- Blog
- February 10, 2025
เปรียบเทียบเลเซอร์รอยสิว ราคาเท่าไหร่ ข้อดี-ข้อเสีย ทำกี่ครั้งเห็นผล

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
คุณหมอขอสรุป เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่? เลือกทำแบบไหนดี?
– ในปัจจุบันเลเซอร์รักษารอยสิวมีให้เลือกทำหลายแบบ เช่น Picosecond Laser, Red Touch Pro Laser, Dual Yellow Lase, V-Beam, Q-Switched หรือ Fractional CO2 Laser ซึ่งแต่ละแบบจะมีเทคโนโลยี และความสามารถในการกำจัดชนิดของรอยสิวที่แตกต่างกันไป – เลเซอร์รอยสิว ราคาจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์ เทคโนโลยีที่ใช้ บริเวณพื้นที่ที่ต้องการรักษา ความรุนแรงของสิว จำนวนครั้งที่ต้องทำ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้รักษา ถ้าอยากทราบราคาที่แน่นอน แนะนำให้เข้าไปให้คุณหมอช่วยประเมินก็จะดีที่สุด – จำนวนครั้งในการรักษาขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์และความรุนแรงของรอยสิว โดยทั่วไปต้องทำ 3-6 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลชัดเจน – ที่ DSK Clinic เรารักษาด้วย Picosecond Laser และ RedtouchPro Laser เทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เหมาะกบัทั้งรอยสิว และสามารกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนไปได้พร้อมกัน ผสานกับเทคนิค แตกต่างจากคลินิกอื่นด้วยเทคนิค Customization ที่จะตั้งค่าพลังงานและวิเคราะห์เฉพาะบุคคล ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด |
เลเซอร์ตัวไหนดีที่สุด? แต่ละเครื่องแตกต่างกันอย่างไร? แต่ละเครื่องมีราคาทำต่อครั้งเท่าไหร่? วันนี้หมอจะมาไขข้อสงสัยคำถามเหล่านี้ และให้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหารอยสิวกันครับ รอยดำและรอยแดงจากสิว เป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับใครหลายคน ถ้าให้ใช้สกินแคร์อย่างเดียวก็อาจเห็นผลช้าเกินไป หรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ การรักษาด้วยเลเซอร์รอยสิวจึงเป็นทางเลือกที่คนนิยมทำกัน อย่างไรก็ตาม เลเซอร์รอยสิวในท้องตลาดมีให้เลือกทำหลายแบบ อาจทำให้หลายคนสงสัยว่า แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร? ใช้รักษารอยสิวประเภทไหนได้บ้าง? เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่? DSK Clinic จะพาไปทำความรู้จักกับเลเซอร์รอยสิวแต่ละประเภท พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย และอัปเดตราคาเลเซอร์รอยสิวล่าสุดแบบครบจบในที่เดียวเองครับ
เลเซอร์รอยสิวคืออะไร
เลเซอร์รอยสิว คือ การใช้แสงเลเซอร์ความเข้มข้นสูงยิงลงไปที่ผิวหนังเพื่อ ลดการสร้างเม็ดสี ทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ หรือเส้นเลือดที่ผิดปกติ รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในหลุมสิว ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว รอยดำ และรอยแดง โดยแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการรักษาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของรอยสิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
เลเซอร์รอยสิวมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีเลเซอร์หลากหลายรูปแบบที่ใช้ในการรักษารอยสิว แต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. Picosecond Laser
Picosecond Laser หรือ Pico Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้พลังงานแสงความเร็วระดับพิโกวินาที (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ในการรักษา ด้วยความเร็วที่สูงมากนี้ทำให้เลเซอร์สามารถแตกตัวสีเม็ดสีใต้ผิวหนังให้กลายเป็นอนุภาคเล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับการรักษารอยดำ รอยแดง (Pigment) และปรับสภาพผิวโดยรวม (Texture)
ข้อดีของ Picosecond Laser
- เป็นเลเซอร์ที่ลดรอยดำ ที่ดีทีสุดในปัจจุบัน และสามารถจัดการรอยแดง และหลุมสิวได้ด้วย
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
- ใช้เวลารักษาสั้นเพียง 15-30 นาที
- ปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย
- เหมาะกับการรักษาในทุกสีผิว
- มีระยะพักฟื้น หรือ Downtime น้อย
- ประสิทธิภาพเชิงเม็ดสีและความไม่เรียบเนียนของผิวดีกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น
ข้อเสียของ Picosecond Laser
- ราคาเลเซอร์รอยสิวและหลุมสิวค่อนข้างสูง แต่เทียบกับผลลัพธ์ต่อครั้งแล้วคุ้มค่า เนื่องจากเห็นผลมากกว่า
- อาจมีอาการแดง ประมาณ 5-7 วัน กรณีทำ Fractional Mode (กรณี Toning Mode ชมพูเล้กน้อยประมาณ 1-2 ชั่วโมง)
- อาศัยการวินิจฉัย และตั้งค่าตามปัญหาที่ละเอียดจึงจะได้ผล
ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก และชัดเจนขึ้นหลังทำ 3-5 ครั้ง โดยแนะนำให้ทำห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยสิว การตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล และการประเมินผลการรักษาจากแพทย์ผู้ดูแล
ราคาการทำเลเซอร์รอยสิว Picosecond Laser
เลเซอร์รอยสิว ราคาสำหรับ Picosecond Laser อยู่ที่ประมาณ 5,000-15,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ต้องการรักษา และลักษณะของปัญหา
2. Red Touch Pro Laser
Red Touch Pro Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้แสงสีแดงความยาวคลื่น 675 นาโนเมตร ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่ค้นพบช่วงคลื่นที่สามารถจับคอลลาเจนได้โดยตรง โดยไม่ต้องอาศัยการจับผ่านน้ำในผิวเหมือนเลเซอร์รุ่นก่อน ทำให้สามารถใช้พลังงานสูงได้โดยไม่เกิดความร้อนที่ผิว แต่เกิดความเฉพาะเจาะจงที่คอลลาเจน เส้นเลือด และเม็ดสีโดยตรง ส่วนประสิทธิภาพในด้านความเรียบเนียนของผิวจะใกล้เคียงกับ Fractional Laser แต่มีจุดเด่นที่ไม่เจ็บ ไม่ต้องแปะยาชา ไม่มีสะเก็ด และไม่ต้องพักฟื้น
ข้อดีของ Red Touch Pro Laser
- ไม่เจ็บ ไม่ต้องแปะยาชา ไม่มีสะเก็ด
- ผลลัพธ์การรักษาสูงมากทั้งในเชิงหน้าเนียนใส รอยดำ รูขุมขน หลุมสิว และความเรียนเนียน แน่นเฟิร์ม ของผิว
- รักษาได้หลายปัญหาในครั้งเดียว
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว
- ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Fractional Laser แต่ไม่มี Downtime
- เหมาะสำหรับการดูแลผิวระยะยาว หรือผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น
ข้อเสียของ Red Touch Pro Laser
- ราคาสูงเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่และประสิทธิภาพสูงมาก แต่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ชัดเจน และแก้ไขได้หลายปัญหาในครั้งเดียว
ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
จะเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นตั้งแต่ครั้งแรก โดยผิวจะดูเรียบเนียน กระชับ และกระจ่างใสขึ้น แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแนะนำให้ทำ 3-6 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4 สัปดาห์
ราคาการทำเลเซอร์รอยสิว
เลเซอร์รอยสิว ราคาสำหรับ Red Touch Pro Laser อยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และปัญหาผิวที่ต้องการรักษา
3. Dual Yellow Laser
Dual Yellow Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทำงานด้วยแสงสองความยาวคลื่นพร้อมกัน ได้แก่ แสงสีเหลืองที่มีความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร และแสงสีเขียวที่มีความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร โดยแต่ละความยาวคลื่นมีประสิทธิภาพในการรักษาที่แตกต่างกัน
การทำงานร่วมกันของแสงทั้งสองความยาวคลื่นนี้ทำให้ Dual Yellow Laser สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลายในครั้งเดียว ทั้งรอยแดงจากสิว สิวอักเสบ รอยดำ และยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวม โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง ทำให้ปลอดภัยและฟื้นตัวเร็ว
ข้อดีของ Dual Yellow Laser
- รักษาได้หลายปัญหาในครั้งเดียว
- ไม่เจ็บ ไม่ต้องแปะยาชา ไม่มีแผล
- ปลอดภัยสูง ไม่ทำลายผิวชั้นนอก
- เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบาง
- สามารถทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่นได้
ข้อเสียของ Dual Yellow Laser
- ประสิทธิภาพต่ำ ต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
- ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- ไม่สามารถจัดการหลุมสิวได้
- อาจมีอาการแดงเล็กน้อย 1-2 วัน
- ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนในครั้งเดียว
ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การรักษาด้วย Dual Yellow Laser จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำประมาณ 4-6 ครั้ง โดยแนะนำให้ทำห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์ สำหรับรอยแดงที่เพิ่งเกิดอาจเห็นผลเร็วกว่ารอยที่เป็นมานาน
ราคาการทำเลเซอร์รอยสิว Dual Yellow Laser
เลเซอร์รอยสิว ราคาสำหรับ Dual Yellow Laser อยู่ที่ประมาณ 3,000-8,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และความรุนแรงของรอยแดง

4. V-Beam
V-Beam เป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed Dye Laser ที่ใช้สีย้อม (Dye) เป็นตัวกลางในการผลิตลำแสงเลเซอร์ ออกแบบมาเพื่อรักษาปัญหาหลอดเลือดโดยเฉพาะ โดยจะปล่อยพลังงานแสงเป็นช่วงสั้นๆ พร้อมระบบทำความเย็นที่ผิวหนังในเวลาเดียวกัน (Dynamic Cooling Device) ทำให้การรักษาสบายและปลอดภัยมากขึ้น เหมาะสำหรับรักษารอยแดงจากสิว รอยแดงจากแผลเป็น และปัญหาหลอดเลือดฝอยบริเวณใบหน้า
ข้อดีของ V-Beam
- แม่นยำสูงในการรักษารอยแดง
- ไม่ทำลายผิวชั้นนอก
- ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลชัดเจนในการลดรอยแดง
- เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย
- สามารถรักษาได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
ข้อเสียของ V-Beam
- รักษาได้เฉพาะรอยแดงเท่านั้น
- ราคาค่อนข้างสูงต่อครั้ง
- อาจมีรอยช้ำชั่วคราวหลังทำ
- ต้องทำหลายครั้งต่อเนื่อง
- ไม่ช่วยเรื่องรอยดำ หลุมสิว และความเรียบเนียนของผิว
- ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำ
ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 3-4 ครั้ง โดยควรทำห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ สำหรับรอยแดงที่เป็นมานานอาจต้องทำมากกว่า 6 ครั้งขึ้นไป
ราคาการทำเลเซอร์รอยสิว
เลเซอร์รอยสิว ราคาสำหรับ V-Beam อยู่ที่ประมาณ 5,000-12,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ต้องการรักษา
5. Q-Switched
Q-Switched เป็นเลเซอร์รุ่นแรกๆ ที่ใช้ในการรักษารอยดำจากสิวและเม็ดสีใต้ผิวหนัง ถือเป็นเทคโนโลยีรุ่นก่อนที่จะพัฒนามาเป็น Picosecond Laser ในปัจจุบัน โดยทำงานด้วยการปล่อยพลังงานแสงเป็นจังหวะสั้นๆ ในระดับนาโนวินาที (หนึ่งในพันล้านวินาที) ซึ่งช้ากว่า Picosecond Laser ที่ทำงานในระดับพิโกวินาที (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ถึง 1,000 เท่า
Q-Switched ใช้หลักการ Selective Photothermolysis ที่เลือกทำลายเฉพาะเม็ดสีที่ผิดปกติ แต่ด้วยความที่ใช้เวลาในการปล่อยพลังงานนานกว่า Picosecond Laser จึงอาจทำให้เกิดความร้อนสะสมที่ผิวมากกว่า และการแตกตัวของเม็ดสีอาจไม่ละเอียดเท่า ทำให้ต้องใช้จำนวนครั้งในการรักษามากกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ข้อดีของ Q-Switched
- ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเลเซอร์อื่น
- ใช้เวลารักษาสั้นเพียง 15-20 นาที
- ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปทำงานได้ทันที
- สามารถทำร่วมกับทรีตเมนต์อื่นได้
ข้อเสียของ Q-Switched
- ประสิทธิภาพต่ำเมื่อเทียบกับ Picosecond laser และ Redtouch Pro
- ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผลชัดเจน
- ไม่ได้ผลเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน และรอยแดง
- ไม่เหมาะกับการรักษาหลุมสิว
- ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผลชัดเจน
- ประสิทธิภาพต่ำกว่า Picosecond
- โอกาสเกิดรอยดำหลังการทำเลเซอร์ (PIH) สูงกว่า Picosecond Laser
ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
ส่วนใหญ่จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 4-6 ครั้ง แนะนำให้ทำห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความเข้มของรอยดำและการตอบสนองของผิว
ราคาการทำเลเซอร์รอยสิว Q-Switched
เลเซอร์รอยสิว ราคาสำหรับ Q-Switched อยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาทต่อครั้ง
6. Fractional CO2 Laser
Fractional CO2 Laser เป็นเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำงานในรูปแบบ Fractional หรือแบบแบ่งส่วน โดยจะสร้างรูเล็กๆ จำนวนมากบนผิวหนัง (Micro Thermal Zones) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างเข้มข้น ความพิเศษของเลเซอร์นี้คือสามารถเจาะลึกลงไปในชั้นผิวหนังได้มากกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวที่ลึก รอยแผลเป็นที่เรื้อรัง และปัญหาผิวที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเข้มข้น
ข้อดีของ Fractional CO2 Laser
- มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิว
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี
- เห็นผลชัดเจนในการปรับสภาพผิว
- รักษาได้หลายปัญหาในครั้งเดียว
- จำนวนครั้งในการรักษาน้อยกว่า
ข้อเสียของ Fractional CO2 Laser
- มีระยะพักฟื้นนาน 7-14 วัน
- ไม่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส รอยดำ รอยแดง เน้นเรื่องหลุมสิว และความไม่เรียบเนียนเป็นหลัก
- มีอาการแสบร้อนระหว่างทำ และใช้เวลาในการพักหน้านาน
- ต้องดูแลผิวอย่างเคร่งครัดหลังทำ
- ไม่เหมาะกับผิวที่บอบบางแพ้ง่าย
- โอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์ สูงในคนเอเชีย
ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังทำ 2-3 ครั้ง โดยแนะนำให้ทำห่างกันประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่
ราคาการทำเลเซอร์รอยสิว Fractional CO2 Laser
เลเซอร์รอยสิว ราคาสำหรับ Fractional CO2 Laser อยู่ที่ประมาณ 3,000-20,000 บาทต่อครั้ง
สรุป เลือกเลเซอร์รอยสิวตัวไหน เห็นผลดีที่สุด
