- July 11, 2025
หน้าผากย่น ริ้วรอยกวนใจ เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขอย่างไรดี?

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
เคยไหมครับที่ส่องกระจกแล้วเห็นเส้นริ้วรอยบนหน้าผากชัดขึ้นทุกวัน จนทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูมีอายุเกินจริง หรือดูเหมือนคนขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา ปัญหา “หน้าผากย่น” ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณแห่งวัยที่มองเห็นได้ชัดเจนและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของใครหลายคน
บทความนี้ หมอจะพาไปทำความรู้จักกับริ้วรอยบนหน้าผากให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตั้งแต่ประเภทและสาเหตุที่แท้จริง ไปจนถึงแนวทางการดูแลตัวเองเบื้องต้น และที่สำคัญคือการเจาะลึกนวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะช่วยคืนความเรียบเนียนให้หน้าผากกลับมาตึงสวยอีกครั้ง
รู้จัก “หน้าผากย่น” และประเภทของริ้วรอยบนหน้าผาก
ก่อนจะไปถึงวิธีแก้ไข เราต้องเข้าใจก่อนว่าริ้วรอยบนหน้าผากที่เราเห็นนั้น ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกันครับ
Dynamic line (ริ้วรอยตามการแสดงอารมณ์)
นี่คือริ้วรอยที่จะปรากฏขึ้นเมื่อเราขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าเท่านั้น เช่น เวลาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ หรือขมวดคิ้วเมื่อใช้ความคิด ริ้วรอยประเภทนี้เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ดึงให้ผิวหนังเกิดการพับตัว เมื่อเราทำหน้าปกติ ริ้วรอยเหล่านี้ก็จะหายไป เปรียบเสมือนกระดาษที่เมื่อพับแล้วยังสามารถคลี่ให้เรียบได้เหมือนเดิม
Static line (ริ้วรอยถาวร)
นี่คือริ้วรอยที่น่ากังวลกว่า เพราะเป็นร่องรอยที่ปรากฏให้เห็นตลอดเวลา แม้เราจะไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ก็ตาม มีทั้งแบบตื้นๆ และแบบร่องลึก ริ้วรอยประเภทนี้มักจะพัฒนามาจาก Dynamic line ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการดูแลเป็นเวลานาน ประกอบกับการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวตามวัย ทำให้ผิวไม่สามารถคืนตัวกลับมาเรียบเนียนได้สนิท เปรียบได้กับกระดาษที่ถูกพับทิ้งไว้นานจนเกิดเป็นรอยยับถาวรนั่นเองครับ
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหน้าผากย่น และริ้วรอยก่อนวัย
การเกิดหน้าผากย่นเป็นผลมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งจากภายในร่างกายและพฤติกรรมภายนอกที่เราอาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว
การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ พฤติกรรมที่ส่งผลโดยตรงต่อริ้วรอยหน้าผาก
การใช้กล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis Muscle) ซ้ำๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเลิกคิ้ว การขมวดคิ้ว หรือการหรี่ตาเมื่อเจอแสงจ้า ล้วนเป็นการสร้างรอยพับบนผิวหนังโดยตรง เมื่อทำบ่อยครั้งเข้า กล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณนั้นก็จะจดจำรอยพับจนกลายเป็นริ้วรอยในที่สุด
อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของผิวได้น้อยลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ความหนาแน่น และความสามารถในการ “ดีดตัว” กลับคืนสู่สภาพเดิม ผิวจึงบางลงและเกิดเป็นริ้วรอยถาวรได้ง่ายขึ้น
แสงแดดและมลภาวะ
รังสี UV จากแสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจของผิว เพราะเป็นตัวการหลักที่เข้าไปทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินโดยตรง ทำให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร เช่นเดียวกับมลภาวะและฝุ่นควันที่สร้างอนุมูลอิสระทำร้ายเซลล์ผิวให้ยิ่งอ่อนแอลง
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมบางอย่างส่งผลเสียต่อผิวมากกว่าที่คิด เช่น การสูบบุหรี่ที่ทำลายคอลลาเจน, ความเครียดที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนทำร้ายผิว, การพักผ่อนไม่เพียงพอที่ทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ไม่เต็มที่ และการดื่มน้ำน้อยที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นจากภายใน
การดูแลผิวที่ไม่ถูกวิธี
การละเลยการทาครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทำให้ผิวขาดเกราะป้องกันและอ่อนแอลง เมื่อเผชิญกับปัจจัยทำร้ายต่างๆ ผิวจึงเกิดริ้วรอยได้ง่ายและเร็วกว่าปกติ
