- July 17, 2023
Ulthera (อัลเทอร่า) คืออะไร ช่วยยกกระชับหน้าเด็ก ไม่ต้องผ่าตัดได้จริงไหม
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
คุณหมอขอสรุปยกกระชับหน้าด้วย Ulthera ที่ DSK Clinic ดียังไง ?
|
หากอยากเริ่มดูแลผิวหน้าที่หย่อนคล้อยแต่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไร หรือใช้เครื่องมือแบบไหน เพราะในปัจจุบันมีวิธีต่างๆ มากมายในการแก้ไขปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นการทำ Ulthera, Thermage, Filler, หรือ Botox ในที่นี้เราจะมาทำความรู้จักกับการยกกระชับผิวด้วยอัลเทอร่า ซึ่งเป็นหนึ่งในหัตถการยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
Ulthera (อัลเทอร่า) คืออะไร ทำงานอย่างไร?
อัลเทอร่า (Ulthera) คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวนด์ (Focused Ultrasound) กระตุ้นลงไปใต้ผิวหนังให้เกิดพลังงานความร้อน 60-70°C “แบบเฉพาะเจาะจง” ที่ชั้นผิว SMAS หรือชั้นผิวที่หมอผ่าตัดใช้ผ่าตัดดึงหน้า โดยอัลเทอร่าเป็นเครื่องมือเดียวในปัจจุบันที่มีระบบ “มองเห็น” หรือ Visualization ขณะยิง ทำให้การยิงพลังงานสามารถเจาะจงลงไปชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ
Ulthera SPT รุ่นใหม่ดีกว่า Ulthera รุ่นเก่าอย่างไร
Ulthera SPT เป็น Ulthera รุ่นใหม่ที่ปรับการส่งพลังงานให้ไม่เจ็บ และมีการออกแบบเทคนิคการยิงที่เรียกว่า SPT หรือ See – Plan – Treat หรือการเลือก และปรับเทคนิคการยิงตามผิวจริง โดยไม่ได้มีแนวทางมาตรฐานที่ทำเหมือนๆ กันในทุกคนเหมือนในสมัยก่อน ทำให้ได้ผลลัพธ์ดีขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่มากขึ้นเช่นกัน
- See : สแกนผิวเพื่อมองเห็น ก่อนการวางแผนการรักษา
- Plan : วางแผนระดับความลึก และ เทคนิคการยิง ตามโครงสร้างรูปหน้า และความลึกของชั้นผิวต่างๆ เฉพาะบุคคล
- Treat : รักษาตามแผนการรักษาที่ ออกแบบมา “เฉพาะบุคคล”
Ulthera (อัลเทอร่า) ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง?
การทำอัลเทอร่า คือ การยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ผิวเต่งตึงโดยไม่ต้องผ่าตัด เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนลงลึกถึงผิวหนังชั้น SMAS ที่เป็นชั้นผิวเดียวกับการใช้วิธีผ่าตัดยกกระชับ ทำให้ชั้นผิวเกิดการหดตัว ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ และบริเวณที่หย่อนคล้อยกลับมาเต่งตึงเหมือนเดิม
ยกกระชับผิวหนังหย่อนคล้อย
การยกกระชับผิวหนังหย่อนคล้อยด้วย Ulthera จะทำงานโดยส่งคลื่นอัลตร้าซาวนด์ไปยังชั้น SMAS เพื่อยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจน รวมถึงอีลาสติน ทำให้ผิวกลับมาดูเต่งตึง อ่อนเยาว์อีกครั้ง เสมือนการทำให้ตาข่ายผิวตามธรรมชาติหดและสร้างใหม่
นอกจากใบหน้าแล้ว เรายังสามารถยกกระชับผิวกายด้วย Ulthera ได้อีกด้วย ใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น การลดน้ำหนัก หรือปัญหาผิวหลังการคลอดบุตร สามารถทำอัลเทอร่าเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความชำนาญการของแพทย์ด้วย
ลิฟกรอบหน้า ยกกระชับเหนียง
ผู้ที่มีปัญหาเหนียงออก คางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัดเจน อัลเทอร่าจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะอัลเทอร่าจะส่งคลื่นอัลตร้าซาวนด์ความถี่สูงเข้าไปกระชับเหนียง ยกคิ้ว ยกกรอบหน้าชัดให้ไม่หย่อนคล้อย และสร้างกรอบหน้าให้ดูชัดเจนดูมีมิติแบบไม่ต้องศัลยกรรม
Ulthera ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
อัลเทอร่าเป็นหัตถการยกกระชับผิวโดยเฉพาะ โดยสามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า และจุดต่างๆ ตามร่างกายได้ ดังนี้
- คิ้ว หนังตา หางตา ช่วยยกกระชับคิ้ว หนังตา หางตา ไม่ให้ตก
- แก้ม ช่วยลดร่องแก้ม แก้มย้อยให้แลดูกระชับ แก้ไขปัญหาหน้าดูไม่อ่อนวัย มีริ้วรอย
- เหนียงและกรอบหน้า ช่วยยกกระชับให้ใบหน้าเข้ารูป ลดเหนียง
