คุณหมอขอสรุป ฟิลเลอร์ ที่ DSK Clinic ดียังไง ?

– DSK Clinic เป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์ โบทอกว์ และการยกกระชับใบหน้า – ให้การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และการปรับรูปหน้า เน้นการให้คำปรึกษาก่อนการใช้ฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม  – สิ่งที่ DSK แตกต่างและไม่เหมือนที่ไหนคือ การเน้นการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าก่อนฉีด เพื่อวางแผนการฉีดด้วยเทคนิค ABI หรือ Analyse Before Injection ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะที่ DSK เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยกว่า ธรรมชาติกว่า ใช้ยาน้อยกว่า เพราะเกิดความแม่นยำในการฉีดที่มากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา เลือกตัวยาที่เหมาะสม และกำหนดความลึกของการฉีดที่แม่นยำ – DSK ได้รับรางวัลระดับประเทศโดยได้รับรางวัลยอดใช้สูงสุดอันดับ 1 (Infinite Award) จากฟิลเลอร์ Belotero และได้รับรางวัลยอดใช้สูงสุดระดับประเทศจากฟิลเลอร์ Restylane – DSK ได้รับรางวัล Thailand Rising Star Clinic เพียงคลินิกเดียวของไทย ในการให้บริการด้วย Filler, Ulthera และ Xeomin จากบริษัท Merz Aesthetics แห่งเดียวของประเทศไทย – DSK Clinic มีการประเมิน และวิเคราะห์สภาพผิวของผู้รับบริการทุกคนทั้งก่อนและหลังฉีด ตลอดจนดูแล และติดตามผลการฉีดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจในความปลอดภัยของฟิลเลอร์แท้ที่สามารถขอตรวจสอบได้โดยตรงกับทางบริษัทยา

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเสริมความงามโดยไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Cosmetic) ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มริ้วรอย และปรับรูปหน้าได้ แต่ว่าบางคนฉีดแล้วกลับไม่ชอบ เลยรู้สึกว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผล ไม่เข้ากับใบหน้าตัวเอง ซึ่งอาจเป็นเพราะเลือกตำแหน่งฉีดไม่ถูกหรือฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผู้ชำนาญการ ดังนั้น บทความนี้จึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักว่าจริงๆ แล้วฟิลเลอร์คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง ฉีดตรงไหนดี รวมถึงวิธีดูว่าฟิลเลอร์ที่จะฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้หรือปลอม 

ฟิลเลอร์ คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ สารที่ใช้ฉีดเติมเต็มเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไปตามธรรมชาติเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐานอย. ไทยในปัจจุบัน คือ ฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราวในรูปแบบสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (HA) สารดังกล่าวเป็นสารที่เลียนแบบสารธรรมชาติที่อยู่ใต้ชั้นผิว จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มร่องริ้วรอย ช่วยให้ผิวเต่งตึง กระชับ เปล่งปลั่ง ไม่หย่อนคล้อย ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

ฟิลเลอร์แบ่งได้กี่ประเภท

ปัจจุบันสารเติมเต็มผิวที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่

1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)

ฟิลเลอร์ประเภทนี้ คือ สารเติมเต็มผิวที่เรียกว่า Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติบนผิวของคนเรา ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง แต่การผลิตไฮยาลูโรนิคแอซิดจะลดลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ประเภทนี้จึงเป็นการเติมเต็มไฮยาลูโรนิคแอซิดเพื่อทดแทน ซึ่งเป็นการฉีดแบบชั่วคราวเท่านั้น เพราะสารไฮยาลูโรนิคแอซิดสามารถสลายได้ โดยให้ผลลัพธ์อยู่ที่ 4-24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น และยี่ห้อของฟิลเลอร์ นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์แบบชั่วคราวยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย เพราะเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทย

2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)

ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร เป็นสารเติมเต็มที่ไม่สามารถสลายหมดได้ตามธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้อาจเกิดผลข้างเคียงในระยะยาวตามมาได้ โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้มี 2 ชนิด ได้แก่

