxcar Scar)
ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ให้บริการรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิค TCA CROSS เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ใช้กรดความเข้มข้นที่จำเพาะแต้มบริเวณหลุมสิว ดังน้ันจึงต้องอาศัยความชำนาญสูง แพทย์ผู้ทำหัตถการจะต้องเชี่ยวชาญและสามารถประเมินปัญหาหลุมสิวได้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นก็อาจทำให้การรักษาไม่ได้ประสิทธิภาพและเป็นอันตรายต่อผิวหน้าของคนไข้ได้
Filler
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว คือการใช้สารกลุ่มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีส่วนประกอบเหมือนองค์ประกอบตามธรรมชาติของผิวฉีดเข้าไปใต้หลุม เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำขึ้น กระชับรูขุมขน หลุมสิวดูตื้นขึ้นทันที การรักษาวิธีนี้มักทำร่วมกับ Subcision เพื่อตัดพังผืดที่ยึดใต้ฐานหลุมออกก่อน หลังจากนั้นจึงเติมฟิลเลอร์เพื่อให้หลุมตื้นขึ้นและดูเต็มมากขึ้น
ตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ควรเป็นฟิลเลอร์เนื้อบาง โดยเฉลี่ยอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ
สิ่งที่คนไข้หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเติมฟิลเลอร์หลุมสิวก็คือ วิธีนี้เป็นการรักษาที่ได้ผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้ว ฟิลเลอร์หลุมสิวถือเป็นเคล็ดลับของการรักษาหลุมสิวระยะยาวเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถป้องกันการเกิดพังผืดใหม่หลังจากการทำ Subcision ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้การกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์ได้ผลดียิ่งขึ้น และยังไม่สามารถทดแทนด้วยการรักษาอื่นได้
นอกจากความสามารถในการคั่นการเกิดพังผืดใหม่ ฟิลเลอร์หลุมสิวจากไฮยาลูรอน (HA) ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นเมื่อผ่านไป 6-8 เดือน แม้ตัวฟิลเลอร์จะสลายไปแล้ว แต่พบว่าหลุมสิวไม่ได้กลับมาลึกเท่าเดิม เพราะพังผืดถูกตัดและแยกออก ประกอบกับมีคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นมาใหม่เพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นการเติมฟิลเลอร์หลุมสิว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวระยะยาวดีขึ้นร่วมกับการทำเลเซอร์หรือ Subcision นั่นเอง
สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมเต็มหลุมสิว หมอขอแนะนำยี่ห้อ Belotero โดยเฉพาะรุ่น Soft และ Balance เนื่องจากฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีกรรมวิธีในการผลิตเฉพาะตัวที่เรียกว่า CPM Technology ดังนั้นจึงกลืนกับผิวมากที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ สามารถเติมเต็มหลุมสิวอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ที่ DSK D-Skin Clinic เรามีฟิลเลอร์ให้เลือกทั้ง 3 ยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Belotero, Restylane หรือ Juvederm ดังนั้นแพทย์จะประเมินสภาพผิวของแต่ละคนอย่างละเอียดก่อน เพื่อเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหามากที่สุด