- Blog
- Custom Lift & Contour, Ulthera
- July 17, 2023
Ulthera ย้อนวัยผิวหน้า ยกกระชับหน้าเด็ก ไม่ต้องผ่าตัด
คุณหมอขอสรุป Ulthera ดีจริงไหม ?
– การทำ Ulthera สามารถทำให้ใบหน้ายกกระชับ โดยการส่งพลังงานไปชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรม โดยที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด ปลอดภัยสูง เป็นวิธีย้อนวัย ยกกระชับใบหน้าที่ทั่วโลกยอมรับ – ปัจจุบัน Ulthera เป็นเครื่องมือเดียวที่ส่งพลังงานถึง SMAS ได้แบบ “มองเห็น” และ “แม่นยำ”HIFU และ Ultraformer มีการส่งพลังงาน “คล้าย” Ulthera แต่ขาดการมองเห็นภายในจากระบบสแกนระหว่างทำ ทำให้พลังงานอาจไม่โดน SMAS เป็นการยิงแบบ “สุ่ม” จึงได้ผลไม่เหมือนกัน – การทำ Ulthera นอกจากอาศัยเครื่องแท้แล้วยังต้องอาศัยเทคนิคการทำที่ถูกต้องและความเชี่ยวชาญ เพราะต้องดูหน้าจอ และปรับการส่งพลังงานให้โดน SMAS – หากยิงไปเรื่อยๆ โดยขาดเทคนิคที่ดี แม้จะใช้เครื่องแท้ก็อาจไม่ได้ผล – สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จ โดยไม่มีรอย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้นเหมือนวิธีอื่น – การทำ Ulthera เพียงครั้งเดียวผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ถึง 1 -2 ปี – สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปเพื่อคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้า – DSK ได้รับรางวัล Thailand Rising Star Clinic เพียงคลินิกเดียวของไทย ในการให้บริการด้วย Filler, Ulthera และ Xeomin จากบริษัท Merz Aesthetics แห่งเดียวของประเทศไทย เป็นคลินิกที่มียอดการเติบโตการใช้ Ulthera Xeomin และ Filler สูงสุดของประเทศ – สิ่งที่ทำให้ DSK แตกต่างไม่ใช่เพียงเทคนิคการทำ Ulthera แต่เป็นเทคนิคการ Custom และเลือกการรักษา “ที่เหมาะสม” กับปัญหาให้กับคนไข้แต่ละ จนไปถึงการปรับเทคนิคการรักษาเฉพาะบุคคล “เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์สูงสุด” และเหมาะสมกับปัญหาที่ต่างกัน |
อยากเริ่มดูแลผิวหน้าที่หย่อนคล้อยแต่ยังไม่รู้ว่าผิวหน้าของคุณต้องทำอะไร หรือใช้เครื่องมือแบบไหนเพราะในปัจจุบันมีวิธีต่างๆ มากมายในการแก้ไขปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นการทำ Ulthera, Thermage, Filler และ Botox ในที่นี้เราจะมาทำความรู้จักกับอัลเทอร่ากัน แต่ก่อนจะเข้าใจว่าอัลเทอร่าคืออะไร ทำงานอย่างไร หมอขออธิบายให้เข้าใจก่อนว่าโครงสร้างผิวของคนเราเป็นอย่างไร
โครงสร้างผิวหนังประกอบไปด้วย ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน SMAS ชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นกระดูก ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นโครงสร้างเหล่านี้ก็จะเสื่อมถอยลง เปรียบเสมือนหมอนที่ไม่มีนุ่น ก็คือโครงสร้างภายในเสื่อมถอย หมอนก็จะดูไม่สวยงาม และคงรูปร่างได้ไม่ดี หรือหมอนที่มีนุ่นก็คือ โครงสร้างด้านในยังดี แต่ชั้นผิวด้านนอกเสื่อมถอย หมอนก็จะดูไม่สวยงามเช่นกันจากตัวปลอก ซึ่งก็สรุปได้ง่ายๆ ว่าความหย่อนคล้อยของผิวสามารถเกิดได้ทั้งภายในและภายนอกนั่นเองครับ
ซึ่งจากโครงสร้างผิวตามที่ได้เล่าไปการที่ผิวเราแก่ลงจะเกิดได้จากสาเหตุจากหลายโครงสร้างประกอบกันเรียงจากตื้นไปลึกได้ดังนี้
ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) : ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากภายนอกเช่นมลภาวะ และรักษาความชุ่มชื่นของผิวภายใน