Poly-L-lactic acid (PLLA)

Poly-L-lactic acid (PLLA) เป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน และมีส่วนช่วยในการจัดการปัญหาริ้วรอยลึกได้ การใช้สารเติมเต็มชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่ประมาณ 2 ปี หรือมากกว่านั้น

Calcium hydroxylapatite (CaHA)

Calcium hydroxylapatite (CaHA) เป็นประเภทฟิลเลอร์ที่สามารถพบได้ในกระดูกของคนเรา จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร สามารถสลายตัวได้เองเพียงบางส่วน ทำให้บางส่วนสามารถตกค้างอยู่ใต้ชั้นผิวได้ ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ชนิดนี้จะอยู่ได้ราวๆ 1 ปี

3. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)

ฟิลเลอร์ประเภทถาวร คือ ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวไม่สามารถดูดซึมสารได้ ก่อให้เกิดสารตกค้างที่อาจส่งผลต่อผิวในระยะยาวได้  และที่สำคัญคือยังไม่ผ่าน อย. ไทย ฟิลเลอร์ประเภทนี้มักมีสารเติมเต็มจำพวก Polymethymethacrylate (PMMA) ซิลิโคน และพาราฟิน

ฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง 

ผู้ที่เริ่มสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์อาจสงสัยว่าฟิลเลอร์ช่วยอะไรได้บ้าง แล้วผิวของตนเองนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องฉีดฟิลเลอร์ อย่างที่ทราบกันว่าเมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในผิวจะลดลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ไม่ยืดหยุ่นสดใสเหมือนแต่ก่อน มาดูกันว่าฟิลเลอร์ นั้นจะช่วยแก้ปัญหาผิวของคุณได้อย่างไรบ้าง 

• เพิ่ม Volume ให้ผิว – ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำของฟิลเลอร์มีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผิวดูเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง เต่งตึงขึ้น แลดูอ่อนเยาว์
• ลดริ้วรอย – ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามวัย และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อีกด้วย
• ช่วยแก้ไขรูปหน้า – ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปหน้าให้มีความสมบูรณ์แบบ และสมส่วนมากยิ่งขึ้นได้ โดยอาจฉีดตามขมับ หน้าผาก หรือคาง
• ทำให้ริมฝีปากและแก้มดูอวบอิ่ม – ใครที่อยากมีริมฝีปากที่ดูอวบอิ่ม และลดความหย่อนคล้อยหรือความตอบของแก้ม ฟิลเลอร์จะช่วยให้บริเวณดังกล่าวดูเติมเต็ม อิ่มฟูได้

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง

ฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้ตามความต้องการ โดยจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อพิจารณาและวางแผนร่วมกับคนไข้ ซึ่งบริเวณที่นิยมและสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ มีดังนี้

บริเวณหน้าผาก

คนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่ม และแลดูสมส่วนมากขึ้น รวมถึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 3-5 cc

บริเวณขมับ

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ สามารถช่วยเติมเต็มบริเวณขมับให้ดูสมส่วนมากขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาขมับตอบ หรือขมับยุบ เมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วจะช่วยให้ใบหน้าดูเต็มอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 2-4 cc

บริเวณใต้ตา

 ฟิลเลอร์ใต้ตานิยมฉีดเพื่อแก้ไขความหมองคล้ำและลดริ้วรอย โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 2-4 cc

บริเวณร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ซึ่งทำให้ดูมีอายุและดูแก่ก่อนวัยได้ 

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 2-4 cc

บริเวณจมูก

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูก มีส่วนช่วยทำให้จมูกได้รูปสวย แก้ปัญหาจมูกเบี้ยวและทำให้จมูกโด่งขึ้น 

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 1-2 cc

บริเวณปาก

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปากช่วยทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นมาได้ เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากบางและอยากเพิ่มมิติให้ปากดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 1-2 cc

บริเวณคาง

การฉีดฟิลเลอร์บริเวณคางจะเหมาะกับคนที่อยากปรับรูปหน้าให้สมส่วน ให้คางดูเรียวยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ 1-3 cc

แบรนด์ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ไทย ในปัจจุบัน

ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากสวยแบบไม่ปลอดภัย การฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์จึงควรเลือกชนิดที่ได้มาตรฐานรับรอง เพราะความสำคัญของการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ คือ ความปลอดภัยต่อร่างกาย และผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีด หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ไม่มีคุณภาพ สิ่งที่ตามมา คือ การอักเสบ ใบหน้าผิดรูป ผิวเกิดพังผืด เนื้อตาย เกิดการตกค้างของฟิลเลอร์ จนจับตัวกันเป็นก้อนนูน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเองได้ ต้องใช้วิธีการผ่าตัด หรือการขูดเอาฟิลเลอร์ที่ตกค้างออกไปการฉีดฟิลเลอร์ควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้คนไข้หลายคนเลือกไปฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า หมอเลยอยากพามาดูว่าปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ และได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย หลายแบรนด์ให้เลือกใช้ มาดูกันว่ามีแบรนด์ฟิลเลอร์ตัวไหนบ้าง

แบรนด์ฟิลเลอร์จากยุโรป

Belotero

Belotero แบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในประเทศไทย Belotero ถูกนำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้การรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM ของยุโรป

 อะไรที่ทำให้ Belotero แตกต่างจากฟิลเลอร์อื่นๆ ? Belotero เป็นฟิลเลอร์กลุ่มไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ผ่านกระบวนการหมัก (Biofermented) เพื่อสกัดไฮยาลูโรนิคที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมาก และสลายได้เองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ของ Belotero ยังผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และง่ายต่อการฉีดฟิลเลอร์ ทำให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจหลังฉีดภายในกี่ชั่วโมง ให้ความเรียบเนียน ช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอยได้เป็นอย่างดี อยู่ได้นานถึง 18 เดือน  ด้วยคุณสมบัติและเทคโนโลยี รวมถึงความปลอดภัยสูง ทำให้ Belotero เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ DSK Clinic แนะนำ

Juvederm

Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ทำการผลิตโดยบริษัท Allergan ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสหรัฐ จัดเป็นฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) ในกลุ่มไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA แบรนด์ Juvederm ถือเป็นฟิลเลอร์ตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ผู้คนในสหรัฐอเมริกาเลือกใช้ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM มีความปลอดภัยสูง และให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

จุดเด่นของ Juvederm ที่ต้องพูดถึงเป็นอันดับแรกเลย คือ สิ่งที่เรียกว่า Vycross® Technology เป็นเทคโนโลยีฟิลเลอร์ที่ได้รับการออกแบบ และพัฒนาโดย Allergan Aesthetics โดยทำการเชื่อมโยงโมเลกุล HA เพื่อสร้างเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความเรียบเนียน ใส ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 8-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด) และเป็นธรรมชาติ ทั้งยังมีส่วนผสมของยาชา Lidocaine เล็กน้อย เพื่อลดความเจ็บในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย

Restylane

Restylane เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนตัวแรกของโลก ที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ระดับโลกว่ามีความปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ที่ดีกับทุกสีผิว ฟิลเลอร์แบรนด์ Restylane เป็นสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับกรดไฮยาลูโรนิคที่ร่างกายของคนเราผลิตตามธรรมชาติ ทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (USFDA) ว่ามีความปลอดภัย และนำไปใช้ทำการรักษากว่า 55 ล้านครั้ง ทั่วโลก ทำให้ DSK มั่นใจเลือกใช้ Restylane ฉีดให้กับลูกค้าหลักการทำงานที่โดดเด่นของ Restylane คือ NASHA® (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) และ XpresHAn Technology^TM เทคโนโลยี NASHA คือ เทคโนโลยีไฮยาลูโรนิคที่ให้มีความคงตัว ยกกระชับได้อย่างชัดเจน ในส่วนของเทคโนโลยี XpresHAn มีความพิเศษตรงที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนไหวบนใบหน้า และการแสดงออกทางสีหน้า มีความยืดหยุ่นตามการเคลื่อนไหวของใบหน้า ทำให้เมื่อฉีดแล้วมีความเป็นธรรมชาติสูง ผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ของ Restylane อยู่ได้ 6-18 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีดด้วย

