คุณหมอขอสรุป ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม กี่วันเข้าที่?

– ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถอยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ การดูแลตัวเองหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนที่สุดหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ – ผลลัพธ์หลังฉีดจะค่อยๆ เข้าที่ตามลำดับ โดยช่วงแรกอาจมีอาการบวม ช้ำ ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะผสานกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างสมบูรณ์ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ – การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ต้องการความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากบริเวณรอบดวงตามีเส้นเลือดและเส้นประสาทมาก จึงควรเลือกรับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น – การดูแลตัวเองหลังฉีดมีความสำคัญต่อความคงทนของผลลัพธ์ ควรหลีกเลี่ยงการนวด การออกกำลังกายหนัก และความร้อนในช่วงแรก รวมถึงดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว – การรักษาปัญหาใต้ตาให้ได้ผลดีที่สุด ต้องอาศัยการวิเคราะห์สาเหตุอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพราะปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หรือเบ้าตาลึก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยที่ DSK Clinic เราใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ ABI Technique (Analyze Before Injection) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ

ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ หรือเบ้าตาลึก เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลีย แก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่หลายคนก็ยังกังวลว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร และต้องดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีด วันนี้ DSK Clinic จะพาไปดูรายละเอียดทั้งหมดกัน

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม?

โดยทั่วไปฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยฟิลเลอร์ที่ใช้จะเป็นสาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองตามธรรมชาติ จึงค่อยๆ ถูกดูดซึมและสลายไปอย่างช้าๆ ทำให้ผลลัพธ์ค่อยๆ จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร กี่วันเข้าที่?

ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มเข้าที่และเห็นผลชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์หลังการฉีด แต่ในระหว่างนั้น คุณอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ในแต่ละช่วงเวลา มาดูกันว่าผลลัพธ์ในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันที

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จทันที คุณจะสังเกตเห็นว่าบริเวณใต้ตาเต่งตึงขึ้น แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย และอาจมีรอยช้ำจากการฉีด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ในช่วงนี้ผลลัพธ์อาจดูเกินจริงเล็กน้อยเนื่องจากอาการบวม แต่ไม่ต้องกังวล เพราะจะค่อยๆ ยุบลงและเข้าที่ในไม่กี่วัน

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้ว 3 วัน

หลังผ่านไป 3 วัน อาการบวมจะเริ่มยุบลง รอยช้ำอาจยังคงอยู่แต่จะจางลง ในช่วงนี้คุณอาจรู้สึกว่าฟิลเลอร์เริ่มนิ่มและเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ยังไม่เข้าที่ทั้งหมด บางคนอาจรู้สึกว่าบริเวณที่ฉีดมีอาการตึงหรือไม่สบายเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติในช่วงนี้

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้ว 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์

เมื่อครบ 1 สัปดาห์ อาการบวมจะยุบลงเกือบหมด รอยช้ำส่วนใหญ่จะจางหายไป ฟิลเลอร์จะเริ่มผสานกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังมากขึ้น ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนขึ้น แต่อาจยังไม่เข้าที่ทั้งหมด คุณจะสังเกตเห็นว่าบริเวณใต้ตาดูอิ่มฟูและตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้ว 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์

หลังผ่านไป 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะเข้าที่อย่างสมบูรณ์ อาการบวมและรอยช้ำหายไปหมดแล้ว ฟิลเลอร์จะผสานกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างสมบูรณ์ ทำให้บริเวณใต้ตาดูเต่งตึง อิ่มฟู และเป็นธรรมชาติ ร่องใต้ตาจะตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือเป็นหัตถการที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและต้องการความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากบริเวณรอบดวงตามีเส้นเลือดและเส้นประสาทมากมาย อีกทั้งผิวหนังบริเวณใต้ตายังบางและบอบบาง หากฉีดผิดตำแหน่งหรือใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ แต่หากเลือกรับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ความเสี่ยงจะลดลงอย่างมาก

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจมีผลข้างเคียงบางประการที่ควรระวัง แม้จะพบได้ไม่บ่อยแต่ก็ควรทราบไว้

• อาการบวม ช้ำ แดง หรือคัน ซึ่งเป็นอาการปกติและหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
• รู้สึกไม่สบายหรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
• เกิดก้อนหรือตุ่มนูนใต้ผิวหนัง
• ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
• การอุดตันของหลอดเลือด (พบได้น้อยมาก)
• การติดเชื้อบริเวณที่ฉีด (พบได้น้อยมาก)

เมื่อไหร่ควรกลับมาพบแพทย์

ควรกลับมาพบแพทย์ทันทีหากพบอาการต่อไปนี้

• มีอาการปวด บวม หรือแดงมากผิดปกติ
• มีไข้ หรือรู้สึกไม่สบายตัว
• เกิดก้อนแข็งที่ไม่หายไป
• ผิวหนังเปลี่ยนสี หรือมีสีคล้ำผิดปกติ
• มีอาการชา หรือรู้สึกผิดปกติบริเวณที่ฉีด
• การมองเห็นผิดปกติ หรือมีอาการทางสายตา

วิธีเลือกคลินิกฟิลเลอร์ใต้ตาแบบปลอดภัย

การเลือกคลินิกที่ปลอดภัยสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีปัจจัยที่ควรพิจารณาดังนี้

• เลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
• มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามโดยเฉพาะ
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และ US FDA
• มีประวัติและผลงานที่น่าเชื่อถือ
• มีการวิเคราะห์และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
• มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน

วิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความสำคัญมากต่อความคงทนของผลลัพธ์ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดในช่วง 2 สัปดาห์แรก งดการออกกำลังกายหนักๆ และหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ ในระยะยาว ควรใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม ทาครีมกันแดดทุกวัน หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และพักผ่อนให้เพียงพอ การดูแลสุขภาพโดยรวมก็มีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

ดูแลปัญหาผิวใต้ตา แก้ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา เบ้าตาลึก ที่ DSK Clinic

การแก้ไขปัญหาผิวใต้ตาให้ได้ผลดีที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือหัตถการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพราะปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หรือเบ้าตาลึก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด หรือแม้แต่โครงสร้างกระดูกใบหน้า การเลือกวิธีการรักษาจึงต้องพิจารณาให้ครอบคลุมทุกปัจจัยที่ DSK Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการรักษาปัญหาผิวใต้ตาโดยเฉพาะ พร้อมด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์แบบ ABI Technique (Analyze Before Injection) ที่มีการวิเคราะห์เฉพาะบุคคล ประเมินตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ และใช้ปริมาณผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป นอกจากนี้เรายังใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล USFDA และมีความปลอดภัยสูง หากคุณกำลังมองหาสถานที่ดูแลปัญหาผิวใต้ตา สามารถมาปรึกษาและรับการวิเคราะห์ปัญหาผิวเฉพาะบุคคลได้ที่ DSK Clinic เพราะเราเป็น Filler & Lifting Excellence Focus ที่เน้นการดูรักษา “เฉพาะบุคคล” วิเคราะห์แบบองค์รวม รวบรวมทุกเครื่องมือตามมาตรฐานระดับโลก ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม และเทคนิคที่เหมาะสม ที่เน้นผลลัพธ์ที่ดี และจำเพาะตามสาเหตุ พร้อมการวางแผนการรักษาระยะยาว เรายินดีให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ผลลัพธ์แลดูธรรมชาติ ไม่ปลอม เพราะเราอยากให้คุณดูดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