ชั้นหนังแท้ (Dermis) : มีองค์ประกอบหลักคือ Collagen Elastin Hyaluronic acid และ เซลล์ Fibroblast การที่ชั้นนี้เสื่อมจะทำให้ผิวไม่กระชับ และเกิดริ้วรอย ความไม่เรียบเนียนของผิวหน้า แก้ไขได้ด้วย Thermage, Ulthera, Potenza และเลเซอร์บางชนิด
ชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat) : การที่ชั้นนี้เสื่อมจะทำให้เกิดปริมาตรที่หายไป ผิวที่เกิดร่อง เกิดการยุบไม่อิ่มฟู แก้ไขได้ด้วย Filler
ชั้น SMAS : ชั้น SMAS ประกอบด้วยเส้นใย Collagen และเป็นชั้นที่ปกคลุมกล้ามเนื้ออยู่ การที่ชั้นนี้หย่อนจะทำให้ชั้นด้านบนคือผิวหนังและไขมันหย่อนตามไปด้วย ชั้นนี้เป็นชั้นหลักที่ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย ตกตามแรงโน้มถ่วง ดังนั้นการแก้ไขชั้น SMAS จะเป็นชั้นหลักที่ทำให้ผิวทั้งหมดยกตัวขึ้น ชั้นนี้แก้ไขได้ด้วย Ulthera
ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle) : โดยมากมักเกิดการขยับมากของกล้ามเนื้อเมื่ออายุมากขึ้นจนทำให้เกิดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าชั้นกระดูก(Bone) : การกร่อนของชั้นกระดูกทำให้เกิดการยุบของใบหน้า ร่องแก้ม ขมับตอบ ใบหน้ายุบแบนลง แก้ไขได้ด้วย Filler
ทำความรู้จักอัลเทอร่าคืออะไร ทำงานอย่างไร?
อัลเทอร่าคือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียง (Ultrasound) ลงไปใต้ผิวหนังให้เกิดพลังงานความร้อน 60-70°C “แบบเฉพาะเจาะจง” ที่ชั้น SMAS โดยเป็นเครื่องมือเดียวในปัจจุบันที่มีระบบ “มองเห็น” หรือ Visualization ขณะยิง ทำให้พลังงานโดน SMAS อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นชั้นที่หมอผ่าตัดใช้ผ่าเปิดออกเพื่อดึงหน้า แต่ Ulthera สามารถส่องแล้วเห็นและยิงพลังงานในชั้นนั้นได้อย่างแม่นยำ โดยที่เครื่องอื่นๆแม้จะมีพลังงานคล้ายกัน แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก SMAS เป็นชั้นบางๆ ใต้ผิวและมีความลึกในแต่ละบุคคลและแต่ละบริเวณที่ต่างกัน ดังนั้น Ulthera จึงโดดเด่นเรื่องความแม่นยำ เพราะมีหน้าจอที่แสดงผลความลึกของชั้น SMAS แบบ Realtime
อะไรคือ Ulthera รุ่นใหม่ Ulthera SPT
Ulthera SPT เป็น Ulthera รุ่นใหม่ที่ปรับการส่งพลังงานให้ไม่เจ็บ และมีการออกแบบเทคนิคการยิงที่เรียกว่า SPT หรือ See – Plan – Treat ซึ่งหมายถึงการเลือกและปรับเทคนิคการยิงตามผิวจริงไม่ได้มีแนวทางมาตรฐานที่ทำเหมือนๆกันในทุกคนเหมือนในสมัยก่อน ทำให้ได้ผลลัพธ์ดีขึ้น แต่ก็อาศัยความเชี่ยวชาญมากขึ้นเช่นกัน
- SEE : สแกนผิวเพื่อมองเห็น ก่อนการวางแผนการรักษา
- PLAN : วางแผนระดับความลึก และ เทคนิคการยิง ตามโครงสร้างรูปหน้า และความลึกของชั้นผิวต่างๆ เฉพาะบุคคล
- TREAT : รักษาตามแผนการรักษาที่ ออกแบบมา “เฉพาะบุคคล”
ความลึกใดบ้างที่ Ulthera สามารถลงได้
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าอัลเทอร่า นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยคลื่นเสียงมีความเข้มข้นสูง มีหัวความลึกอยู่ที่ 4.5, 3.0, 1.5 มม. และจะยิงไปที่ชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ความกระชับ ลดริ้วรอย อีกทั้งยังสามารถยิงลงไปที่ SMAS หรือ ที่เรียกกันว่า ชั้นเนื้อเยื่อคลุมกล้ามเนื้อของใบหน้า ซึ่งเมื่อยิงไปแล้วก็จะกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเช่นกัน แต่จะทำให้ใบหน้ายกกระชับ ดูเรียวขึ้น กรอบหน้าชัด สามารถลดเหนียงใต้คางได้
โดยระหว่างยิงจะมีระบบ Visualization ที่ทำให้มองเห็นระหว่างยิงเราจะยิงไปที่ชั้น ไหน และ ใช้ความลึกเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น SMAS ในบางคนอาจจะอยู่ตื้น จึงต้องใช้ หัว 3.0 มม. ในบางคนอาจจะอยู่ลึก จึงต้องใช้หัว 4.5 มม. และใช้เทคนิคในการยิงที่ต่างกันเพื่อให้ได้ชั้นที่พอดีระหว่างทำ
ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งของการทำ Ulthera และเครื่องมือยกกระชับอื่นๆคือ พลังงานยิ่งลงลึกยิ่งได้ผลดี ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะระดับพลังงานนั้นต้องลงลึกแบบ “พอดี” การลึกมากไป หรือน้อยไป ก็อาจทำให้พลังงานลงผิดชั้นและได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีได้เช่นกัน
การทำอัลเทอร่าแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
การทำอัลเทอร่า คือการยกกระชับใบหน้า ให้ผิวเต่งตึง โดยไม่ต้องผ่าตัดเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนลงลึกถึงผิวหนังชั้น smas ที่เป็นชั้นผิวเดียวกับการใช้วิธีผ่าตัดยกกระชับ ที่จะทำให้ชั้นผิวเกิดการหดตัว ทำให้ผิวหน้ากระชับ บริเวณที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงเหมือนเดิม
ยกกระชับผิวหนังหย่อนคล้อย
อาการผิวหนังหย่อนคล้อยเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น เหมือนเสมือนลูกโป่งที่ผิวด้านนอกจะเริ่มหย่อน ยืด ตามวัยสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน เกิดผิวหย่อนคล้อย ใบหน้าดูไม่สดใสอิ่มเอิบเหมือนแต่ก่อน การทำ ulthera มีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนยาน กระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้
การทำงานของอัลเทอร่าคือ การส่งคลื่นอัลตร้าซาวด์ไปยังชั้น SMAS เพื่อยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจน รวมถึงอิลาสติน ทำให้ผิวกลับมาดูเต่งตึง อ่อนเยาว์อีกครั้ง เสมือนการทำให้ตาข่ายผิวตามธรรมชาติหดและสร้างใหม่ นอกจากใบหน้าแล้ว การทำอัลเทอร่ายังสามารถยกกระชับผิวกายได้อีกด้วย ใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น การลดน้ำหนัก หรือหลังการคลอดบุตร สามารถทำอัลเทอร่าเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชำนาญการของแพทย์ด้วย
ลิฟกรอบหน้า ยกกระชับเหนียง
ผู้ที่มีปัญหาเหนียงออก คางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัดเจน อัลเทอร่าจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะอัลเทอร่าจะส่งคลื่นความถี่สูงเข้าไปกระชับเหนียง และยังช่วยยกคิ้ว ให้กรอบหน้าชัดให้ไม่หย่อนคล้อยและสร้างกรอบหน้าให้ดูชัดเจน ยกใบหน้าให้ดูมีมิติแบบไม่ต้องศัลยกรรม โดยผ่าน USFDA
ทำอัลเทอร่าตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
ผู้ที่สนใจทำอัลเทอร่า เพราะมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แลดูไม่สดใส ไม่อ่อนเยาว์ ต้องการจัดการกับปัญหาผิวกวนใจเหล่านี้ อาจมีคำถามว่าทำบริเวณใดดี ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง และช่วยแก้ปัญหาในแต่ละจุดได้อย่างไร ซึ่ง DSK Clinic มีคำตอบมาให้คุณแล้ว
- คิ้ว หนังตา หางตา – ช่วยยกกระชับคิ้ว หนังตา หางตา ไม่ให้ตก
- แก้ม – ช่วยลดร่องแก้ม แก้มย้อย ให้แลดูกระชับ แก้ไขปัญหาหน้าดูไม่อ่อนวัย มีริ้วรอย
- เหนียงและกรอบหน้า – ช่วยยกกระชับให้ใบหน้าเข้ารูป ลดเหนียง
- ท้องแขนหรือหน้าท้อง – กระชับสัดส่วน ลดไขมันส่วนเกิน บริเวณแขนหรือหน้าท้อง พร้อมฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน
- ยกกระชับเนินอก – สามารถเพิ่มและกระตุ้นยกกระชับบริเวณเนินอกที่หย่อนคล้อยได้
การทำอัลเทอร่าเหมาะกับใคร ทำได้ทุกคนรึเปล่า ?
