- February 9, 2024
ฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ยี่ห้อไหนดีที่สุด มีรุ่นอะไรบ้าง
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
คุณหมอขอสรุป ทำฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?
– ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อก็มีความเหมือน และแตกต่างกันไป ทั้งในด้านคุณสมบัติ เนื้อเจลฟิลเลอร์ โมเลกุล ความคงทน รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้ ฟิลเลอร์ที่นิมยมในไทยได้แก่ Restylane, Belotero, Nueramis และ Juvederm – ฟิลเลอร์ใต้ตาโดยทั่วไปจะฉีดกันประมาณ 2-4CC ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ โครงหน้า และลักษณะผิว – ราคาฟิลเลอร์แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา และโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ โดย Restylane, Belotero, Juvederm มีราคาประมาณ 15,000- 20,000 บาท Neuramis มีราคาประมาณ 5,000 – 9,000 บาท – ควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาที่ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากได้ มีราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ตรวจสอบเลขล็อตสินค้าได้ มีเลขอย. ที่ตรวจสอบได้ และฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกที่มีใบอนุญาตเพื่อความสวยที่ปลอดภัย มีการวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล พร้อมด้วยการติดตามผลลัพธ์หลังทำ |
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นอีกบริเวณหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณอื่นๆ แต่การฉีดฟิลเลอร์บริเวณรอบดวงตาอาจทำให้หลายคนกังวลใจในเรื่องของความปลอดภัย เพราะหากได้รับฟิลเลอร์ที่ไม่มีมาตรฐาน หรือฟิลเลอร์ปลอม อาจทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ การจะเลือกฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจึงต้องรู้ก่อนว่า แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและจุดเด่นอย่างไร บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลือกฟิลเลอร์ ทำความรู้จักกับยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาต่างๆ เพื่อให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างปลอดภัย
มารู้จักฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ แตกต่างกันอย่างไร
ถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์เหมือนกัน แต่ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติ และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในด้านของลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ โมเลกุล รวมไปถึงการช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตา ใครที่ยังมีคำถามว่าแล้วเราควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ต้ายี่ห้อไหนดี มาดูกันว่าฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อมีลักษณะอย่างไร มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ และช่วยแก้ปัญหาใต้ตาในด้านใดได้บ้าง
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Restylane เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน เป็นสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอน (HA) พัฒนาสูตรด้วย NASHA® Technology และ XpresHAn TechnologyTM ทำให้เนื้อเจลมีลักษณะนุ่ม ยืดหยุ่นสูง ออกแบบมาเพื่อให้มีความใกล้เคียงกับไฮยาลูรอนิค แอซิดในร่างกายของมนุษย์ ซึมเข้าเนื้อเยื่อได้อย่างดี ให้ความเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ Restylane สำหรับใช้กับใต้ตามีทั้งหมด 4 รุ่น ดังนี้
- Restylane Vital Light มีลักษณะนิ่ม เนื้อละเอียด มีขนาดอนุภาคเล็ก มีส่วนผสมของยาชา เป็นรุ่นที่เหมาะกับคนที่มีปัญาเล็กน้อย มีริ้วรอยตื้นๆ หรือบริเวณใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาร่องลึก และยังเหมาะกับบริเวณริมฝีปากและหน้าผากด้วยเช่นกัน พร้อมให้ผลลัพธ์ยาวนาน 12 เดือน
- Restylane Classic ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา ลักษณะโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความแข็งระดับปานกลาง มีส่วนช่วยในการแก้ไขถุงใต้ตา ปัญหาใต้ตาลึก และให้ผลลัพธ์ยาวนาน 12 เดือน