5 วิธีแก้ปัญหาหน้าผากย่นด้วยตัวเอง

การดูแลตัวเองเป็นประจำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชะลอและป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ๆ แม้อาจไม่สามารถลบริ้วรอยลึกให้หายไปได้ แต่ก็ช่วยให้ผิวโดยรวมดูดีขึ้นได้ครับ
1. เลือกใช้สกินแคร์ลดเลือนริ้วรอย
มองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ที่ช่วยเรื่องริ้วรอยโดยเฉพาะ เช่น
- Retinoids : ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นคอลลาเจน
- Peptides : ช่วยส่งสัญญาณให้ผิวสร้างคอลลาเจน
- Antioxidants : เช่น วิตามินซี ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
- Hyaluronic Acid : ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น
2. นวดหน้าผากและบริหารกล้ามเนื้อ
การนวดหน้าผากเบา ๆ โดยใช้นิ้วลูบขึ้นในทิศทางต้านแรงโน้มถ่วง สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ การบริหารกล้ามเนื้อโดยพยายามเลิกคิ้วค้างไว้แล้วผ่อนคลายสลับกันก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้ แต่ต้องทำอย่างระมัดระวังและไม่หักโหมจนเกินไป
3. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
หมอขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการป้องกันริ้วรอยใหม่ และป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเดิมลึกขึ้น ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไปทุกวัน แม้จะอยู่ในที่ร่มก็ตาม
4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแสดงสีหน้า และจัดการความเครียด
พยายามฝึกให้ตัวเองมีสติรู้ตัว ไม่ขมวดคิ้ วหรือเลิกหน้าผากโดยไม่จำเป็น หากรู้สึกเครียดให้หาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะสม เช่น การทำสมาธิ ฟังเพลง หรือออกกำลังกาย เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย
5. การใช้แผ่นมาสก์ หรือแผ่นแปะลดริ้วรอยหน้าผาก
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักทำงานโดยการล็อกผิวหนังและกล้ามเนื้อไม่ให้ขยับตัวขณะที่เรานอนหลับ ซึ่งช่วยลดการเกิดรอยพับใหม่ ๆ ได้ชั่วคราว และยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณนั้นดูฟูขึ้นหลังตื่นนอน ถือเป็นตัวช่วยเสริมที่ดีครับ
5 วิธีแก้ปัญหาหน้าผากย่นทางการแพทย์ คืนผิวเรียบเนียนอย่างได้ผล

สำหรับริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วและมองเห็นได้ชัด การรักษาทางการแพทย์จะให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดและรวดเร็วกว่า ซึ่งมีหลายวิธีที่ได้รับความนิยมครับ
1. การฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin)
เป็นวิธีมาตรฐานและได้ผลดีที่สุดในการรักษาริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อ (Dynamic Line) โดยโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากคลายตัวชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่หดตัว ผิวหนังด้านบนก็จะไม่เกิดรอยพับ ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. การฉีดฟิลเลอร์ (Dermal Fillers)
ในกรณีที่มีร่องลึกถาวร (Static Line) ที่แม้จะฉีดโบท็อกซ์แล้วก็ยังเห็นเป็นรอยบุ๋มอยู่ การฉีดฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid เข้าไปเติมเต็มใต้ร่องริ้วรอยนั้น จะช่วยพยุงผิวให้ยกตัวขึ้นมาเรียบเนียนเสมอกับผิวโดยรอบได้ทันที
3. การฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Biostimulators)
เป็นการฉีดสารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนของตัวเองขึ้นมาใหม่ เช่น Profhilo, Rejuran เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว ช่วยให้ผิวโดยรวมแน่นขึ้น หนาขึ้น และริ้วรอยตื้น ๆ ดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
4. การร้อยไหมหน้าผาก
เทคนิคการร้อยไหมสามารถช่วยดึงรั้งผิวบริเวณหน้าผากที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง และเส้นไหมที่ร้อยเข้าไปยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูแน่นและเรียบเนียนขึ้น (ไม่แนะนำ)
5. การรักษาริ้วรอยหน้าผากด้วย Pico Laser, Potenza, Redtouch Pro
Pico Laser, Potenza และ Redtouch Pro เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถส่งพลังงานลงไปใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยตื้นๆ (Fine lines) และช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นโดยรวม
เลือกวิธีรักษาหน้าผากย่นวิธีไหนดี หมอ DSK Clinic สรุปให้!
การจะเลือกวิธีรักษาหน้าผากย่นให้ได้ผลดีที่สุดนั้น ต้องเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาครับ ที่ DSK Clinic เรามีหลักการที่ชัดเจน คือ ต้องแก้ที่สาเหตุหลักก่อนเสมอ
โดยปกติแล้ว การรักษาหน้าผากย่นต้องเริ่มด้วย โบท็อกซ์ (Botox) เป็นอันดับแรกเสมอครับ เพราะสาเหตุหลักของริ้วรอยคือการทำงานของกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกซ์จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุโดยตรง ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Dynamic Line) และที่สำคัญคือช่วยป้องกันไม่ให้รอยพับนั้นถูกสร้างซ้ำๆ จนกลายเป็นร่องลึกถาวร (Static Line) ในอนาคต
แต่ในกรณีที่ฉีดโบท็อกซ์แล้วริ้วรอยหายไม่หมด หรือในคนที่มีร่องลึกถาวรอยู่แล้วแม้อยู่เฉย ๆ ก็ยังเห็นเป็นเส้น นั่นหมายความว่าผิวมีการสูญเสียคอลลาเจนไปแล้ว ในเคสเช่นนี้ หมอจะพิจารณาการรักษาในกลุ่มกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulation) เสริมเข้าไป เพื่อฟื้นฟูคุณภาพผิว และเติมเต็มร่องรอยนั้น ๆ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายตามความเหมาะสม เช่น การฉีด Profhilo หรือ Rejuran ที่หน้าผากเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และปรับผิวให้เรียบเนียน หรือการใช้เครื่องมือพลังงานอย่าง Pico Laser, Potenza, Redtouch Pro, Oligio และ Thermage เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวที่ลึกขึ้น
สรุปบทความ
ปัญหาหน้าผากย่นเกิดขึ้นจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่แสดงสีหน้าซ้ำๆ ร่วมกับการสูญเสียคอลลาเจนตามวัยและปัจจัยภายนอก การดูแลตัวเองเป็นวิธีที่ดีในการชะลอและป้องกัน แต่สำหรับริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้ว การรักษาทางการแพทย์คือคำตอบที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน โดยมีหัวใจสำคัญคือการใช้โบท็อกซ์เพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ และเสริมด้วยการรักษาอื่นๆ เพื่อฟื้นฟูคุณภาพผิวตามสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล
ที่ DSK Clinic เราไม่ได้รักษาตามสูตรสำเร็จ แต่เราวิเคราะห์ประเภทของริ้วรอยและโครงสร้างใบหน้า เพื่อวางแผนการรักษาแบบผสมผสานเฉพาะบุคคล (Personalized Treatment) ให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดูดี เป็นธรรมชาติ และปลอดภัยที่สุด หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับริ้วรอยบนหน้าผาก ขอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์เพื่อรับการประเมินและค้นหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณครับ
