- May 5, 2021
ยกกระชับ ปรับรูปหน้า
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
ปัจจุบันการยกกระชับ ปรับรูปหน้ามีหลายวิธีมาก ๆ วิธีที่เป็นที่รู้จักจะมีทั้ง Botox, Filler, HIFU, Thermage และ Ulthera แล้ววิธีพวกนี้แตกต่างกันอย่างไร? ใครควรใช้วิธีไหน? ในบทความนี้หมอจะมาอธิบายเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น
การปรับรูปหน้า แบ่งเป็น 2 ประเภท
อายุเยอะ ต้องการยกกระชับ
จุดมุ่งหมายของคนไข้กลุ่มนี้คือ “อยากดูเด็กลง” ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำคือ “ย้อนสภาพผิว” กลับไปให้ใกล้เคียงวัยหนุ่มสาวให้ได้มากที่สุด
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับโครงสร้างใบหน้าที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ได้แก่
- ผิวหนัง (Skin) ขาดความยืดหยุ่น ผิวหนังยืดตัวออก หย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ไขมันชั้นตื้น (Superficial fat) เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อยตามเเรงโน้มถ่วง
- ไขมันชั้นลึกเเละกระดูก (Deep Fat & Bone) สลายไป ส่งผลให้ขาดตัวค้ำจุนโครงสร้างใบหน้า เปรียบเสมือนพื้นบ้านที่ทรุดตัวลง เกิดเป็นร่องลึก
- เส้นเอ็นบนใบหน้า (Ligament) หย่อนตัวลงเเละยืดออก เปรียบเสมือนเสาบ้านที่ไม่เเข็งเเรง
อายุไม่เยอะ แต่อยากปรับรูปหน้าให้สวยขึ้น
คนไข้กลุ่มนี้ไม่ได้ดูมีอายุ แต่อยากปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น เช่น ใบหน้าเล็กลง หน้าวีเชฟมากขึ้น กรอบหน้าเรียวคม สิ่งที่ต้องทำก็คือการวิเคราะห์ว่าใบหน้าที่ควรจะเป็น หรือที่ต้องการเป็นแบบไหน เช่น ถ้าอยากให้หน้าวีเชฟ สามารถใช้โบท็อกซ์ช่วยในกรณีที่กรามใหญ่ หรือสามารถใช้ UltraHIFU ช่วยในกรณีที่ใบหน้าหย่อนคล้อย เป็นต้น
เครื่องมือในปัจจุบันจะเข้าไปแก้ไขปัญหาของใบหน้าแต่ละชั้น ดังนั้นแต่ละคนอาจเหมาะกับวิธีการยกกระชับไม่เหมือนกัน แตกต่างกันตามโครงสร้างที่เสื่อมไป
- ถ้าผิวหนังหย่อนคล้อย แต่กระดูกหรือไขมันไม่หายไป เหมาะกับการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างคอลลาเจนใหม่ เช่น UltraHIFU
- แต่ถ้าโครงสร้างค้ำจุนหายไป กระดูกกร่อน ไขมันลดลง เส้นเอ็นหย่อน ในขณะที่ผิวหนังไม่ได้หย่อนมาก การใช้ Filler เพื่อทดแทนโครงสร้างค้ำจุนที่หายไป ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม
ทำความเข้าใจ เทคโนโลยีต่าง ๆ ใช้ปรับรูปหน้าต่างกันอย่างไร?
UltraHIFU, HIFU, Ulthera
หลักการ ทำให้ผิวหดตัวด้วยการปล่อยพลังงานให้ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่หมอศัลยกรรมเข้าไปผ่าตัดยกใบหน้า พลังงานนั้นจะทำให้ชั้น SMAS หดตัว กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังให้มากขึ้น เกิดความกระชับมากขึ้น
HIFU และ Ulthera จะเน้นการยกกระชับในคนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยหรือไม่กระชับ เปรียบเสมือนการยกผิวหน้า เทียบเท่าการศัลยกรรม ไม่ต้องผ่าตัด
เครื่องมือยกกระชับในปัจจุบันก็มีทั้งเครื่องถูกเครื่องแพง มีหลากหลายยี่ห้อ ยี่ห้อที่หมอแนะนำคือ Ultraformer, UltracelQ+ และ Ulthera
ส่วนแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด อาจเป็นแบรนด์ที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ เราก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าพลังงานที่ยิงลงไปมันแม่นยำถึง SMAS จริง ๆ หรือเปล่า จะได้ผลหรือไม่ได้ผล หรือได้ผลหลังทำแค่ไม่นานจากการหดตัวชั่วคราวเท่านั้นหรือเปล่า
จึงแนะนำให้เลือกแบรนด์ HIFU ที่มีมาตรฐาน เช่น Ultraformer, UltracelQ+ และ Ulthera เท่านั้น
Botox
หลักการ ใช้ Botulinum toxin ลดการทำงานกล้ามเนื้อที่ต้องการอเช่น กล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย กล้ามเนื้อกราม กล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนหน้าทรงเหลี่ยม หรือทรง U ให้เป็นทรง V ด้วยการลดมุมของกล้ามเนื้อกราม นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้ฉีดกรอบหน้าเพื่อยกกระชับได้ แต่ผลลัพธ์ในด้านการยกกระชับอาจไม่ดีเท่า UltraHIFU หรือ Ulthera
- ใช้ฉีดลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ แสดงสีหน้า เช่น ตีนกา หว่างคิ้ว หน้าผาก
สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับโบท็อกซ์คือ ปัจจุบันยาปลอมและยาหิ้วมีเยอะมาก แม้กระทั่งในคลินิกหลายแห่งก็ตาม โดยยากลุ่มนี้ล้วนเป็นยาผิดกฎหมาย ไม่รู้ที่มาที่ไป ลักลอบนำเข้า มักเป็นโบท็อกซ์จากจีนที่มาสลับกล่องเอา โบท็อกซ์กลุ่มนี้อันตรายเพราะเราไม่รู้มาตรฐานในการผลิต อาจได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง หรือถ้าโชคร้ายในขวดอาจมียามากกว่าที่ระบุ 10 เท่า แทนที่จะได้ผลที่พอใจ กลับมากเกินไปจนต้องเข้าโรงพยาบาลมาก็มีมาแล้ว ดังนั้นควรเช็คให้ชัวร์ก่อนฉีดว่ายาที่ใช้เป็นยาแท้
มหากาพย์โบท็อกซ์ (Botox) เลือกฉีดยี่ห้อไหน ประเทศไหนดีนะ?
Filler
หลักการ เติมปริมาตรในส่วนที่ขาดโดยใช้ Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในผิว สามารถกลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับผู้ที่มีสัญญาณของปริมาตรผิวที่หายไป เช่น หน้าแก้มหาย ร่องแก้ม แก้มตอบ ใต้ตา
- เหมาะกับผู้ที่มีสัดส่วนหน้าไม่พอดี เช่นคางสั้น ขมับตอบ
- สามารถใช้ฉีดยกกระชับ โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเหมาะสม
สิ่งที่หลาย ๆ คนกังวลเกี่ยวกับฟิลเลอร์คือ ฉีดแล้วหน้าจะใหญ่ขึ้นไหม หน้าจะแปลกไหม จะเป็นก้อนไหม
ต้องบอกว่าปัจจุบันฟิลเลอร์พัฒนาไปไกลมาก ถ้าเราเลือกฟิลเลอร์ถูกยี่ห้อ ฉีดด้วยเทคนิคถูกต้อง ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มส่วนที่บกพร่องของผิว และกลืนกับเนื้อผิวได้ โดยที่คลำไม่เจอ เป็นธรรมชาติ กลืนกับผิว 100% ดังนั้นปลอดภัยแน่นอน
นอกจากนี้ การเติมฟิลเลอร์ปริมาณที่พอเหมาะในจุดที่เหมาะสมจะทำให้หน้าดูเล็กลงจากการเปลี่ยนแปลงมิติใบหน้า ยกกระชับใบหน้าขึ้นในมุมที่ควรจะเป็น
Mesofat
หลักการ ฉีดตัวยาสลายไขมัน (Fat) ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยตัวยาที่ใช้จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สามารถสลายได้ดี หลังจากที่ฉีดตัวยาลงไป ไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ฉีดจะแตกตัวออกจากกันกลายเป็นไขมันเหลว ๆ และถูกขับออกจากร่างกายด้วยกลไกตามธรรมชาติ ก็คือทางปัสสาวะและอุจจาระ ส่งผลให้ไขมันบริเวณนั้นลดลง บริเวณที่ฉีดจึงมีขนาดเล็กลง เช่น เหนียง แก้ม หรือจุดที่มีไขมันส่วนเกิน
ตัวอย่างการแก้ไขตามปัญหา
หน้าหย่อน ไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด
- คนไข้ที่ที่ผิวด้านบนหย่อนคล้อย
- แก้ไขได้ด้วยการใช้ UltraHIFU ยกใบหน้าขึ้น สามารถลงได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ใช้ผ่าตัดศัลยกรรมยกใบหน้า
- คนไข้ที่มีบางส่วนของใบหน้าหายไป มีไขมันหรือกระดูกที่เสื่อมสภาพร่วมด้วย ทำให้ผิวขาดโครงสร้างค้ำจุน
- แก้ไขได้ด้วยการใช้ Filler ฉีดบริเวณใบหน้าส่วนบน เช่น หน้าแก้ม ขมับ เพื่อยกใบหน้าส่วนล่างขึ้น หรือฉีดใบหน้าส่วนล่างเพื่อให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
- คนไข้ที่มีไขมันสะสมสูง
- อาจฉีดสลายไขมันก่อนด้วย Mesofat หรือใช้เทคโนโลยีกลุ่มคลื่นวิทยุ เช่น Venus Legacy หรือ Formatite เพื่อสลายไขมันก่อน หลังจากนั้นค่อยตามด้วยเครื่องยกกระชับ
- นอกจากนี้ การใช้ Botox บางแบรนด์ เช่น Xeomin สามารถให้ผลในการยกกระชับใบหน้าได้ดีและรวดเร็วเช่นกัน
หน้าบาน หน้าเหลี่ยม
- หากเกิดจากกล้ามเนื้อ
- สามารถใช้โบท็อกซ์ (Botox) เพื่อลดกล้ามเนื้อกรามให้ดูเล็กลงและดูวีเชฟ (V-Shape) มากขึ้น
- หากเกิดจากไขมัน
- สามารถสลายไขมันได้ด้วย Mesofat หรือใช้เทคโนโลยีกลุ่มคลื่นวิทยุ เช่น UltraHIFU, VenusLegacy หรือ Formatite
- หากเกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อย
- สามารถใช้ UltraHIFU เพื่อยกกระชับได้