แบรนด์ฟิลเลอร์จากเกาหลี

EPTQ

EPTQ เป็นฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี ผลิตโดยบริษัท JETEMA Co.,Ltd. โดยเป็นสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูโรนิค (Hyaloronic Acid) หรือ HA ความเข้มข้นสูงมากถึง 24 mg/ml อีกทั้งยังเป็นฟิลเลอร์ที่มีโครงสร้างโมเลกุลแบบรวงผึ้ง (HIVE) ทำให้ตัวฟิลเลอร์มีความหนืด และมีความยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังมีราคาที่ถูกกว่าฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรป แต่มีคุณภาพไม่แพ้กัน เพราะได้รับการรับรองจากองค์การอาหาร และยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ยุโรป (EDQM) และไทย

จุดเด่นของ EPTQ คือ เป็นฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นสูง และมีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยี ZEEP Technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ทำให้ลดโอกาสในการแพ้ และผลข้างเคียงอื่นๆ อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยี 2CM Technologr (2 Crooslinking Method) ทำให้ฟิลเลอร์มีความละเอียดสูง ยืดหยุ่น และมีการเกาะตัวของโมเลกุลที่แน่นมากขึ้น นอกจากนี้ EPTQ ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ผสมยาชาเพื่อช่วยลดความเจ็บระหว่างการฉีด เหมาะสำหรับการฉีดปรับรูปหน้า เติมร่องลึก และลดริ้วรอย เช่น ใต้ตา ขมับ หน้าผาก คาง และร่องแก้ม สำหรับความคงทนของฟิลเลอร์ตัวนี้จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีด และการดูแลตนเองหลังฉีด

Neuramis

Neuramis เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท Medyceles ประเทศไทย เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีราคาที่ย่อมเยา จับต้องได้ มีเงินหลักพันก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ แบรนด์ Neuramis เป็นสารเติมเต็มจากกลุ่มไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA ถึงแม้จะมีราคาที่ไม่แพงแต่ Neuramis ก็มีความปลอดภัยไม่แพ้แบรนด์อื่นที่มีราคาสูงกว่า ได้รับการรับรองจากองค์การอาหาร และยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ยุโรป (EDQM) และไทยด้วยเช่นกัน

จุดเด่นของ Neuramis คือ เทคโนโลยี SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement) technology ซึ่งเป็นการเชื่อมโมเลกุลสองขั้นตอน และมีการทำให้บริสุทธิ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ ปัจจุบัน Neuramis ที่ผ่าน อย.ประเทศไทยมีเพียงรุ่นเดียว คือ รุ่น Deep Neuramis ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

Yvoire

Yvoire เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ของประเทศเกาหลีใต้ ผลิตภายใต้บริษัท แอลจี เคม (LG Chem) ผู้นำเข้าฟิลเลอร์ยี่ห้อ Yvoire เพียงรายเดียวในประเทศไทย เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับยุโรป สหรัฐอเมริกา (USFDA) และสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยาของไทย และถูกใช้กว่า 44 ประเทศทั่วโลก 

จุดเด่นของฟิลเลอร์ตัวนี้ คือ การใช้เป็นเทคโนโลยีที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากห้องวิจัยของบริษัท แอลจี เคม (LG Chem) HICE Cross-linking Technology เพื่อให้ได้อัตราส่วนเชื่อมโยงโมเลกุลที่สูงสุด ในขณะที่มีการเชื่อมโยงข้ามโมเลกุลเพียงเล็กน้อย สำหรับความคงทนของฟิลเลอร์ตัวนี้จะอยู่ได้ประมาณ 9-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ฉีด และการดูแลตนเองหลังฉีด