โดยทั่วไปตามหลักการเกิดรอยสิว รอยสิวโดยทั่วไปจะมีองค์ประกอบทั้งรอยแดง และรอยดำในรอยเดียว เนื่องจากรอยสิวเกิดจากการอักเสบ ซึ่งสามารถกระตุ้นได้ทั้งเซลล์สร้างเม็ดสี และหลอดเลือด การเลือกเลเซอร์จึงควรเลือกที่สามารถจัดการได้ทั้งรอยแดงและรอยดำ จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษารอยสิวดี ซึ่งเลเซอร์ดังกล่าวคือ Picosecond Laser และ RedTouch Pro เลเซอร์ทั้งสอง มีประสิทธิภาพใกล้เคียงขึ้น อาจมีความเด่นแตกต่างเล็กน้อย
กรณีมีรอยแดงจำนวนมาก RedTouch Pro จะเด่นกว่า กรณีรอยดำจากฝังลึก Pico อาจจะเด่นกว่า กรณีหลุมสิวสามารถรักษาได้ทั้งคู่แต่ Picosecond laser อาจเหมาะกับหลุมที่มีขอบคมมากกว่า ในขณะที่ RedouchPro อาจให้ความเนียนใส และความกระชับ ที่มากกว่า โดยไม่ต้องมีสะเก็ด หรือ Downtime ซึ่งที่ DSK มีทั้งสองเครื่องและแพทย์จะวิเคราะห์เลือกตามปัญหา
ทั้งนี้ที่นอกจากเครื่องมือแล้ว การจะทำเลเซอร์ให้ได้ผลอาศัยการตั้งค่าพลังงานและเทคนิคที่ถูกต้อง ซึ่งควรปรับตามปัญหา มีความเข้าใจที่ถูกต้องในเลเซอร์ ที่ DSK Clinic เราคัดเลือกทีมแพทย์ที่มีความเข้าใจ ความรู้เชิงลึก และมีเทคนิคที่ดีในการใช้เลเซอร์ และการวินิจฉัยปัญหาผิว และตั้งค่าเฉพาะบุคคลอย่างถูกต้อง อีกทั้งมีการพัฒนาเทคนิคจากทั้งในและต่างประเทศ ตลอดเวลาเพื่อให้การรักษาดียิ่งขึ้น
เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่ อัปเดตราคาล่าสุดที่นี่!
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับเลเซอร์แต่ละประเภทกันไปแล้ว หลายคนคงกำลังสงสัยว่า เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเลเซอร์ เทคโนโลยีที่ใช้ และความซับซ้อนในการรักษา นอกจากนี้ ราคาเลเซอร์รอยสิวยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น
- ขนาดพื้นที่ที่ต้องการรักษา
- ประเภทและความรุนแรงของรอยสิว
- จำนวนครั้งที่ต้องทำ
- ประสบการณ์ของแพทย์ผู้รักษา
- มาตรฐานของคลินิกและเครื่องมือ
เพื่อให้เห็นภาพรวมของราคาที่ชัดเจน เราได้รวบรวมราคาเลเซอร์รอยสิวล่าสุดของแต่ละประเภทมาให้เปรียบเทียบกันดังนี้
เลเซอร์รอยสิว | ราคาต่อครั้ง (บาท) | จำนวนครั้งที่แนะนำ |
Picosecond Laser | 5,000-15,000 | 3-6 ครั้ง |
Red Touch Pro Laser | 15,000-20,000 | 3-6 ครั้ง |
Dual Yellow Laser | 3,000-8,000 | 3-6 ครั้ง |
V-Beam | 5,000-12,000 | 3-6 ครั้ง |
Q-Switched | 2,000-5,000 | 3-6 ครั้ง |
Fractional CO2 | 3,000-20,000 | 3-6 ครั้ง |
จบทุกปัญหารอยสิว เผยผิวใส ปรึกษาทีมแพทย์ ที่ DSK Clinic
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องรอยสิว รอยดำ รอยแดง หลุมสิว แล้วมองหาการรักษาที่ครอบคลุม Pico Laser และ Redtouch Pro เป็นทางเลือกที่ยังคงดีที่สุดในปัจจุบัน หากสนใจเข้ารับการรักษาด้วย Pico Laser สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ DSK Clinic ได้เลย
เราเป็น Acne Scar Excellence Focus รักษาด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะ ที่ DSK เรา “ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล” เราใช้เครื่อง Discovery Pico และ RedtouchPro ที่ได้รับมาตรฐาน US FDA เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะเป็นเทคโนโลยีที่มีการปล่อยพลังงานดีที่สุด ค่าพลังงานสูงที่สุดในปัจจุบัน
พร้อมเทคนิค “Custom Pico และ 2 Mode RedtouchPro” เทคนิคเฉพาะของ DSK ที่วางแผนการรักษาก่อนยิง พร้อมการวิเคราะห์และตั้งค่าพลังงานละเอียดเฉพาะบุคคล ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ ซึ่งผ่านการอบรมและอัปเดตเทคนิคด้านเลเซอร์มาโดยตรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัย



