- Blog
- Picosecond laser
- March 10, 2025
รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับวิตามินซี ช่วยอะไรบ้าง? กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด?

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
คุณหมอขอสรุป ประโยชน์ของวิตามินซี ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องผิวสวย
– วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ และร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริม เช่น ส้ม กีวี สตรอว์เบอร์รี บร็อกโคลี ฝรั่ง เป็นต้น – วิตามินซีช่วยชะลอริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับผิวให้กระจ่างใสด้วยการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส และปกป้องผิวจากแสงแดด – การกินวิตามินซีให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรกินหลังอาหารทันที แบ่งกิน 2-3 ครั้งต่อวัน หลีกเลี่ยงการกินพร้อมชาหรือกาแฟ และควรกินร่วมกับวิตามินอี – นอกจากประโยชน์ด้านผิวพรรณ วิตามินซียังช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ดูดซึมธาตุเหล็ก ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และบำรุงสายตา – สำหรับปัญหาฝ้า กระที่รุนแรง การรับประทานวิตามินซีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ DSK Clinic มีโปรแกรมรักษาด้วย Pico Laser นวัตกรรมที่ใช้พลังงานแสงแรงกว่าเลเซอร์ทั่วไปถึง 1,000 เท่า ที่ช่วยลดเลือนฝ้า กระ รอยดำ และปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวพรรณให้สวยใสอยู่ล่ะก็ คงจะคุ้นเคยกับ “วิตามินซี” กันเป็นอย่างดี เพราะนี่คือวิตามินยอดฮิตที่หลายคนเลือกใช้เพื่อบำรุงผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา ฝ้า กระ ที่ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่รู้หรือไม่ว่า วิตามินซีนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด! วันนี้ DSK Clinic จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิตามินชนิดนี้ให้มากขึ้น พร้อมแล้วไปดูกันเลย
“วิตามินซี” วิตามินสำคัญที่มีประโยชน์มากกว่าเรื่องผิว
วิตามินซีมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ascorbic Acid เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำได้ และร่างกายของเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยพบได้มากในผักและผลไม้หลายชนิด เช่น ส้ม มะนาว และผลไม้ตระกูลซิตรัส กีวี สตรอว์เบอร์รี พริกหวานสีแดงและสีเหลือง บร็อกโคลี มะละกอและฝรั่ง
วิตามินซีถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังอย่างมาก ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์ การเกิดฝ้า กระ และการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน
ผู้ใหญ่ทั่วไป ควรได้รับวิตามินซีวันละประมาณ 85-100 มิลลิกรัม โดยแบ่งตามเพศและช่วงวัย ดังนี้
- เด็กอายุ 1-8 ปี ควรได้รับ 25-40 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กและวัยรุ่นอายุ 9-18 ปี ควรได้รับ 60-100 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ชายอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 100 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 85 มิลลิกรัมต่อวัน
- หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับ 95 มิลลิกรัมต่อวัน
การได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส แผลหายเร็วขึ้น ฝ้า กระลดเลือน และร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น แต่หากได้รับไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้ภูมิต้านทานต่ำ ติดเชื้อง่าย แผลหายช้า มีเลือดออกตามไรฟัน ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส และอ่อนเพลีย รวมถึงรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย
วิตามินซีช่วยอะไรต่อผิวพรรณบ้าง?

วิตามินซีเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผิว โดยเฉพาะการช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส มาดูกันดีกว่าว่ามันช่วยอะไรได้บ้าง
1. ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง โดยทำหน้าที่เป็นโคแฟกเตอร์ (co-factor) ในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว และปกป้องคอลลาเจนที่มีอยู่จากการถูกทำลาย
2. ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส
วิตามินซีช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำจางลง สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น และลดการสร้างเม็ดสีผิดปกติ โดยเฉพาะในกรณีของฝ้าและกระที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินมากเกินไป วิตามินซีจะช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีใหม่ พร้อมทั้งค่อย ๆ ช่วยลดเลือนรอยฝ้าและกระที่มีอยู่เดิม ทำให้ผิวเริ่มกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย
ด้วยมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีจึงช่วยลดความเสียหายของผิวจาก UV ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระจากแสงแดด ลดการเกิดผิวอักเสบหลังโดนแดด และเสริมประสิทธิภาพของครีมกันแดดได้
4. ช่วยสมานแผลบนผิวให้หายเร็วขึ้น
วิตามินซีมีส่วนสำคัญในกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมผิว ลดการเกิดแผลอักเสบ ช่วยให้แผลหายไว และลดโอกาสการเกิดแผลเป็น
นอกจากเรื่องผิวแล้ว วิตามินซียังมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง
วิตามินซีไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด
- ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- ต้านการอักเสบในร่างกาย
- บำรุงสายตา
- ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
กินวิตามินซียังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด
การรับประทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรปฏิบัติดังนี้
- รับประทานวิตามินซีหลังอาหารทันที เพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- แบ่งรับประทานวันละ 2-3 ครั้ง เนื่องจากร่างกายดูดซึมได้ครั้งละไม่เกิน 200-250 มิลลิกรัม
- ไม่ควรรับประทานพร้อมชา กาแฟ เพราะคาเฟอีน เพราะอาจจะทำให้รบกวนการดูดซึม
- ควรรับประทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินอี เพื่อเสริมฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ
- หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนหรือถูกแสงแดด เพราะวิตามินซีสลายตัวง่าย
จบปัญหาฝ้า กระ เผยผิวใส ด้วยโปรแกรมรักษาฝ้าที่ DSK Clinic

แม้วิตามินซีจะมีประโยชน์มากมาย แต่สำหรับปัญหา ฝ้า กระ ที่รุนแรง การรับประทานวิตามินซีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะไม่สามารถเข้าไปยับยั้งเม็ดสีเฉพาะจุดได้ DSK Clinic ขอแนะนำให้รักษาด้วย Pico Laser แทนจะเห็นผลมากกว่า เพราะเป็นเลเซอร์ผิวหนังที่สามารถปล่อยพลังงานความเร็วระดับ 1 ในล้านล้านวินาที เข้าตรงไปที่เม็ดสีของฝ้า กระ เพื่อทำให้เม็ดสีแตกละเอียดได้โดยตรง หลังจากนั้นร่างกายจะกำจัดออกอย่างรวดเร็ว จึงทำให้รักษาฝ้า กระ ให้จางลงได้อย่างรวดเร็ว สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้ามาปรึกษาที่ DSK Clinic ได้เลย เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่จะช่วยออกแบบแผนการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้เหมาะกับคุณที่สุด รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!