การทำอัลเทอร่านั้นเหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ซึ่งหมายความว่าคนที่มีปัญหาผิวเหล่านี้ทุกคนเหมาะกับการทำหัตถการนี้ เพราะมีความปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ผิวฟื้นตัวเร็ว ให้ผลดี กลุ่มที่เหมาะสามารถแบ่งออกเป็นตามระดับช่วงอายุ ดังนี้
วัยรุ่น (อายุน้อยกว่า 25)
หากทำตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ จะสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูหด ยกกระชับ เล็กได้รูป กรอบหน้าชัดเจน และเมื่ออายุมากขึ้น จะยังสามารถคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้
วัยทำงาน (25-35 ปี)
ในวัยทำงานปัญหาที่เริ่มเจอคือ ผิวหย่อนคล้อยโดยไม่รู้ตัว แก้มเริ่มหย่อน กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด เนื่องจากวัยที่โตขึ้น การเผชิญมลภาวะต่างๆ รวมถึงความเครียด อาจส่งผลให้ผิวดูแก่กว่าวัยได้ กลุ่มคนในวัยทำงานจึงสามารถเริ่มทำอัลเทอร่าได้ แม้ว่าริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยยังไม่มากเท่าไร แต่จะทำให้ดูเด็กกว่าวัย หน้าเป๊ะ และคงสภาพความเด็กไว้ ดีกว่าไปเริ่มทำตอนอายุมาก ที่ทำให้การย้อนวัยทำได้น้อยกว่า
วัยผู้ใหญ่ (35-59 ปี)
วัยผู้ใหญ่ตอนต้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนปลายจะเริ่มมีปัญหาผิวมากขึ้น เนื่องจากการผลิตคอลลาเจนในผิวลดลง ผิวหน้าหย่อนคล้อย ร่องแก้ม ร่องมุมปากเริ่มมา หนังตาตก ความหย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้าหรือเหนียง แสดงให้เห็นมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นในทุกปี การทำอัลเทอร่าในช่วงอายุนี้จึงยังถือ ว่าแทบจะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน ในการคงความอ่อนเยาว์ เพราะหากเริ่มช้าเกินไป แม้จะแก้ แต่ก็อาจจะแก้ได้ไม่ทั้งหมด เพราะร่างกายมีความสามารถในการแก้ไขได้จำกัด H3: วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
วัยที่อายุ 60 ขึ้นไป ปัญหาผิวเหี่ยว ไม่อิ่มฟู และริ้วรอยต่างๆ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ยากที่จะหลีกเลี่ยง การแก้ไขปัญหาผิวด้วยอัลเทอร่าอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้หัตถการอื่นๆ เข้ามาช่วย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ
ถึงแม้ว่าอัลเทอร่าเป็นหัตถการที่ความปลอดภัย ใครๆ ก็ทำได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน อย่างสตรีมีครรภ์ ควรพักการทำอัลเทอร่าไว้ก่อน แต่สามารถทำได้หลังคลอดบุตร คนที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง (Autoimmune disease) ผู้ป่วยในกลุ่มโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue disorder) ซึ่งอาจทำให้อาการปะทุขึ้นมาได้ หรือคนที่เป็นสิวอักเสบ มีแผลเปิด ไม่ควรทำอัลเทอร่าในบริเวณนั้น
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ
หากกำลังตัดสินใจว่าจะทำอัลเทอร่าดีไหม ลองพิจารณาถึงข้อดี และข้อเสียเหล่านี้ดู
ข้อดี
- เป็นการกระตุ้นผิวหนังตามธรรมชาติของร่างกายเราเอง ให้หดกระชับ เกิดคอลลาเจนถาวร
- ผิวตึง หด แบบธรรมชาติ หน้าดูอ่อนเยาว์ เหมือนการย้อนวัยตามธรรมชาติ
- เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ
- ไม่มีรอยแผล
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
ข้อเสีย
- อาศัยความใส่ใจ และความชำนาญในการทำ
- อาจมีอาการเจ็บบ้าง (ความเจ็บขึ้นอยู่ในแต่ละบุคคล)
อัลเทอร่า มีผลข้างเคียงหรือไม่
อัลเทอร่า เป็นเทคโนโลยีที่ยกกระชับผิวหน้าได้แบบไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีด การันตีประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก FDA อเมริกา และผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยาจากประเทศไทย (อย.) จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ ด้วยความพิเศษของเครื่องอัลเทอร่า ที่มีหน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ จึงทำให้หมอเห็นชั้นผิวก่อนที่จะยิงทุกครั้ง จึงมั่นใจได้ในความแม่นยำ พลังงานเข้ากระตุ้นชั้นผิวได้ถูกต้อง และไม่ทำร้ายหรือส่งผลต่อเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง
แนวทางการเตรียมตัวก่อนและดูแลตัวเองหลังจากทำ
การทำอัลเทอร่าก็มีหลักการเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้การทำราบรื่นและผลลัพธ์ออกมาดี ไร้ปัญหา
ก่อนทำอัลเทอร่า
- ปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิว วางแผนปรับรูปหน้าและจำนวนช็อตในการทำ
- งดทาสกินแคร์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวแบบรุนแรง
หลังทำอัลเทอร่า
- สามารถดูแลผิวและแต่งหน้าได้ตามปกติ
- อาจเกิดอาการบวมได้เล็กน้อย หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนขึ้นหลังอัลเทร่าไปแล้ว 1-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่คอลลาเจนถูกสร้างขึ้นอย่างเต็มที่
วิธีเช็กเครื่อง Ulthera แท้
วิธีสังเกตดูว่าเครื่อง Ulthera แท้หรือไม่ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการยกกระชับผิวหน้าด้วยเครื่องอัลเทอร่าปลอมนั้น นอกจากจะไม่เป็นผลแล้ว ยังทำให้หน้าพังได้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าไหม้ หน้าอักเสบ บวม เป็นต้น ซึ่งวิธีเช็กเครื่อง Ulthera แท้ ก็มีดังต่อไปนี้
- ลิขสิทธิ์จาก Merz Aesthetics
- มีใบประกาศจากบริษัท
- สัญลักษณ์โล่เพชร
- ตรวจสอบกับเว็บไซต์ของ Merz Aesthetics
- ค้นหาจากชื่อคลินิก = “DSK”
- ค้นหาจากผลิตภัณฑ์ = “อัลเทอรา”
- สามารถตรวจสอบเครื่องแท้ได้ที่ www.merzclubthailand.com
ทำ Ulthera ที่ไหนดี? พร้อมรีวิวจาก DSK Clinic
การทำ อัลเทอร่า นอกจากจะต้องมีเครื่องแท้แล้วอาศัย ความชำนาญในการดูมอนิเตอร์หน้าจอชั้นผิวที่ถูกต้องขณะทำเพื่อให้พลังงานลงสู่ชั้นที่ถูกต้อง ไม่ใช่การยิงไปเรื่อยๆเพียงอย่างเดียว
ทาง DSK Clinic แตกต่างจากคลินิกทั่วไป เพราะมีการประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลก่อนเข้ารับบริการ การที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีจากหลายสาเหตุ แตกต่างกันออกไป การที่ใช้เครื่องอัลเทอร่า รักษาเหมือนกันอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องวินิจฉัยปัญหาเฉพาะบุคคล ซึ่งทางคลินิกที่เป็นสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ และมีทีมแพทย์ที่ชำนาญการ DSK Clinic เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะที่นี่เป็นผู้นำด้านการเลเซอร์ มาตรฐาน USFDA ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของวงการแพทย์ มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ และแก้ปัญหาผิวให้คุณสวยได้อย่างปลอดภัย ด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้
Custom Analysis
ในขั้นตอนแรก หมอจะวิเคราะห์ วินิจฉัยปัญหาที่ทำให้เกิดที่ทำให้ใบหน้าไปกระชับ หย่อนคล้อย ที่แตกต่างกัน หลังจากนั้นก็จะวิเคราะห์ความรุนแรง เพื่อวางแผนการรักษาที่ตรงจุด จนให้ผิวหน้ากลับมาเด็กได้อีกครั้งอย่างแท้จริง
Custom Planing
การรักษาปัญหาผิวหน้า มีความซับซ้อนเหมือนกับการรักษาโรคอื่นๆ ดังนั้นการวางแผนการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
Custom Technique
ขั้นตอนการรักษาจริง ซึ่งจะนำข้อมูลการวางแผนมารักษา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตรงตามที่วางแผนไว้ เพราะเครื่องมือ เทคโนโลยี ตัวยาที่เหมือนกัน อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ดังนั้นการวินิจฉัย และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เป็นเทคนิคและมาตรฐานที่สำคัญของ DSK Clinic
รีวิวอัลเทอร่าที่ DSK Clinic
เทียบกันให้ชัด! Ulthera และหัตถการอื่นๆ
นอกจากการทำ Uthera เพิ่มยกกระชับผิวหน้าแล้ว ยังมีหัตถการอื่นๆ ที่สามารถช่วยเติมเต็มผิว ยกกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อยอีกเช่นกัน ซึ่งหัตถการที่ว่าก็คือ Themage และ HIFU แต่ละตัวก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน หากใครยังสงสัยอยู่ว่าทั้ง 2 ตัวนี้จะแตกต่างอย่างไรกับการทำอัลเทอร่า มาติดตามดูกัน
Ulthera VS Thermage
Ulthera จะเน้นการ Lifting หรืองานยกผิวหน้า แบบแม่นยำ โดยพลังงานจะออกจุดเล็ก แต่ลึกและแม่นยำ โดยลงพลังงานที่ชั้น SMAS
ส่วน Thermage เน้น Tightening, Firming, Elasticity หรือความหดตัว ยืดหยุ่น กระชับ เป็นการทำงานโดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (radio frequency: RF) เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวฟูดูอิ่มเอิบ โดยคลื่นวิทยุจะส่งผ่านความร้อนเข้าไปทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว และสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวอิ่มฟู เรียบเนียน หากต้องการเห็นผลเรื่องยกกระชับ Ulthera จะเด่นกว่า แต่ถ้าต้องการผิวแน่นเฟิร์ม หรือเคยทำ Ulthera มาแล้ว การทำ Thermage ก็จะยิ่งทำให้ผลลัพธ์สูงขึ้น โดย Thermage พลังงานจะออกก้อนใหญ่ ครอบคลุมผิวด้านบนมากกว่าด้านล่าง
Ulthera VS HIFU
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เข้าไปในชั้น SMAS เพื่อทำการยกกระชับผิวหน้า จะเห็นได้ว่าการทำงานของ Ulthera กับ HIFU นั้นใกล้เคียงกัน
แต่ในความเป็นจริงผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน เนื่องจากชั้น SMAS เป็นชั้นบางใต้ผิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และในแต่ละคน และแม้ในคนเดียวกันแต่ คนละบริเวณกัน SMAS ก็อยู่คนละตำแหน่งกัน
การใช้ Ulthera เปรียบเสมือนการที่เรามีกล้องส่องเห็นด้านล่างขณะทำ ทำให้พลังงานลงแม่นยำ 100% ทั้งนี้อาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใส่ใจในการยิง
ส่วน HIFU ขณะยิงจะไม่มีตัวสแกนภาพภายใน ดังนั้นการยิงจะเป็นการสุ่ม พลังงานอาจไม่โดน SMAS เลยก็เป็นไปได้
ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเหมือน Ulthera คือ ปืนไรเฟิลที่มีแสงเลเซอร์เป็นตัวนำทาง ส่วน HIFU คือการปิดตายิงปืน ซึ่งอาจโดนหรือไม่โดน SMAS และอาจไม่ได้ผล
ทำ HIFU หรือ Ultraformer หลายๆครั้ง ผลเท่า Ulthera ครั้งเดียวไหม
Ultraformer หรือ HIFU ตัวอื่นๆ ก็เหมือนการปิดตายิงปืน อาจได้ผลน้อยหรือไม่ได้ผลเลย จากการยิงแบบสุ่ม ส่วน Ulthera ก็เหมือน ก็ยิงปืนติดลำแสง
ดังนั้นแม้จะยิง HIFU หรือ Ultraformer หลายครั้งก็อาจไม่ได้ผลเท่า Ulthera ครั้งเดียว เรียกได้ว่าต้องเสี่ยงโชคกัน บางคนอาจจะได้ผล หรือบางคนอาจจะไม่ได้ผล ผลลัพธ์ค่อนข้างไม่แม่นยำ
ตามคำแนะนำของหมอ หมอแนะนำว่าเก็บเงินยิง Ulthera ครั้งเดียวได้ผลกว่า การยิง HIFU หลายๆรอบ หรือหลายๆชอตครับ
Ulthera หรือ Botox
Botox จะเน้นเรื่องการคลายกล้ามเนื้อ จึงเหมาะกับการลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยหน้าผาก ขมวด คิ้ว ตีนกา หรือลดกล้ามเนื้อกราม ให้หน้าดูวีขึ้น แต่ไม่ได้เหมาะกับการ ยกกระชับ และไม่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี
และขณะที่ Ulthera เป็นพลังงานส่งไปให้ชั้น SMAS หด และสร้างใหม่ เป็นการทำให้ผิวหดตัว ยกตัว เป็นหลัก
ทั้งนี้การจะทำให้หน้าเด็ก อาจต้องทำคู่กัน ขึ้นกับปัญหาที่เจอนั้นเอ
Ulthera หรือ Filler
Filler เน้นการฉีดเพื่อทดแทนกระดูก ไขมัน หรือปริมาตรที่สูญหาย เช่น หน้าแก้ม ใต้ตา ร่องแก้ม
ในขณะที่ Ulthera เน้นการหด และยกผิว
ในหลายๆกรณีเช่น การมีร่องแก้ม อาจต้องอาศัยทั้งการยกผิว เติมไขมันที่หายไป ร่องแก้มจึงจะหายได้ดี
หากเป็นกรณีของผิวหย่อนคล้อยโดยไม่มีกระดูกและไขมันที่สลายไปก็จะเป็นงานของ Ulthera เป็นหลัก ทั้งนี้ควรได้รับการประเมินจากแพทย์เพื่อการประเมินอย่างถูกต้อง
ทำ Ulthera แต่ละที่แตกต่างกันอย่างไร
เครื่องแท้ รุ่นใหม่
ปัจจุบันมีหลายคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานใช้เครื่องปลอมซึ่งออกแบบมาให้หน้าตาเหมือน Ulthera แต่มีจอแสดงผลปลอมที่ไม่สามารถสแกนผิวได้จริง และพลังงานที่ออกมาไม่เหมือนกัน ในขณะที่ยังมีอีกหลายที่ที่ใช้ Ulthera รุ่นเก่าที่มีความเจ็บ และได้ผลน้อยกว่า
ถ้ามีหลายคลินิกใช้เครื่องแท้เหมือนกัน ผลลัพธ์แตกต่างกันเพราะอะไร
เนื่องจากแม้ Ulthera จะมีระบบสแกนภาพภายในผิวแบบ Real time ทำให้การเล็งเป้าหมายสามารถทำได้ แต่การยิงให้ได้ผล หมอคนที่ยิงต้องมีความชำนาญ ดูผ่านหน้าจอรู้ว่าชั้นไหนคือ SMAS และต้องใส่ใจในทุกชอต ให้ทุกชอต โดนชั้นที่ต้องการยิงจริงๆ ซึ่งกระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่ใช้เวลา ใช้ความชำนาญและความใส่ใจ
การยิง Ulthera 600 lines เท่ากัน ในสองคลินิก จึงอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันครับ
FAQ รวมคำตอบถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับอัลเทอร่า
อัลเทอร่าอันตรายไหม?
ปลอดภัย เพราะอัลเทอร่าคือเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า ที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ด้านความปลอดภัยและมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากอย.ไทย และ USFDA
อัลเทอร่าเจ็บไหม?
อัลเทอร่ามีการช็อตไปที่ผิว ซึ่งอาจมีความเจ็บบ้างแต่รุ่นใหม่ที่ DSK Clinic จะมีความเจ็บน้อยมากๆ โดยความเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้
อัลเทอร่ากี่ช็อต?
อัลเทอร่ากี่ช็อตนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา บริเวณที่ต้องทำ และอายุ และการวินิจฉัยของแพทย์ ว่าปัญหาผิวแบบไหน ควรใช้กี่ช็อต เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ โดยปกติแนะนำ 400-1200 lines
อัลเทอร่าหน้าบวมกี่วัน?
การทำอัลเทอร่าอาจทำให้มีอาการหน้าบวมได้เล็กน้อย ซึ่งสามารถค่อยๆ หายเองภายใน 2-3 วัน
อัลเทอร่า นานไหมกว่าจะเห็นผล?
ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังทำ 20% แต่อาจจะเห็นได้ยังไม่เต็มที่ และ 1 เดือน 50% เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 100%
ทำอัลเทอร่า 1 ครั้ง อยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังยิง อัลเทอร่า 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้ 1-2 ปี
สามารถทำคู่กับหัตถการอื่นได้ไหม?
สามารถทำคู่กับหัตถการอื่นได้ เช่น Botox, Filler, Thermage, Sculptra และจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น เพราะหัตถการแต่ละประเภทจะเข้าไปโฟกัสที่ปัญหาที่ต่างกัน ทั้งนี้ในคนไข้ 1 คนไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง แต่ควรปรึกษาแพทย์และคลินิกที่เชี่ยวชาญในเรื่องการ Customization ออกแบบการรักษาที่จำเป็น และจำเพาะต่อปัญหาของแต่ละคน ที่สำคัญคลินิกที่มีการรักษาทุกอย่างครบ ก็สามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมได้มากกว่า
Ulthera VS Ultraformer ได้ผลเหมือนกันจริงหรือไม่
Ulthera และ Ultraformer เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้าและลดริ้วรอย โดยทั้งสองเครื่องมีการใช้เทคโนโลยี High Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ในการทำงาน
Ulthera เป็นเครื่องเดียวในโลกที่มีระบบ Visualization หรือการมองเห็นชั้นผิวด้านในได้ขณะทำ ทำให้พลังงานลงสู่ชั้น SMAS ได้
ส่วน Ultraformer เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นชั้นผิวได้จึงเป็นการอาศัยหลักการสุ่ม พลังงานอาจจะโดนหรืออาจจไม่โดน SMAS เหมือนการปิดตายิงปืน บางเคสได้บางน้อย บางเคสไม่ได้ผล
สรุป
การทำอัลเทอร่าคือ การจัดการกับปัญหาผิวที่เหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ ให้กลับมากระชับ แลดูเด็กขึ้น แบบไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว ทำงานโดยปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานและความแม่นยำสูงลงไปยังชั้น SMAS เห็นผลทันที และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า 1 ปี แต่การทำอัลเทอร่าให้ได้ผลดีที่สุดคือการเลือกสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย มีมาตรฐานรับรอง พร้อมทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
เพราะความสำคัญของ Ulthera คือการเลือกเคสต้องเหมาะสม ว่าเหมาะกับ Ulthera รวมถึงบางเคสอาจต้องมีการผสมผสานการรักษาคู่กับการรักษาอื่นๆ
ทั้งนี้การทำ Ulthera ยังอาศัยเครื่องแท้ และ ความชำนาญ ระหว่างทำ หากเป็นการกดปุ่มยิงไปเรื่อยๆ เพื่อประหยัดเวลา แม้จะเป็นเครื่องแท้ก็อาจเสียเงินฟรีได้ สิ่งที่ DSK Clinic เน้นคือเรื่องการเลือกการรักษาที่เหมาะสม เครื่องมือ และเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อให้คนไข้ทุกคนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
DSK Clinic มุ่งมั่นในการบริการที่เน้นความปลอดภัยและคุณภาพ เพื่อให้คุณได้โชว์ความสวยในแบบของคุณเอง