- ท้องแขน หรือหน้าท้อง กระชับสัดส่วน ลดไขมันส่วนเกิน บริเวณแขนหรือหน้าท้อง พร้อมฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน
- ยกกระชับเนินอก สามารถเพิ่มและกระตุ้นยกกระชับบริเวณเนินอกที่หย่อนคล้อยได้
Ulthera เหมาะกับใคร ทำได้ทุกคนหรือไม่?
การทำอัลเทอร่าเหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง กลุ่มที่เหมาะสามารถแบ่งออกเป็นตามระดับช่วงอายุ ดังนี้
วัยทำงาน (อายุ 25-35 ปี)
ในวัยทำงานปัญหาที่เริ่มเจอ คือ ผิวหย่อนคล้อยโดยไม่รู้ตัว แก้มเริ่มหย่อน กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด เนื่องจากการเผชิญมลภาวะต่างๆ รวมถึงความเครียดที่อาจส่งผลให้ผิวดูแก่กว่าวัยได้ กลุ่มคนวัยทำงานจึงสามารถเริ่มทำอัลเทอร่าได้ แม้ว่าริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยยังไม่มาก เพราะอัลเทอร่าจะช่วยให้ดูเด็กกว่าวัย ยกกระชับ และคงความอ่อนเยาว์ของผิวเอาไว้ได้
วัยผู้ใหญ่ (อายุ 35-59 ปี)
วัยผู้ใหญ่ตอนต้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย มักเริ่มมีปัญหาผิวมากขึ้น เนื่องจากการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิวลดลง ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย เกิดร่องแก้ม ร่องมุมปาก หนังตาตก มีความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้า หรือเหนียงปรากฏให้เห็นมากขึ้น การทำอัลเทอร่าในช่วงอายุนี้จึงยังถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน เพื่อคงความอ่อนเยาว์ และการยกกระชับของผิว
วัยสูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
วัยที่อายุ 60 ขึ้นไป ปัญหาผิวเหี่ยว ไม่อิ่มฟู และริ้วรอยต่างๆ จะมีความชัดเจนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การแก้ไขปัญหาผิวด้วยอัลเทอร่าอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้หัตถการอื่นๆ เข้ามาช่วย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าการทำอัลเทอร่าควรเริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึง และคงความอ่อนเยาว์ของผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ
Ulthera ไม่เหมาะกับใคร
ถึงแม้ว่าการยกกระชับผิวด้วย Ulthera สามารถทำได้ในหลายช่วงวัย แต่ก็อาจไม่เหมาะกับผู้เข้ารับบริการที่มีเงื่อนไขด้านการสุขภาพบางอย่าง เช่น
- หญิงสาวที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เพราะอาจได้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ไม่ชัดเจน
- ผู้ที่กำลังเป็นโรคผิวหนังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สิวอักเสบ ผิวหนังอักเสบ แผลสด หรือแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายดีก่อนแล้วค่อยเข้ารับบริการ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเข้ารับบริการ
- ผู้ที่ฝังอุปกรณ์โลหะ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) เพราะคลื่นอัลตร้าซาวนด์อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องจนทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
เมื่อไหร่ถึงควรเริ่มยกกระชับผิวด้วย Ulthera
Ulthera เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้โดยไม่ต้องผ่าตัด มีความปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงต่ำ ที่สำคัญหลังทำเสร็จแล้วยังไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อย แก้มหย่อน มีความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้า หรือเหนียง อยากยกกระชับผิวหน้าให้เรียวสวย แล้วไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องการทำอัลเทอร่า ก็สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ DSK Clinic ได้เลย โดยแพทย์ของ DSK จะเป็นผู้ประเมินจำนวนช็อต และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล (Customized Program) เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหา และผลลัพธ์ตามความต้องการของแต่ละบุคคล
Ulthera มีข้อดีและข้อควรระวังอย่างไร?
