- Blog
- Custom Skin Quality
- June 29, 2023
สรุป 15 ข้อ สายหน้าเนียน รูขุมขนเล็ก สายหน้าฉ่ำ Picosecond Laser / Rejuran / Revive / Meso ทำอะไรดีที่สุด ?
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
สรุป 15 ข้อ สายหน้าเนียน รูขุมขนเล็ก สายหน้าฉ่ำ Picosecond Laser / Rejuran / Revive / Meso ทำอะไรดีที่สุด ?
1. ปัจจุบันการทำให้หน้าเนียน ขึ้น ละเอียดขึ้นรูขุมขนเล็กลง ทำได้สองวิธีหลักคือ การใช้เลเซอร์กลุ่มปรับความเรียบเนียนของผิวเช่น Picosecond Laser และ Potenza Infini ซึ่งเป็นกลุ่ม Fractional Radiofrequency
2. และการใช้กลุ่มฉีดหน้าโดยปัจจุบัน กลุ่มยาฉีดผิวหน้าที่ช่วยในเรื่องงานผิวเนียนและผิวละเอียดได้แก่ Belotero Revive และ Rejuran
3. โดยกลไกที่ทำให้ ผิวเรียบเนียน ขึ้นจะมาจากการ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ใหม่ และ การเสริมชั้น Hyaloronic acid ซึ่งถือเป็นสององค์ประกอบสำคัญของผิวชั้นหนังแท้
4. สิ่งที่เลเซอร์ทำได้ดีกว่าสายฉีดทั้งสองตัว คือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีการศึกษามาอย่างยาวนาน มีงานวิจัยจำนวนมาก โดยเลเซอร์ที่แนะนำสำคัญการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้แก่ Picosecond Laser และกลุ่ม Fractional RF โดยในกรณีที่ปัญหาที่เป็นเป็นปัญหาที่ไม่ลึกมาก เช่นรูขุมขนไม่ลึก หลุมสิวที่เป็นไม่มาก เส้นริ้วรอยตื้น และอาจมีปัญหาเม็ดสีร่วมด้วย เลเซอร์ที่เหมาะสมก็จะเป็น Picosecond Laser เพราะสามารถจัดการได้ทั้งปัญหาเม็ดสี และปัญหาความเรียบเนียนของผิวที่ไม่ลึกมากไปได้พร้อมกัน
5. แต่กรณีที่ปัญหานั้นเป็นปัญหาที่ลึกขึ้นเช่น รูขุมขนลึก หลุมสิวลึก ริ้วรอยลึก หมออาจจะแนะนำกลุ่ม Potenza และ Infini โดย Potenza จะได้เปรียบในการยกกระชับเมื่อเปรียบเทียบกับ Infini เพราะสามารถปล่อยพลังงานที่เป็น monopolar RF เหมือนเครื่องกลุ่ม Thermage จึงได้ผลยกกระชับที่ดีมาก และได้ผลด้านรูขุมขน หลุมสิว ความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมๆกัน
6. ในขณะที่ “เลเซอร์” กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี แต่อีกองค์ประกอบในชั้นหนังแท้คือ “Hyaluronic acid” เป็นองค์ประกอบที่ Laser อาจกระตุ้นได้ไม่ดีนัก
7. การเสริมชั้น Hyaluronic acid ในผิวจะทำให้ผิวเกิดความละเอียดเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น รูขุมขนเล็กลง และเนื่องจากความสามารถในการดูดซับน้ำ จะทำให้เกิด effect “ความโกลว์” ของผิว ทำให้ผิวเกิดการเล่นแสงและสะท้อนแสงได้ดีขึ้น
8. การเสริมชั้น Hyaluronic acid ความยากของมันคือการที่ “การทา” Hyaluronic acid ไม่สามารถซึมถึงชั้นหนังแท้ได้ และการ “ฉีด” Hyaluronic acid เช่นยากลุ่ม เมโส ต่างๆ จะคงอยู่ในผิวได้ไม่นานประมาณ 24-48 ชม เนื่องจากในผิวมี enzyme “Hyaluronidase” ย่อยสิ่งที่เราฉีดลงไป ทำให้ได้ผลไม่นาน
9. การเสริมชั้น Hyaluronic acid ใต้ผิวจึงเป็นการใช้การสร้างพันธะระหว่างโมเลกุลและฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิว โดยตัวยา Belotero Revive คือการใช้ cross-linked Hya ร่วมกับ glycerol ทำให้เกิด effect ของการอุ้มน้ำได้ผิวได้ยาวนานถึง 9 เดือนจากการฉีด 1 ครั้ง
10. ดังนั้นโดยสรุปจากข้อมูลปัจจุบันและความเห็นของหมอ การทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ต้องประกอบด้วย การใช้เลเซอร์เช่น Picosecond Laser, Potenza, Infini เป็นองค์ประกอบหลักในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และใช้ Belotero Revive เสริมองค์ประกอบให้ผิวอิ่มฟูฉ่ำวาวด้วย Cross-linked Hyaluronic acid และ Glycerol และในอนาคตอันใกล้นี้จะมีตัวยาใหม่อย่าง Sculptra ที่เข้ามาไทยเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2566 นี้ตัวยานี้จะเป็น Collagen Stimulator ที่เสริมการสร้างคอลลาเจนจากเลเซอร์ หรือเครื่องมือยกกระชับให้ดียิ่งขึ้น
11. แล้ว Rejuran หละช่วยอะไร ตัว Rejuran คือ Polynucleotide หรือสาย DNA ที่สกัดจากปลาแซลม่อน โดย หลักการของมันคือเข้าไปกระตุ้นทั้ง Collagen , Hyaluronic acid และกระตุ้นการซ่อมแซมของผิว ทำให้เซลล์ผิวแบ่งตัวได้ดีขึ้น จึงได้ effect ของความเรียบเนียน ความใส ความเนียนของผิว
12. หากเปรียบเทียบกันในเชิงคอลลาเจน หมอคิดว่า Potenza > Infini > Pico > Rejuran > Revive
13. ในเชิงความอิ่มฟูของผิวจาก Hyaluronic acid Belotero Revive > Rejuran
14. ในเชิงความยาวนานของผลลัพธ์ Laser(ถาวร) > Revive (ทุก 9 เดือน ) > Rejuran (ทุก 1 เดือน สามครั้ง หลังจากนั้นทุก 3-6 เดือน)
15. โดยปกติวิธีที่หมอแนะนำคือใช้เลเซอร์เป็นหลักในการกระตุ้นคอลลาเจน โดยเลือกเลเซอร์ให้เหมาะสมกับปัญหา และใช้ Belotero Revive เป็นหลักในการเสริมความเนียนความโกลว์ ความอิ่มจาก Hyaluronic acid ส่วน Rejuran จะใช้เป็นตัวเสริมเลเซอร์ให้การกระตุ้นคอลลาเจนดีขึ้น จากการเป็นสารตั้งต้นในการแบ่งเซลล์ และการกระตุ้นการฟื้นฟูของผิว และใช้กรณีต้องการความเนียน สว่างใส มากขึ้นหากมีงานสำคัญ