- Restylane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อไฮยาลูรอน ที่มีส่วนผสมของยาชา ลักษณะเนื้อโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความแข็ง มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยเพิ่มมิติให้กับบริเวณกระดูกเบ้าตา ช่วยให้ใต้ตาดูตื้นขึ้น และช่วยลดถุงใต้ตา ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 12 เดือน
- Restylane Defyne เนื้อเจลไฮยารูลอนที่มีส่วนผสมของยาชา มีขนาดโมเลกุลขนาดใหญ่ เนื้อแข็ง ช่วยลดริ้วรอยร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม เพิ่มมิติให้กับคาง ลดเหนียง สามารถฉีดบริเวณกระดูกเบ้าตาเพื่อลดถุงใต้ตา และแก้ไขปัญหาตาลึกได้ ให้ผลลัพธ์ยาวนานตั้งแต่ 6 ถึง 12 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Belotero
Belotero ฟิลเลอร์ใต้ต้ายี่ห้อดังจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์แท้ ปลอดภัย ได้รับการรับรองจากและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย อย. สหรัฐอเมริกา ยุโรป รวมถึงประเทศไทย สำหรับรุ่นที่ใช้ฉีดใต้ตาก็มีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น
- Belotero Volume มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็ม เพิ่มวอลลุ่มให้กับริ้วรอย และปัญหาผิวหน้าต่างๆ มีความยืดหยุ่นสูงและคงตัวได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งแก้ม คาง ขมับ และแก้โครงสร้างที่มีปัญหาจากชั้นลึก ไขมันชั้นลึก และกระดูก เป็นฟิลเลอร์มีความความคงตัวและตั้งทรงได้ พร้อมให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 18 เดือน
- Belotero Soft มีทั้งแบบมียาชาและไม่ยาชา เนื้อฟิลเลอร์นุ่ม ละเอียด มีโมเลกุลขนาดเล็ก เรียกได้ว่าเล็กที่สุดจาก Belotero เลย ให้ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติ เซ็ตตัวเร็ว เก็บรายระเอียดได้ดีเยี่ยม เหมาะกับบริเวณผิวชั้นตื้น ร่องริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก และสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้ ความคงทนของผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Belotero Balance ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา โดยเนื้อของตัวฟิลเลอร์จะมีความนิ่มงปานกลาง มีความละเอียดรองลงมาจากตัว Belotero Soft เหมาะสำหรับแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมให้ผลลัพธ์นานถึง 12-18 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Neuramis
Neuramis เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาเกาหลี ฟิลเลอร์ระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย มั่นใจได้ เพราะผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) เกาหลี (MFDS) ยุโรป (EDQM) และอเมริกา (USFDA) พร้อมทั้งใช้ SHAPE technology ซึ่งเป็นการการสร้าง Crosslink ในฟิลเลอร์สองขั้นตอน สำหรับรุ่นที่สามารถนำมาฉีดใต้ตาได้มี 2 รุ่นด้วยกัน คือ
- Neuramis Deep ฟิลเลอร์ไฉยารูลอนิคที่ไม่มียาชาผสม ถือเป็นรุ่นแรกๆ ที่เข้ามาในไทย เนื้อเจลมีความแข็งปานกลาง เหมาะกับแก้ม ขมับ ร่องน้ำหมาก และใต้ตา อยู่ได้นานประมาณ 6–8 เดือน
- Neuramis Deep Lidocaine ฟิลเลอร์ไฉยารูลอนิคที่มียาชาผสม เนื้อสัมผัสก็จะมีความคล้ายกับ Neuramis Deep คือมีความหนืด หรือความแข็งในระดับปานกลาง เหมาะกับการฉีดแก้ม หน้าผาก คาง ริมฝีปาก และบริเวณใต้ตาชั้นลึก ให้ผลลัพธ์ประมาณ 6–8 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อ Juvederm
Juvederm ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อยอดนิยมจากอเมริกาที่เขาเคลมว่าเป็นอันดับหนึ่งของฟิลเลอร์ที่ถูกเลือกใช้ในอเมริกา Juvederm คือ ฟิลเลอร์ในกลุ่ม Hyaluronic Acid ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า VYCROSS® Technology ทำให้เนื้อเจลฟิลเลอร์นั้นมีความเรียบเนียนนั่นเอง ทั้งยังผ่านการรับรองจากอย.ไทย (THFDA) และอย.อเมริกา (USFDA) สำหรับรุ่นของฟิลเลอร์ Juvederm ที่ใช้กับใต้ตามีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้
- Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์ผสมยาชา ที่เนื้อมีความเหลวที่สุด ละเอียด บางเบา เหมาะกับการเติมเต็ม เพิ้มความอิ่มฟูให้ผิว แก้ไขริ้วรอยตื้นๆ แก้ไขปัญหาใต้ตา ความคงทนของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 12-18 เดือน
- Juvederm Volift มีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีลักษณะนิ่มปานกลาง และมีความฟู ไม่ไหลง่าย มียาชาผสมอยู่ด้วย เหมาะสำหรับบริเวณริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม ขมับ และใต้ตาชั้นลึก เพื่อแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ใต้ตาลึก ถุงใต้ตา อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์ผสมยาชาที่มีเนื้อฟิลเลอร์แข็ง ฟู แน่น แต่มีความยืดหยุ่นสูง ให้ความเรียบเนียน ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาลึก และถุงใต้ตา ให้ความคงทน 12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องฉีดกี่ CC
หลายๆ คน อาจมีคำถามว่าใต้ตาต้องฉีดฟิลเลอร์เยอะไหม ฉีดกี่ CC แล้วปัญหาใต้ตาที่เรามีต้องฉีดมากน้อยแค่ไหน? ซึ่งปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละคน รวมไปถึงลักษณะของใบหน้า และโครงหน้าของแต่ละคนด้วย แต่ละปัญหาก็เหมาะกับฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละชนิด โดยสามารถแยกได้เป็นปัญหาใต้ตาชั้นตื้นกับชั้นลึก ดังนี้
ปัญหาใต้ตาชั้นตื้น
การแก้ไขปัญหาใต้ตาสำหรับคนที่มีใต้ตาชั้นตื้นจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 1 CC ต่อข้าง ลักษณะฟิลเลอร์ที่ใช้ควรมีเนื้อเจลนุ่ม ละเอียด มีโมเลกุลเล็ก เพื่อเข้าไปเติมเต็มในบริเวณที่มีปัญหาได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ออกมามีความเป็นธรรมชาติ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับปัญหาใต้ตาชั้นตื้นก็จะมี Restylane Vital Light, Belotero Soft และ Juvederm Volite
ปัญหาใต้ตาชั้นลึก
ปัญหาใต้ตาชั้นลึกจะต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความแข็งเพื่อที่สามารถสร้างซัพพอร์ตให้กับโครงสร้างของใต้ตาได้ ทำให้ตาดูเต็ม อิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น สำหรับคนไข้ที่มีใต้ตาชั้นลึกปริมาณฟิลเลอร์จะฉีดอยู่ที่ประมาณ 1.5 – 2 CC ต่อข้าง ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวก็จะมี Restylane Classic, Restylane Lyft, Restylane Defyne, Belotero Volume, Belotero Soft, Belotero Balance, Neuramis Deep, Juvederm Voluma และ Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหน ราคาเท่าไรบ้าง
ฟิลเลอร์ใต้ต้าแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีราคาที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในขณะนั้นด้วย โดยราคาฟิลเลอร์ใต้ตามีดังนี้
- Restylane
- Restylane Vital Light มีราคาประมาณ 8,000 – 18,000 บาท
- Restylane classic มีราคาประมาณ 8,000 – 10,000 บาท
- Restylane Lyft มีราคาประมาณ 8,000 – 18,000 บาท
- Restylane Refyne มีราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาท
- Belotero
- Belotero Soft มีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
- Belotero Volume มีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
- Belotero Balance มีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
- Neuramis
- Neuramis Deep มีราคาประมาณ 5,000-9,000 บาท
- Juvederm
- Juvederm Volite มีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
- Juvederm Volift มีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
- Juvederm Voluma มีราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท
ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ ทำได้อย่างไร
การตรวจสอบฟิลเลอร์แท้หรือปลอมจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ บนใบหน้า และด้วยความสวยต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย เราจึงมีวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้หรือปลอมง่ายๆ มาให้ทุกคนดูกัน
ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากของฟิลเลอร์
การตรวจสอบข้อมูลบนฉลากของฟิลเลอร์เป็นขั้นตอนแรกๆ ที่ทุกคนต้องให้ความสนใจ โดยตรวจสอบดูว่าฉลากที่แนบมากับตัวกล่องนั้นมีเอกสารภาษาไทยกำกับอยู่ไหม เพราะฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของไทยจะมีฉลากที่ระบุเป็นภาษาไทย รวมไปถึงเลขทะเบียนอย. และวันหมดอายุที่ชัดเจน หากไม่มี ก็อาจจะสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อนี้อาจจะไม่ใช่ของแท้
ราคามีความเหมาะสม
ฟิลเลอร์แท้ต้องไม่มีราคาที่ถูกจนเกินไป แต่ต้องมีราคาที่เหมาะสม โดยราคาฟิลเลอร์แท้มักจะไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท หากพบเจอฟิลเลอร์ที่ราคาหลักพันต้นๆ ก็โอกาสเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้
ตรวจสอบเลขล็อตสินค้า
ตรวจสอบเลขล็อตสินค้าว่าตรงกันทุกจุดไหม ซึ่งฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อต่างๆ ก็จะมีจุดให้สังเกตแตกต่างกันไปตั้งแต่ 2-4 จุด ซึ่งจุดที่สามารถสังเกตุเลขรหัสกำกับสินค้า หรือเลขล็อตสินค้า ได้จากที่สติกเกอร์ที่กล่อง ที่ซอง และที่หลอดฟิลเลอร์
มาตรฐานความปลอดภัย
ฟิลเลอร์แท้ มีคุณภาพ และมีมาตรฐานจะต้องมีการรับรองความปลอดภัยจากอย. เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต
ฟิลเลอร์แท้ต้องมาควบคู่กับคลินิกที่มีใบอนุญาต สถานที่บริการก็ต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข แพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ก็ต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ หลีกเลี่ยงการรับบริการจากแหล่งบริการที่ไม่มีการรับรอง และห้ามซื้อฟิลเลอร์จากอินเทอร์เน๊ตเป็นอันขาด เพราะว่าฟิลเลอร์แท้ไม่มีวางจำหน่ายออนไลน์อย่างแน่นอน
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ DSK Clinic
การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น เป็นการฉีดในบริเวณที่เสี่ยงต่ออันตรายจนถึงการสูญเสียการมองเห็นได้หากฉีดไม่ถูกต้อง หรือมีการใช้ฟิลเลอร์ปลอม การจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัยไม่ใช่เพียงแค่การเลือกว่า filler ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่สุด แต่ต้องเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับรองอย่างถูกต้อง พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบประกอบโรคศิลป์ สามารถปรับการรักษาให้เหมาะกับตัวบุคคลเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งทาง DSK Clinic สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ทุกข้อ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ DSK Clinic ดีกว่ายังไง ไปดูกัน
ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ตรวจสอบได้
DSK Clinic มีตัวเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาให้หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น สามารถเลือกได้ตามสภาพผิวหน้า และปัญหาผิวที่ต้องการปรับแก้ ที่สำคัญ ที่นี่ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ตรวจสอบได้ไม่มีปิดบัง ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอกับฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน เพราะเราคัดเอาฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ได้ทุกรูปแบบมาให้คุณ
DSK Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์
DSK Clinic เป็นคลินิกปรับรูปหน้าที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ สามารถวิเคราะห์รูปหน้า และเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมให้กับปัญหานั้นๆ ทีมแพทย์ผิวหนังมากประสบการณ์ ดูแลให้คำแนะนำตลอดการรักษา พร้อมเทคนิคอันโดดเด่นกว่าใคร ที่บอกได้เลยว่า แม้ฟิลเลอร์ 1 กล่องจะมีปริมาณ 1 CC เท่ากัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดในแต่คลินิกจะต่างกันออกไป ที่นี่ใช้ยาน้อย ให้ความสวยแบบธรรมชาติ อย่างปลอดภัย
มีการวางแผนรักษาเฉพาะบุคคล
การฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องมีการวางแผนรักษาเฉพาะบุคคล แต่ละคนก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไป การรักษาก็ต่างกันกัน หรือบางคนอาจจะมีปัญหาเหมือนกัน แต่โครงหน้า ลักษณะผิวต่างกัน ก็ต้องมีแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละเคส DSK clinic มีแผนการรักษาเฉพาะบุคคลตาม 3 หลักการ คือ
- Custom Analyse วิเคราะห์ปัญหาและโครงหน้าที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล ประเมินถึงโครงสร้างผิว เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ออกมาได้เป็นธรรมชาติ ใช้ฟิลเลอร์น้อย แต่แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
- Custom Planning วางแผนการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับผิว และปัญหาของคนไข้
- Custom Technique ใช้เทคนิคการรักษาที่ตอบโจทย์ปัญหาของแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงโครงหน้า ร่วมกับความต้องการของคนไข้ เพื่อให้ความพึงพอใจสูงสุด
มีการติดตามผลลัพธ์หลังทำ
หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ที่ DSK clinic แล้ว เรามีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการรักษาต่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะเราใส่ใจในทุกขั้นตอน ให้คนไข้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศ
ที่ DSK Clinic มีรางวัลการันตี มั่นใจได้ว่าคลินิกของเรามีความเชี่ยวชาญ และเชื่อถือได้ โดยรางวัลการีนตีของเรามีดังนี้
- รางวัล 2021 Rising Star, The Thailand Fastest Growth for Ultherapy, German Toxin & Swiss Filler คลินิกเดียวในไทย
- รางวัล 2021 The Infinite Award for Merz Swiss Filler สำหรับยอดการใช้งานฟิลเลอร์ Belotero สูงสุดอันดับ 1 ในประเทศ
- รางวัลยอดผู้ใช้บริการฟิลเลอร์ Restylane สูงสุดระดับประเทศจากบริษัท GaldermaDSK เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์ วิเคราะห์ลงลึก “เฉพาะบุคคล” เลือกยาเหมาะสม ออกแบบเทคนิคฉีดแม่นยำ กระดูกชั้นลึก ชั้นกลาง และชั้นตื้นตามสาเหตุ เพื่อความเป็นธรรมชาติ
- รางวัล Top 10 คลินิกระดับประเทศ โดยบริษัทฟิลเลอร์พรีเมี่ยมระดับโลกอย่าง Restylane และ Belotero
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับ DSK Clinic
ช่องทางการติดต่อ DSK Clinic
สามารถติดต่อกับทาง dsk clinic เพื่อสอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ที่
- Inbox : https://m.me/DSKclinic
- Line : @dskinclinic เท่านั้น (มี@ด้วยนะคะ) หรือคลิก https://lin.ee/K0Itr6.
- DSK Clinic Flagship Clinic at Stadium One
- DSK Clinic สาขาบางนา โครงการ Index Living Mall บางนา
- DSK Clinic สาขารัชดา MRT รัชดา ทางออก 2 อาคาร The Wiz Ratchada
- DSK Clinic สาขานครปฐม ถ.ราชวิถี ใกล้องค์พระปฐมเจดีย์
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นควรเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม มีคุณสมบัติ และจุดเด่นตรงกับปัญหาของเรา ที่สำคัญต้องเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาแท้ที่มีมาตรฐาน เลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรอง พร้อมทีมแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างตรงจุด เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ออกมาสวย เป็นธรรมชาติ ไม่เกิดอันตรายต่อบริเวณดวงตา หรือผลเสียอื่นๆ ที่ตามมา
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
DSK Clinic ได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อมาตอบคลายข้อสงสัย เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจกับฟิลเลอร์ใต้ตามากยิ่งขึ้น
ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์มีหลายลักษณะ มีความนุ่ม ความแข็งไม่เท่ากัน แต่ละรุ่นก็ทำออกมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด จึงต้องเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับบริเวณที่มีปัญหา
- ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้น เช่นมีการฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
- ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ที่ใช้ควรได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถสลายได้ กลายเป็นก้อน ทำให้ต้องทำการขูดออกเพื่อกำจัดฟิลเลอร์ออกไป
- ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง แพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ควรเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าใจถึงรูปหน้า ปัญหาใต้ตาของคนไข้ และสามารถเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับบริเวณ และปัญหาของคนไข้ได้อย่างเหมาะสม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาโดยทั่วไปแล้วจะฉีดเพียง 1-2 CC หากใต้ตาลึกจะฉีดอยู่ที่ข้างละ 1.5-2 CC หากใต้ตาตื้นจะฉีดที่ปริมาณข้างละ 1 CC
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม
ฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหน รุ่นอะไร ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตนเองหลังฉีด
บทความที่เกี่ยวข้อง
1. ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาตาคล้ำ เติมร่องใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์
2. DSK สรุปให้ ฟิลเลอร์ใต้ตากับ 7 ปัญหา ถ้าเลือกคลินิกไม่ดี
3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วไม่เห็นผล เพราะไม่เคยรู้สิ่งนี้มาก่อน…
4. ฟิลเลอร์ใต้ตา 5 เทคนิคจากปัญหา 5 แบบ
5. ใต้ตาดำคล้ำจากภูมิแพ้ แก้ไขได้ด้วยฟิลเลอร์ เฉพาะที่ DSK