หากกำลังตัดสินใจว่าจะทำอัลเทอร่าดีไหม ลองพิจารณาถึงข้อดี และข้อควรระวังของการทำอัลเทอร่าได้ ดังนี้
ข้อดีของการทำอัลเทอร่า
- เป็นการกระตุ้นผิวหนังตามธรรมชาติของร่างกายให้หดกระชับ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิวอย่างถาวร
- ผิวตึง เรียบเนียน แบบธรรมชาติ หน้าดูอ่อนเยาว์ เหมือนการย้อนวัยตามธรรมชาติ
- เจ็บน้อย ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
ข้อควรระวังในการทำอัลเทอร่า
- แม้ว่าการยกกระชับผิวด้วย Ulthera จะมีความปลอดภัย และมีผลข้างเคียงต่ำ แต่ก็อาจมีอาการเจ็บได้บ้าง (ความเจ็บขึ้นอยู่ในแต่ละบุคคล) แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะในปัจจุบัน ได้มีนวัตกรรมใหม่อย่าง Ulthera SPT ที่ช่วยลดความเจ็บลง และมีการทายาชาก่อนทำ จึงสามารถช่วยลดความเจ็บได้มาก โดยในบางการรักษาอาจจะมีความเจ็บน้อยหรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย
แนวทางการเตรียมตัวก่อน และดูแลตัวเองหลังทำอัลเทอร่า
การทำอัลเทอร่าก็มีวิธีการเตรียมตัวก่อนทำ และการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้การทำราบรื่นและผลลัพธ์ออกมาดี ไร้ปัญหา โดยสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
วิธีการเตรียมตัวก่อนทำอัลเทอร่า
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิว วางแผนปรับรูปหน้า และคำนวณจำนวนช็อตที่เหมาะสม
- แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว การแพ้ยา ประวัติการผ่าตัด หรือประวัติการทำหัตถการอื่นๆ ให้แพทย์ทราบ
- งดการใช้สกินแคร์ที่มีสารกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) สารเรตินอล (Retinols)
- งดยา อาหารเสริม และสมุนไพรบางประเภท ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin)
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
- งดกิจกรรมที่อาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด เช่น สปา อบไอน้ำ ซาวน่า แช่น้ำร้อน ประมาณ 24 ชม. ก่อนทำ
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 6 – 8 ชม. เป็นอย่างน้อย
- งดแต่งหน้า หรือใช้เครื่องสำอางในวันเข้ารับบริการ
วิธีการดูแลตัวเองหลังทำอัลเทอร่า
- สามารถแต่งหน้า และใช้สกินแคร์ดูแลผิวได้ตามปกติ
- อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยประมาณ 1 สัปดาห์ แต่สามารถกินยาแก้ปวด และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้า การอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือความร้อน หลังทำ 4 – 5 วัน
- งดการถู บีบ นวด หรือสัมผัสอย่างรุนแรงในบริเวณผิวที่ทำ
- งดยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid) เพราะอาจไปส่งผลให้ผลลัพธ์ของ Ulthera ลดลง หากเป็นยารักษาโรคประจำตัวต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน
- ก่อนออกไปในที่แจ้ง แสงแดดจัด ควรทาครีมกันแดด SPF 50+ ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
Ulthera มีผลข้างเคียงหลังทำไหม?
หลังจากยกกระชับผิวด้วย Ulthera แล้ว ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกผิวแห้งเล็กน้อย และมีรอยแดงขึ้นบริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 2 – 3 ชั่วโมง นอกจากนี้บางคนยังอาจรู้สึกเจ็บเสียวจี๊ด ๆ บริเวณกระดูก หรือจับหน้าแล้วเจ็บในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด
ทำ Ulthera ที่ไหนดี? พร้อมรีวิวจาก DSK Clinic
การทำ อัลเทอร่า นอกจากจะต้องมีเครื่องแท้แล้วอาศัย ความชำนาญในการดูมอนิเตอร์หน้าจอชั้นผิวที่ถูกต้องขณะทำเพื่อให้พลังงานลงสู่ชั้นที่ถูกต้อง ไม่ใช่การยิงไปเรื่อยๆเพียงอย่างเดียว
DSK Clinic แตกต่างจากคลินิกทั่วไป เพราะมีการประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลก่อนเข้ารับบริการ การที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีจากหลายสาเหตุ แตกต่างกันออกไป การที่ใช้เครื่องอัลเทอร่า รักษาเหมือนกันอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องวินิจฉัยปัญหาเฉพาะบุคคล ซึ่งทางคลินิกที่เป็นสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ และมีทีมแพทย์ที่ชำนาญการ DSK Clinic เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะที่นี่เป็นผู้นำด้านการเลเซอร์ มาตรฐาน USFDA ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของวงการแพทย์ มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ และแก้ปัญหาผิวให้คุณสวยได้อย่างปลอดภัย ด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้
Custom Analysis
ในขั้นตอนแรก หมอจะวิเคราะห์ วินิจฉัยปัญหาที่ทำให้เกิดที่ทำให้ใบหน้าไปกระชับ หย่อนคล้อย ที่แตกต่างกัน หลังจากนั้นก็จะวิเคราะห์ความรุนแรง เพื่อวางแผนการรักษาที่ตรงจุด จนให้ผิวหน้ากลับมาเด็กได้อีกครั้งอย่างแท้จริง
Custom Planing
การรักษาปัญหาผิวหน้า มีความซับซ้อนเหมือนกับการรักษาโรคอื่นๆ ดังนั้นการวางแผนการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
Custom Technique
ขั้นตอนการรักษาจริง ซึ่งจะนำข้อมูลการวางแผนมารักษา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตรงตามที่วางแผนไว้ เพราะเครื่องมือ เทคโนโลยี ตัวยาที่เหมือนกัน อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ดังนั้นการวินิจฉัย และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เป็นเทคนิคและมาตรฐานที่สำคัญของ DSK Clinic
เทียบกันให้ชัด! Ulthera และหัตถการอื่นๆ แตกต่างกันอย่างไร
นอกจากการทำ Uthera เพื่อยกกระชับผิวหน้าแล้ว ยังมีหัตถการอื่นๆ ที่ช่วยเติมเต็มผิว ยกกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อยอีกเช่นกัน ซึ่งแต่ละตัวก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน หากใครยังสงสัยอยู่ว่าหัตถการอื่นๆ จะแตกต่างอย่างไรกับการทำอัลเทอร่า มาติดตามดูกัน
Ulthera VS Thermage
Ulthera จะเน้นการ Lifting หรือการยกผิวหน้าชั้น SMAS โดยคลื่นพลังงานเสียงอัลตร้าซาวนด์พิเศษแบบพิเศษ (Focused Utrasound) สามารถส่งพลังงานได้ลึก และมีความแม่นยำสูง เพราะมีระบบ Visualization ขณะยิงคลื่นพลังงาน เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง หรือต้องการยกกระชับผิว ยกกรอบหน้าให้ชัดเจน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ
ในขณะที่ Thermage เน้น Tightening, Firming, Elasticity หรือความหดตัว ยืดหยุ่น กระชับ เป็นการทำงานโดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency: RF) เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวฟูดูอิ่มเอิบ โดยคลื่นวิทยุจะส่งผ่านความร้อนเข้าไปทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว และสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวอิ่มฟู เรียบเนียน หากต้องการเห็นผลเรื่องยกกระชับ Ulthera จะโดดเด่นกว่า แต่หากต้องการผิวแน่นเฟิร์ม หรือเคยทำ Ulthera มาแล้ว การทำ Thermage ก็จะยิ่งทำให้ผลลัพธ์แก่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Ulthera VS HIFU
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าซาวนด์เข้าไปในชั้น SMAS เพื่อทำการยกกระชับผิวหน้า จะเห็นได้ว่าการทำงานของ Ulthera กับ HIFU นั้นใกล้เคียงกัน แต่ในความเป็นจริงผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน เนื่องจากชั้น SMAS เป็นชั้นบางใต้ผิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า การใช้ Ulthera สามารถทำได้ดีกว่า เพราะมีระบบ Visualization หรือกล้องส่องชั้นผิวขณะทำการยิงคลื่นพลังงาน ทำให้พลังงานสามารถลงได้อย่างแม่นยำ 100% หากแพทย์มีความเชี่ยวชาญ และใส่ใจในการยิง ส่วน HIFU ขณะยิงจะไม่มีระบบ Visualization การยิงคลื่นพลังงานจึงเป็นการสุ่ม ทำให้พลังงานอาจไม่โดนชั้นผิว SMAS เลยก็เป็นไปได้
Ulthera VS Botox
Botox เป็นหัตถการที่เน้นเรื่องการคลายกล้ามเนื้อ จึงเหมาะกับการลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว ตีนกา หรือลดกล้ามเนื้อกรามให้ใบหน้าเต่งตึง กระชับ และดูเป็น V Shape ขึ้น แต่ไม่เหมาะกับการยกกระชับ และไม่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ ในขณะที่ Ulthera เป็นการยิงคลื่นพลังงานเสียงอัลตร้าซาวนด์ลงไปให้ชั้น SMAS หดตัวและสร้างใหม่ได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ และผิวดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
Ulthera VS Filler
Filler เน้นการฉีดเพื่อทดแทนมวลกระดูก หรือชั้นไขมันที่สูญหายไปตามธรรมชาติ เช่น หน้าแก้ม ใต้ตา ร่องแก้ม ในขณะที่ Ulthera เน้นการยกผิวในหลายๆกรณี เช่น การมีร่องแก้ม อาจต้องอาศัยการยกผิวร่วมกับการเติมไขมันที่หายไป หากเป็นกรณีของผิวหย่อนคล้อยโดยไม่มีกระดูก และไขมันที่สลาย การทำ Ulthera เพียงอย่างเดียวก็ถือว่าเพียงพอ ทั้งนี้ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ทุกครั้ง เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
Ulthera VS Ultraformer
Ulthera และ Ultraformer เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้า และลดริ้วรอย โดยทั้งสองเครื่องมีการใช้เทคโนโลยี High Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ในการทำงาน Ulthera เป็นเครื่องเดียวในโลกที่มีระบบ Visualization หรือการมองเห็นชั้นผิวด้านในได้ขณะทำ ทำให้พลังงานลงสู่ชั้น SMAS ได้
ในขณะที่ Ultraformer เป็นการยิงคลื่นพลังงานแบบสุ่ม ทำให้ไม่สามารถมองเห็นชั้นผิว SMAS ได้ พลังงานอาจโดนหรืออาจไม่โดน ทำให้บางเคสได้ผลลัพธ์น้อย หรือบางเคสไม่ได้ผลเลย
วิธีเช็กเครื่อง Ulthera แท้
วิธีสังเกตดูว่าเครื่อง Ulthera แท้หรือไม่ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการยกกระชับผิวหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่าปลอมนั้น นอกจากจะไม่เป็นผลแล้ว ยังทำให้หน้าพังได้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าไหม้ หน้าอักเสบ บวม เป็นต้น ซึ่งวิธีเช็กเครื่อง Ulthera แท้ ก็มีดังต่อไปนี้
- ลิขสิทธิ์จาก Merz Aesthetics
- มีใบประกาศจากบริษัท
- สัญลักษณ์โล่เพชร
- ตรวจสอบกับเว็บไซต์ของ Merz Aesthetics
- ค้นหาจากชื่อคลินิก = “DSK”
- ค้นหาจากผลิตภัณฑ์ = “อัลเทอรา”
- สามารถตรวจสอบเครื่องแท้ได้ที่ www.merzclubthailand.com
รีวิวอัลเทอร่าที่ DSK Clinic
*ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
*ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว
FAQ รวมคำตอบถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับอัลเทอร่า
1. อัลเทอร่าอันตรายไหม?
ปลอดภัย เพราะอัลเทอร่า คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า ที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ด้านความปลอดภัยและมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย. ไทย และ USFDA
2. ทำอัลเทอร่าเจ็บไหม ต้องยิงกี่ช็อต?
อัลเทอร่ามีการยิงช็อตไปที่ผิว ซึ่งอาจมีความเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่รุ่นใหม่ที่ DSK Clinic จะมีความเจ็บน้อยมากๆ โดยความเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ โดยปกติหมอแนะนำเป็น 400-1200 lines
3. ทำอัลเทอร่าหน้าบวมกี่วัน?
การทำอัลเทอร่าอาจทำให้มีอาการหน้าบวมได้เล็กน้อย ซึ่งสามารถค่อยๆ หายเองภายใน 2-3 วัน
4. ทำอัลเทอร่า นานไหมกว่าจะเห็นผล?
ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังทำ 20% แต่อาจเห็นได้ยังไม่เต็มที่ หลังจากทำได้ 1 เดือน จะเห็นผลประมาณ 50% เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 100%
5. ทำอัลเทอร่า 1 ครั้ง อยู่ได้นานแค่ไหน?
การทำอัลเทอร่า 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้ 1-2 ปี
6. สามารถทำคู่กับหัตถการอื่นได้ไหม?
สามารถทำคู่กับหัตถการอื่นได้ เช่น Botox, Filler, Thermage, Sculptra ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น เพราะหัตถการแต่ละประเภทจะเข้าไปโฟกัสปัญหาที่ต่างกัน ทั้งนี้ในคนไข้ 1 คนไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง แต่ควรปรึกษาแพทย์ และคลินิกที่เชี่ยวชาญในเรื่องการ Customization ออกแบบการรักษาที่จำเป็น และจำเพาะต่อปัญหาของแต่ละคน และที่สำคัญคลินิกที่มีการรักษาทุกอย่างแบบครบครัน จะทำให้สามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมได้มากกว่า
สรุป
การทำอัลเทอร่าคือ การจัดการกับปัญหาผิวที่เหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ ให้กลับมากระชับ แลดูเด็กขึ้น แบบไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว ทำงานโดยปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานและความแม่นยำสูงลงไปยังชั้น SMAS เห็นผลทันที และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า 1 ปี แต่การทำอัลเทอร่าให้ได้ผลดีที่สุดคือการเลือกสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย มีมาตรฐานรับรอง พร้อมทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
DSK Clinic เราเน้นเรื่องการวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล รวมถึงการเลือกเครื่องมือ และเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาผิว เพื่อให้คนไข้ทุกคนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อีกทั้งเรายังมุ่งมั่นในการบริการที่เน้นความปลอดภัยและคุณภาพ เพื่อให้ทุกคนได้เผยความสวยในแบบของคุณเอง