เมื่อเราอายุมากขึ้น เซลล์ผิวเริ่มยืดออก ไขมันชั้นลึกสลายหายไป ไขมันชั้นตื้นเพิ่มมากขึ้น  เส้นเอ็นบนใบหน้าที่สำคัญเริ่มหย่อนลง ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ เกิดเป็นร่องใต้ตา ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก ถ้าปล่อยไว้เรื่อย ๆ อาจสายเกินกว่าที่จะเเก้ไข กลายเป็นปัญหาถาวรหน้าเเก่ตลอดไป 

สมัยก่อน วิธีรักษาปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยมีเพียงวิธีเดียวคือ “การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า” หรือที่เรียกว่า”Facelift” ซึ่งเป็นการผ่าตัดเพื่อดึงชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังและชั้นไขมัน (SMAS) ทำให้หน้ายกกระชับขึ้น โดยการผ่าตัดจำเป็นจะต้องกรีดผิวหนังให้เป็นเเผลยาวในรูปเเบบแตกต่างกันไปตามเทคนิคของหมอแต่ละท่าน

แต่ปัจจุบัน เทรนของการไม่ผ่าตัด (Non-invasive Procedure) มาแรงขึ้น

ทั้ง Filler, Botox, HIFU, Thermage และ Ulthera โดย Filler ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธียกกระชับที่ดีมาก ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟัง

ฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าได้จริงรึเปล่า?

จริง หลายคนอาจรู้จัก Filler ในเชิงของการเติมร่องแก้ม ใต้ตา คาง ขมับกันใช่ไหมล่ะ? แต่แท้จริงแล้ว Filler ยังมีคุณสมบัติในการยกหน้าแบบทันทีอีกด้วย

กลไกการยกกระชับของ Filler

• ยกเส้นเอ็นบนใบหน้า
• เติมปริมาตรที่หายไป
• กระตุ้นคอลลาเจนใหม่

1. ยกเส้นเอ็นบนใบหน้า

ฟิลเลอร์จะเข้าไปพยุงเส้นเอ็น (Ligament) บนใบหน้าของเราที่เสื่อมไปตามกาลเวลา โดยเส้นเอ็นพวกนี้จะยึดอยู่ก้บกระดูกและชั้นผิวหนัง คอยเป็นตัวพยุงผิวหน้าเราให้คงตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป เส้นเอ็นพวกนี้จะหย่อนตัวลง การเติมฟิลเลอร์ลงไปก็เหมือนการไปค้ำไม่ให้เส้นเอ็นห้อยเหี่ยวนั่นเอง ซึ่งจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเหมาะสม

เส้นเอ็นที่สำคัญบนใบหน้ามีด้วยกัน 4 บริเวณ ได้แก่

1. Orbital ligaments ยึดบริเวณรอบดวงตา
2. Zygomatic ligaments ยึดบริเวณเเก้มและโหนกเเก้ม
3. Buccal-maxillary ligaments ยึดบริเวณร่องเเก้ม
4. Mandibular ligament ยึดบริเวณร่องน้ำหมาก

ตอนที่เรายังเด็ก เส้นเอ็นเหล่านี้ก็จะเหมือนกับต้นไม้ที่เเข็งเเรงตั้งตรง ทำหน้าที่เกาะยึดให้ผิวของเราไม่หย่อนลง เเต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราเเก่ตัวลงในทุกชั้น ทำให้ต้นไม้ที่เคยตั้งตรง กลายเป็นไม่ตั้งตรงเหมือนเดิม ทำให้เกิดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยลงตามเเรงโน้มถ่วง เกิดเป็นร่องพับมากมาย หลัก ๆ ที่เห็นชัดคือบริเวณร่องเเก้มเเละร่องน้ำตานั่นเอง

เมื่อเราเติมฟิลเลอร์เข้าไปตามตำเเหน่งของเส้นเอ็น ฟิลเลอร์เหล่านี้ก็จะช่วยค้ำยันเส้นเอ็นให้เเข็งเเรงขึ้น เหมือนช่วยให้เสาบ้านที่โอนเอนกลับมาตั้งตรงอีกครั้ง ทำให้ใบหน้าของเราจากที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับเต่งตึงนั่นเอง

2. เติมปริมาตรที่หายไป (Volume Lift)e

นอกจากการค้ำจุนเส้นเอ็นซึ่งถือเป็นกลไกหลักแล้ว ฟิลเลอร์ที่เราฉีดลงไปยังช่วยเติมเต็มปริมาตรที่หายไป เมื่อปริมาตรส่วนที่หายไป ถูกเติมเต็ม ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะถูกยกขึ้น 

3. กระตุ้นคอลลาเจนใหม่

สุดท้าย หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic acid สามารุกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่โดยตัวผิวหนังเองได้ ดังนั้นผิวบริเวณที่มีการฉีดฟิลเลอร์ ก็จะเด็กลง เต่งตึงขึ้น ซึ่งถือเป็นกลไกที่สามที่ทำให้ผิวหน้ายกขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าอ้วนขึ้นจริงหรือไม่?

ไม่จริง หากฉีดถูกตำแหน่งในปริมาณที่เหมาะสม ใบหน้าจะยิ่งดูยกกระชับขึ้น ดูเรียวเล็กขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลง โดยไม่ทำให้หน้าอ้วนขึ้นแต่อย่างใด ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมอยู่ที่ 3-4 CC หรือมากสุดไม่เกิน 10 CC ฟิลเลอร์ในปริมาณนี้จะช่วยเปลี่ยนมุมมองใบหน้า เติมจุดที่หายไป และยกส่วนที่เสื่อมขึ้นเช่น จากเดิมถ้าเราเป็นคนที่หน้าดูกว้างดูบาน หากเราใช้ฟิลเลอร์ปรับให้มุมแก้มแคบลง หน้าก็จะดูเล็กลง และมีมิติที่สวยขึ้น หรือหากเราใช้ฟิลเลอร์ยกเส้นเอ็นชั้นลึกขึ้น ผิวที่หย่อนก็จะถูกดึงขึ้นไปด้วย ทำให้ใบหน้าดูกระชับ และดูเล็กลงนั่นเอง

ยกหน้าให้สุด ไปกับฟิลเลอร์ VS HIFU VS ร้อยไหม VS Thermage VS Ulthera

1. ผิวหนัง (Skin) ขาดความยืดหยุ่น มีการยืดตัวออกเกิดการหย่อนคล้อยไม่กระชับ
2. ไขมันชั้นตื้น (Superficial Fat) มากขึ้น ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยตามเเรงโน้มถ่วง
3. ไขมันชั้นลึก (Deep Fat) และกระดูก (Bone) สลายตัวและมีปริมาตรลดลง ส่งผลให้โครงสร้างใบหน้าขาดตัวช่วยค้ำ เปรียบเสมือนพื้นบ้านที่ทรุดตัวลง เกิดเป็นร่องลึก
4. เส้นเอ็นบนใบหน้า (Ligament) หย่อนตัวลงเเละยืดออก เปรียบเสมือนเสาบ้านที่ไม่เเข็งเเรง

วิวัฒนาการต่าง ๆ ในปัจจุบันจะไปช่วยแก้ไขปัญหาของชั้นผิวแต่ละชั้นด้วยกระบวนการที่แตกต่างกัน ดังนั้นคนไข้แต่ละคนก็เหมาะกับวิธียกกระชับใบหน้าที่ไม่เหมือนกัน เช่น 

• ถ้าผิวหนังหย่อนคล้อย แต่กระดูกหรือไขมันไม่หายไป เหมาะกับเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างคอลลาเจนใหม่ เช่น UltraHIFU, Ulthera และ Thermage 
• ถ้าผิวหย่อนคล้อยเนื่องจากโครงสร้างค้ำจุนหายไป กระดูกกร่อน ไขมันหาย เส้นเอ็นหย่อน แต่ผิวหนังไม่ได้หย่อนมาก การใช้ Filler เพื่อทดแทนโครงสร้างค้ำจุนที่หายไป ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม
• แต่คนไข้หลาย ๆ คน ก็ผิวหนังหย่อนคล้อยเนื่องจากผิวหนังและโครงสร้างค้ำจุนภายในเสื่อมไป เคสเหล่านี้จึงอาจต้องรักษาโดยใช้เครื่องกลุ่ม Energy-based Device เช่น UltraHIFU เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และใช้ FIller เพื่อทดแทนโครงสร้างค้ำจุนภายในร่วมด้วย

ดังนั้นหัวใจสำคัญของการเลือกวิธียกกระชับผิวหน้า คือการหาสาเหตุให้เจอ และเข้าไปจัดการกับมันอย่างตรงจุด

ยกกระชับ ปรับรูปหน้า

เทคนิคใหม่มาเเรง Truelift

“Truelift” เป็นเทคนิคที่มีชื่อเสียงโด่งดัง  ถูกคิดค้นขึ้นโดย Dr.Pete Huang คุณหมอศัลยกรรมตกเเต่งชาวไต้หวัน 

“Truelift” เป็นเทคนิคที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เพราะใช้ฟิลเลอร์เนื้อเเข็ง ฉีดตามตำเเหน่งของเส้นเอ็นที่สำคัญในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อค้ำยันเส้นเอ็นให้กลับมาเเข็งเเรงตั้งตรงอีกครั้ง ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ดีมาก

ปกติจะฉีด 5 จุดต่อใบหน้า 1 ข้าง ตามตำเเหน่งเส้นเอ็นสำคัญที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นธรรมชาติ สวยปัง ไม่ล้น ไม่ปลอม และใช้ฟิลเลอร์จำนวนน้อย  ทำได้แม้คนไข้จะมีปริมาตรที่หายไปหรือไม่ก็ตาม

ดังนั้น “Truelift” จึงเป็นเทคนิคที่ปลอดภัย คุ้มค่า เเละเป็นธรรมชาติ สามารถเเก้ปัญหาใบหน้าได้อย่างตรงจุด เทคนิคนี้จึงเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เทคนิคที่ทีมแพทย์ DSK Clinic เลือกใช้เพื่อยกกระชับใบหน้านั้นเอง

อะไรคือผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า?

1. ยกหางตาส่วนปลาย พร้อมเติมเต็มบริเวณขมับที่ตอบ
2. ยกหน้าทางด้านข้าง พร้อมยกกระชับเเก้มที่หย่อนคล้อย
3. เเก้ไขร่องลึกต่างๆบนใบหน้า เช่น ร่องน้ำตา ร่องเเก้ม ร่องน้ำหมาก
4. หน้าดูมีมิติ ไม่อ้วนกลม เพราะมีจุดนำสายตาที่ดูละมุน