Flore

Flore เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์น้องใหม่ล่าสุดจาดประเทศเกาหลีใต้ นำเข้าโดยบริษัท บอน-ซอง (ฺBonSong Thailand) โดยเป็นฟิลเลอร์สารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูโรนิค (Hyaloronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ประเภท Monophasis ที่ให้ความละมุน เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นสารเนื้อเดียว แต่ความพิเศษของ Flore คือ มีการนำเอาคุณสมบัติของฟิลเลอร์ประเภท Biophasis ซึ่งเป็นสารเนื้อแน่น และเนื้ออ่อนมารวมกันด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ Flore มีคุณสมบัติที่ทั้งฉีดขึ้นรูปได้ดี แต่ก็มีความละมุน เรียบเนียน และเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐาน CE mark, IOS 13485 และผ่านการรับรองจากองค์การอาหาร และยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) และไทย
จุดเด่นของฟิลเลอร์น้องใหม่นี้ คือ มีโครงสร้างโมเลกุลแบบ 3D Matrix เพราะใช้เทคโนโลยี HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจากเกาหลีใต้ที่ช่วยให้ได้เป็นฟิลเลอร์ Biophasis ที่มีเป็นเนื้อเจล จากการผสมทั้ง Cross-linked และ Non-Cross-linked นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยี PP-Process (Particle Plastic Proces) ทำให้โมเลกุลฟิลเลอร์มีขนาดเท่ากัน ส่งผลให้ฉีดง่าย ปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย คงรูปดี ไม่ไหลไปที่อื่น และสลายตัวได้ช้า เหมาะกับการนำมาฉีดปรับรูปหน้า ช่วยให้หน้าเรียว ปรับรูปคาง เติมขมับตอบ ให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ และยาวนาน 9-12 เดือน

การเตรียมตัวตัวเองก่อน และหลังฉีดฟิลเลอร์

ก่อนการเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ และหลังฉีดฟิลเลอร์ก็ต้องมีการเตรียมตัว และดูแลตนเองให้ดี เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมชาติ ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความคงทนมากขึ้น พร้อมผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ โดยสามารถทำได้ดังนี้

การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์

• งดการทานยาแอสไพรินก่อน และวิตามินต่างๆ เป็นเวลา 1 อาทิตย์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์
• งดการทานยาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
• งดโกน หรือแว็กซ์ผิวบริเวณที่จะมาทำการฉีดฟิลเลอร์
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• งดออกกำลังกาย 24 ชั่วโมงก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
• แจ้งแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับยาที่ทานประจำ และโรคประจำตัว

การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์

• ทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวดหลังการฉีดฟิลเลอร์
• หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน เช่นห้องซาวน่า ออนเซ็น
• ควรนอนหงาย
• แต่งหน้าทาครีมหลังทำ 24 ชั่วโมงขึ้นไป
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• งดออกกำลังกายหนักๆ
• ไม่สัมผัสใบหน้าในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

ขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ขั้นตอนดังนี้

• ปรึกษาแพทย์ ทำการประเมินปัญหา เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณในการฉีดที่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด รวมถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไขในบริเวณนั้นๆ
• ทำความสะอาดผิวหน้า
• ก่อนทำการฉีด แพทย์จะต้องแสดงความโปร่งใส โดยการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า 
• แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ไข ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
• หลังฉีดเสร็จ แพทย์แนะนำวิธีการดูแลตัวเอง

ข้อดีของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์สามารถช่วยได้ทั้งปัญหาริ้วรอยและปรับใบหน้า และมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่ยังมีคำถามว่าฉีดฟิลเลอร์ดีไหม? มาดูกันว่าข้อดีเหล่านี้มีอะไรบ้าง 

• แก้ไขปัญหาผิว ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์สามารถแก้ไขปัญหาผิว ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าได้แบบง่ายดาย เห็นผลทันที ทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย 
• ไม่ต้องผ่าตัด ใครที่กังวลใจกับการศัลยกรรมที่ต้องมีการผ่าตัด เหมาะมากกับการฉีดฟิลเลอร์เพราะไม่ต้องผ่าตัด เจ็บตัวน้อย และได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ
• ฟื้นตัวเร็ว การฉีดฟิลเลอร์ ผู้ฉีดสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังฉีด หรือบางกรณี 2-3 วัน
• เติมได้ สลายได้ หากไม่ถูกใจในผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดเพิ่มได้เรื่อยๆ หรือทำการฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้
• ปลอดภัย การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกวางยาสลบ ตัวสารเติมเต็มก็มีความปลอดภัยได้รับการรับรองจากอย. และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง 

ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์สามารถเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ซึ่งจริงๆ แล้วมีปัจจัยที่หลากหลาย อาจเป็นเพราะฉีดกับหมอกระเป๋า หรืออาจจะแพ้สารบางอย่างในฟิลเลอร์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่พบได้มีดังนี้ 

• อาการแพ้ อาการแพ้ฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เกิดได้น้อยหากใช้ยาแท้ โดยอาการจะคงอยู่โดยประมาณไม่เกิน 1-2 วัน ถึงดีขึ้นเอง ซึ่งอาการแพ้ที่พบมี อาการบวมแดงหรือช้ำ 
• เกิดก้อนบนผิวหนัง การเกิดก้อนนูนบนผิวหนังมีสาเหตุได้ 2 กรณีคือ เจอฟิลเลอร์ปลอม หรือก้อนชั่วคราวจากปริมาณฟิลเลอร์ ถ้าพบเจอควรให้แพทย์ดูอาการ
• ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องมั่นใจว่าได้รับการฉีดฟิลเลอร์ของแท้และมีมาตรฐาน เพราะอาจทำให้เกิดก้อนแข็ง ซึ่งวิธีแก้คือการขูดเอาฟิลเลอร์นั้นออก 
• ฉีดโดยผู้ไม่ชำนาญการ การฉีดฟิลเลอร์ต้องได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์เท่านั้น อย่าหลงเชื่อ ฉีดโดยผู้ไม่ชำนาญการหรือหมอกระเป๋าเด็ดขาด

หน้าแก่ควรทำอะไรระหว่าง Filler, Botox, Thermage และ Ulthera

ในวงการความงามมีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาหน้าแก่อยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Filler, Botox, Thermage และ Ulthera จึงทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วต้องเลือกตัวไหนจึงจะเหมาะสม ซึ่งการจัดการกับปัญหาหน้าแก่ต้องทำการรักษาแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิว คนที่มีปัญหาสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ทางคลินิกก่อนได้ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งจุดเด่นของแต่ละอย่างก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้

ฟิลเลอร์ (Filler)

ฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในผิว ตัวที่นิยมกันก็คือการใช้กรดไฮยาลูโรนิคฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง สามารถช่วยลดปัญหาริ้วรอยต่างๆ ยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้ได้รูป เติมเต็มใบหน้าให้ดูอวบอิ่มมีมิติ และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้นได้

โบท็อกซ์ (Botox)

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดมีการทำงานลดลง เห็นได้จากคนที่ฉีดโบท็อกซ์ ใบหน้าจะมีความตึง ช่วยลดริ้วรอยหน้าผาก ตีนกา ลดปีกจมูก และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึง ลดความแก่ ส่วนใครที่กลัวว่าฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับแพทย์ และเทคนิคในการฉีด

Thermage

Thermage เป็นหัตถการช่วยยกกระชับผิว สำหรับคนที่อยากมีใบหน้ากระชับ ไม่หย่อนคล้อย ลดริ้วรอย ลดอายุ สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 1 ปี ทำงานโดยใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุที่มีความถี่สูง มีความแม่นยำ ลงลึกถึงชั้นผิว สวยได้แบบไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้น และยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

Ulthera

Ulthera มีความแตกต่างจาก Thermage ตรงที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งก็คือคลื่นอัลตราซาวนด์ชนิด Micro Focused ULtrasound with Visualization (MFU-V) การทำ Ulthera เหมาะในการช่วยยกผิว (lifting) ลดสัดส่วนที่หย่อนคล้อย ทำให้หน้าเด็ก เห็นผลหลังทำทันที ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ และอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ความแตกต่างจาก Thermage คือ Thermage เน้นความกระชับ ส่วน Ulthera เน้นความยก

วิธีแยกฟิลเลอร์ของแท้-ของปลอม

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากๆ ของการฉีดฟิลเลอร์ คือ การสังเกตและแยกให้ออกว่า ฟิลเลอร์แท้-ปลอมเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้ไม่มีการผิดพลาด หรือเสี่ยงหน้าพัง ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าไม่สามารถกลับมาเป็นแบบเดิมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มาดูกันเลยว่า ฟิลเลอร์ปลอม และฟิลเลอร์แท้ดูยังไง

• ราคาต้องไม่ถูกเกินไป หากฟิลเลอร์มีราคาที่ต่ำกว่าปกติ ให้คิดไว้ก่อนว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งฟิลเลอร์แท้นั้นควรมีราคาอยู่ในเกณฑ์ปกติและเหมาะสม
• มีฉลากภาษาไทย ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย ต้องมีฉลากเป็นภาษาไทยทั้งด้านนอกของกล่องและด้านใน 
• วันผลิตและหมดอายุชัดเจน ฟิลเลอร์ของแท้มีระบุวันผลิตและวันหมดอายุที่ชัดเจนเอาไว้ 
• เลขล็อตสินค้า ฟิลเลอร์แท้ต้องมีการระบุเลขล็อตสินค้าที่ชัดเจน และตรวจสอบได้กับบริษัทผู้ผลิตโดยตรง
• สังเกตยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐานจากอย. ไทย ควรทำความรู้จักกับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานจากอย. ไทย เพื่อไม่ให้ถูกหลอก โดยยี่ห้อที่นิยม เช่น Belotero, Juvederm, Restylane, EPTQ, Neuramis, Yvoire และ Flore

ฉีดฟิลเลอร์ที่ DSK Clinic ดีกว่ายังไง

ฉีดฟิลเลอร์ทั้งทีไม่ใช่ว่าฉีดที่ไหนก็ได้ แล้วฉีดฟิลเลอร์ที่ DSK Clinic ดีกว่ายังไง? ที่ DSK Clinic มีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์แบบ Custom เฉพาะบุคคล สร้างความสวยที่เป็นเอกลักษณ์ รักษาแบบตรงจุด ผสานเทคนิคการวิเคราะห์ปัญหา และการวางแผนการรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังใช้ฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน คนไข้จะได้รับทั้งความปลอดภัย และคุณภาพ ด้วยรางวัลการันตี 2021 Thailand Rising Star, 2022 The Infinite Award for Belotero และอื่นๆ อีกมากมาย

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ที่ DSK Clinic

สรุป

ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่มีการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ช่วยให้หน้ากระชับขึ้น แลดูอ่อนเยาว์ โดยฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ทุกจุดบริเวณใบหน้า แต่ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรทำความเข้าใจถึงความปลอดภัย ความเหมาะสม การเลือกฟิลเลอร์แท้ และเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่ดี หน้าไม่พัง ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง ให้ต้องไปแก้อีกครั้ง การเลือกคลินิกฟิลเลอร์ไม่ควรเลือกที่ราคา เพราะอาจเสี่ยงต่อการได้ยาปลอม และการฉีดฟิลเลอร์ยังเป็นการฉีดที่อาศัยเทคนิค และวิธีการฉีดที่เชี่ยวชาญ ยา 1 cc ไม่ใช่ว่าจะให้ผลเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันไปตามวิธีฉีดด้วยครับ