- March 13, 2024
อัพเดทวิธีรักษาสิวที่ถูกต้อง ให้สิวหายลดการเกิดสิวซ้ำโดยแพทย์ผิวหนัง

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
คุณหมอขอสรุป วิธีรักษาสิวที่ถูกต้องตามหลักการ ให้สิวหายไม่เป็นซ้ำ
– การรักษาสิวระยะเริ่มต้น หากมีสิวอักเสบไม่มาก สามารถเริ่มลองใช้ Skincare หรือยาทาเองได้ แต่หากเริ่มมีสิวมาก หรือการรักษาเองไม่ตอบสนอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาระยะยาว – โดยการเข้ารับการรักษากับแพทย์ผิวหนัง แพทย์ประเมินสภาพผิว วินิจฉัย และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะสิวมีหลายสาเหตุ หลายความรุนแรง และบางครั้งตุ่มแดงบนหน้าอาจไม่ใช่สิว ดังนั้นการวิเคราะห์ผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญ – การรักษาสิวที่มีความรุนแรงสูง ที ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เนื่องจากเสี่ยง ต่อการรักษาไม่หาย อาจเกิดสิวอักเสบ หรือสิวอุดตันมากกว่าเดิม เพราะสิวที่รุนแรงมากมักอาศัยการจ่ายยารับประทานโดยแพทย์ – หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ หรือสัมผัสสิวบ่อยๆ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้มากขึ้น และเพิ่มโอกาสการลุกลาม และการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว – โดยทั่วไปการรักษาสิวประกอบด้วยการใช้ยาทา ยารับประทาน ตามระดับความรุนแรงของสิว และประเภทของสิว โดยแพทย์จะปรับยาตามลักษณะสิวและการตอบสนองของคนแต่ละคนที่ต่างกัน – หัตถการในคลินิกที่ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นได้แก่การฉายแสงสีแดงเพื่อลดอักเสบและฆ่าเชื้อสิว การเคลียร์สิวอักเสบและสิวอุดตัน การกดสิว และฉีดสิวอัดเสบ โดยทั้งหมดควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ |
สิวขึ้นหน้าทำไงดี? มีวิธีรักษาสิวแบบไหนบ้าง? “สิว” เป็นโรคผิวหนังที่พบได้มากที่สุดไม่ว่าจะวัยไหน การที่มีสิวบนใบหน้าส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก อีกทั้งวิธีกำจัดสิวยังมีหลายรูปแบบจนทำให้หลายๆ คนสับสนว่าควรเลือกวิธีรักษาสิวแบบไหนถึงจะดีที่สุด แน่นอนว่าการรักษาสิวที่ดีที่สุดควรพบแพทย์ผิวหนัง หากไม่รักษาสิวและทิ้งไว้ต่อไปเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดสิวเรื้อรังมากขึ้น
DSK Clinic เราเป็นหนึ่งในคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิวโดยตรง จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่อง “สิว” ตั้งแต่สาเหตุของการเกิดสิว จนถึงวิธีป้องกันสิวระยะยาว เพื่อให้ทุกคนกลับมามีใบหน้าที่กระจ่างใส ไร้สิว เรียกความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง

สาเหตุของการเกิดสิว
กรรมพันธุ์
กรรมพันธุ์ เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น เกิดจากการที่มี‘ยีนส์’ ที่มีการกำหนดสภาพผิวหนัง ทำให้ผู้ที่มีผิวมัน มีโอกาสเกิดสิวง่ายมากกว่าคนอื่นๆ โดยเป็นปัจจัยพื้นฐานกว่า 80% ของคนไข้ที่เป็นสิว โดยกรรมพันธุ์จะกำหนดให้
- ผิวมีการอุดตันที่ง่ายกว่าคนทั่วไปจากการแบ่งเซลลืที่ผิดปกติ
- การผลิตน้ำมันและองค์ประกอบของน้ำมันบนผิวที่เปลี่ยนไป
- เชื้อสิวที่มากกว่าคนทั่วไป และมีสายพันธุ์ของเชื้อที่รุนแรง
- รวมถึงสารอักเสบต่างๆที่มากขึ้นในคนไข้กลุ่มนี้
ฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลง
เมื่อปริมาณฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) เพิ่มสูงขึ้น จะเกิดการกระตุ้นการทำงานของระบบต่อมไขมัน ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากขึ้น ส่งผลให้เกิดเชื้อแบคทีเรียสะสมจนก่อให้เกิดเป็นสิวนั่นเอง
รูขุมขนอุดตันจากการใช้เครื่องสำอาง
เครื่องสำอาง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ การเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางออกไม่หมด จะทำให้เกิดการอุดตันที่บริเวณรูขุมขน และก่อให้เกิดสิว
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการรับประทานอาหารประเภทของหวาน หรือของมันมากเกินไป การมีความเครียดสูง พักผ่อนน้อยก็มีโอกาสเป็นสิวได้ง่ายขึ้น เพราะระบบการทำงานของร่างกายทำงานผิดปกติ มีเวลาพักฟื้นน้อย จึงทำให้สภาพผิวหนังอ่อนแอมากกว่าปกติ
สภาพอากาศ และมลภาวะ
ในปัจจุบันปัญหาฝุ่นควัน มลภาวะ อากาศที่ร้อนจัดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เหงื่อและคราบฝุ่นอุดตันรูขุมขนได้ง่าย

ระดับความรุนแรงของสิว
ระดับความรุนแรงของสิวจะเป็นตัวกำหนดวิธีการรักษาสิว โดยระดับความรุนแรงที่น้อยอาจเริ่มที่ยาทาอย่างเดียว แต่โดยทั่วไประดับความรุนแรงที่มากขึ้นมักต้องมีการจ่ายยารับประทานร่วมด้วยทั้งกลุ่มยาปฏิชีวนะ ยากลุ่มกรดวิตามินเอ รวมถึงยากลุ่มฮอร์โมน ขึ้นกับประเภทและความรุนแรงของสิว
- ระดับ 0 เป็นระดับที่มีผิวกระจ่างใส ไม่มีการอักเสบของสิว
- ระดับ 1 เป็นระดับที่ผิวกระจ่างใสรองลงมา มีสิวที่ไม่ใช่สิวอักเสบเพียงเล็กน้อย
- ระดับ 2 เป็นระดับที่มีสิวที่รุนแรงน้อย มีสิวชนิดที่ไม่ใช่สิวอักเสบประปราย แต่ไม่มีก้อนสิวอักเสบ
- ระดับ 3 เป็นระดับที่มีสิวที่รุนแรงปานกลาง มีสิวชนิดที่ไม่ใช่สิวอักเสบมากกว่าระดับ 2 และมีก้อนสิวอักเสบน้อยกว่า 1 ก้อน
- ระดับ 4 เป็นระดับที่มีสิวที่รุนแรงมาก มีทั้งสิวที่ไม่ใช่สิวอักเสบ และสิวอักเสบอยู่

ประเภทของวิธีรักษาสิว
1. การรักษาสิวโดยแพทย์ผิวหนัง
การรักษาสิวโดยแพทย์ผิวหนัง แนะนำมาพบแพทย์ผิวหนังตั้งแต่เป็นสิวระยะเริ่มต้น โดยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิว พร้อมกับตรวจดูประเภทของสิว และระดับความรุนแรงจากนั้นจะทำการรักษาตามลำดับขั้นตอน โดยแพทย์จะประเมินวิธีรักษาสิว ทั้งการใช้ยาทา ยารับประทาน รวมถึงเครื่องมือหัตถการในคลินิกได้หลายรูปแบบเพื่อให้สิวสามารถหายได้ไวขึ้น และประสบความสำเร็จได้มากขึ้น โดยเครื่องมือที่เสริมการรักษาสิวให้ดียิ่งขึ้นในคลินิกสำหรับแพทย์ผิวหนังมี ดังนี้
การใช้เลเซอร์รักษาสิว
วิธีรักษาสิวด้วยการใช้เลเซอร์ เป็นการรักษาสิวแบบทางเลือกเสริมจากการใช้ยา ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิว มีผลข้างเคียงน้อยมาก ซึ่งการทำเลเซอร์มักทำในกรณีที่คนไข้มีสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบค่อนข้างมาก โดยแพทย์จะทำการยิงเลเซอร์ฉายแสงลงไปที่สิวโดยตรงด้วยเครื่อง Healite II ซึ่งเป็นเครื่องฉายแสง Low Level Laser Therapy หรือ LLLT ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA เป็นเลเซอร์ที่ได้ผล และมีงานวิจัยรองรับ
ทรีทเม้นต์ผลัดเซลล์ผิว
วิธีรักษาสิวด้วยการทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว หรือ Salicylic acid Peeling 10-30% เป็นการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดซาลิไซลิกที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอุดตัน และลดการอักเสบของสิว ซึ่งการทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการใช้กรดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าระดับของเครื่องสำอางทั่วไป
การฉีดสิวด้วย Corticosteroids
วิธีรักษาสิวด้วยการฉีดสาร Corticosteroids หรือ สารสเตียรอยด์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เมื่อฉีดเข้าไปที่สิวโดยตรง สิวจะยุบลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ใช่การรักษาสิวที่ต้นเหตุแต่เหมาะสำหรับการใช้รักษาสิวอักเสบขนาดใหญ่ และควรรักษาร่วมกับการใช้ยาทา หรือทานยาควบคู่ไปเพื่อลดโอกาสเกิดสิวซ้ำ
การกดสิว
การกดสิวเป็นวิธีกำจัดสิวที่เป็นสิวหัวเปิดเท่านั้น ซึ่งการกดสิว คือ การบีบเอานำไขมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออกมา ซึ่งวิธีการนี้ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุ และควรรักษาควบคู่กับวิธีอื่นๆ เพื่อให้สิวหายขาด เช่น กดสิวร่วมกับการใช้ยาทา หรือการรับประทานยา เป็นต้น
2. การใช้ยาชนิดทา
วิธีรักษาสิวด้วยการใช้ยาชนิดทา เป็นวิธีการรักษาสิวด้วยตนเองอันดับต้นๆ ที่คนนิยมใช้กัน เนื่องจากตัวยาหลายชนิดสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ทั้งนี้หากต้องการรักษาสิวให้ถูกวิธีควรวางแผนการใช้ยาอย่างถูกต้อง โดยยารักษาสิวที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีดังนี้
ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ หรือเรตินอยด์
ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ หรือเรตินอยด์ เป็นยาทาสิวที่ช่วยในการลดสิวอุดตัน เช่น ยาทากรด วิตามินเอ เช่น Tretinoin(Retacnyl), Adapalene(Differin)โดยยาในกลุ่มนี้มีข้อเสียคือ ยาชนิดนี้จะทำให้ผิวมีความไวต่อแสง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย แต่มีฤทธิ์ลดสิวอุดตัน และต้องกันสิวใหม่ได้ดี
ยาปฏิชีวนะชนิดทา
ยาปฏิชีวนะชนิดทา เป็นยาทาสิวที่มีฤทธิ์ในการช่วยบรรเทาการอักเสบ เช่น คลินดามัยซิน (Clindamycin) อิริโทรมัยซิน (Erythromycin) ควรใช้ทาในกรณีที่มีสิวอักเสบ และควรใช้คู่กับตัวยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) เพื่อลดความเสี่ยงในการดื้อยา
Benzoyl peroxide
ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) หรือแบรนด์ที่มีความนิยมได้แก่Benzac เป็นยาที่ช่วยลดสิวอักเสบ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C. acnes สาเหตุหลักของการเกิดสิว ช่วยให้สิวยุบตัวลง
Salicylic acid
กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) เป็นยาที่มีส่วนผสมของกรดจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยลดความมัน ลดการอุดตัน ลดการอักเสบ ของสิว โดยเป็นหนึ่งในส่วนผสมไม่กี่ตัวที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใส่ใน skin care ที่ไม่ใช่ยาได้
Azelaic acid
กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) เป็นกรดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการลดการอุดตันของสิว นิยมใช้ในการรักษาสิวที่มีระดับความรุนแรงน้อยจนถึงปานกลาง สามารถรักษาสิว ลดการอุดตัน ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และยังสามารถลดรอยดำได้ดี
Tea tree oil
ไม่ใช่ยาแต่เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่นำมาใช้ในการรักษาสิวอักเสบ หรือใช้รักษาอาการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง สามารถรักษาได้ทั้งสิวอักเสบ ผิวหนังอักเสบ รังแค ฯลฯ
เบื้องต้นหากเป็นสิวอักเสบยาตัวแรกที่ควรมีคือ Benzoyl Peroxide และอาจใช้คู่กับยาปฏิชีวนะประเภททา และยาเสริมอื่นๆเช่นยากลุ่มกรด Azelaic acid และ Salicylic acidหากสิวอักเสบเริ่มดีขึ้นสามารถเสริมกลุ่มยากรดวิตามินเอเพื่อลดสิวอุดตันและป้องกันสิวในระยะยาวได้
3. การใช้ยาทานรักษาสิว
การใช้ยาทานยารักษาสิวไม่ควรใช้เป็นวิธีรักษาสิวด้วยตนเองควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย และวางแผนการใช้ยาให้ถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดยทั่วไปยารับประทานควรใช้ควบคู่ยาทารักษาสิวเสมอ และเริ่มใช้เมื่อสิวเริ่มเป็นตั้งแต่ความรุนแรวงระดับปานกลางขึ้นไป หรือไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาทารักษาสิว
Antibiotic and antibacterial agents
การรักษาสิวด้วยการทานยาปฏิชีวนะ ได้แก่ Tetracycline, Doxycycline และ Macrolide ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดโอกาสการเกิดสิว แต่หากรับประทานไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดเชื้อดื้อยาได้ จึงมีความจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด
Isotretinoin
การรักษาสิวด้วยการใช้ยาไอโสเตรติโนอินเป็นยาที่อยู่ในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ นิยมใช้กับผู้ที่มีปัญหาสิวระดับปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรงมาก และยังใช้กับผู้ที่มีอาการดื้อยาจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ลดเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ควรใช้อย่างระมัดระวัง ภายใต้การดูแลของแพทย์
การรักษาสิวด้วย Hormonal Therapy
เป็นการลดการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) โดยฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดความมันส่วนเกินได้มากขึ้น การปรับลดระดับฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้ โดยยาหลักจะเป็น
ยาคุมกำเนิดชนิดทาน (Oral Contraceptives)บางประเภท มีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณของฮอร์โมนแอนโดรเจน
โดยยาจะลดฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งช่วยลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้าและลดการเกิดสิว ทั้งนี้ยาคุมกำเนิดไม่ได้เหมาะสมสิวทุกประเภท ไม่ควรใช้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิว ควรผ่านการวินิจฉัยและสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น

วิธีป้องกันและลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำจากรรมพันธุ์
สิวเป็นภาวะที่แม้รักษาให้หาย แต่ควรยังคงต้องมีวิธีการป้องกันเพื่อเกิดสิวใหม่ เพราะคนไข้ที่เป็นสิวง่ายมักมีปัจจัยภายในที่ก่อให้เกิดสิวง่ายตามกรรมพันธุ์ มีการอุดตันที่ง่ายกว่าคนทั่วไป การใช้สกินแคร์ หรือยารักษาสิวบางชนิด รวมถึงการดูแลตัวเองระยะยาวจึงเป็นเครื่อง สำคัญ
- โดยใสนคนไข้ที่เป็นสิวได้มากโดยปกติแพทย์จะแนะนำให้มีการใช้ระยะยาวของยากลุ่มกรดวิตามินเอ หรือสกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของ Salicylic acid เพื่อช่วยเรื่องลดการอุดตัน นอกจากนั้นอาจมองหา Skin Care ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide หรือ ECGC ในความเข้มข้นที่เหมาะสมเป็นต้น
- ทั้งนี้ในกลุ่มคนไข้ที่มีสิวรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการปรับยาสิวหลังสิวหายไม่ควรหยุดยาสิวทันทีทั้งยาทาและยารับประทาน
DSK CLINIC มั่นใจ ยาแท้ ปลอดภัย 100%
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
วิธีดูแลผิวเป็นสิว


ดูแลความสะอาด และล้างหน้าอย่างถูกวิธี
วิธีการล้างหน้าที่ถูกต้องควรล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็น โดยหากมีสภาพผิวแห้งสามารถล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิในตอนเช้า แล้วค่อยล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าในตอนเย็นได้
ดูแลสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อลดความเครียด และลดโอกาสการเกิดสิว
งดการใช้มือบีบ แกะ หรือสัมผัสใบหน้า
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หรือใช้มือบีบ แกะสิวด้วยตนเอง เพราะหากบีบสิวออกไม่หมด จะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบของสิวได้มากยิ่งขึ้น สิวหายช้าลง อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดรอยสิว หรือหลุมสิวตามมาอีกด้วย
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และเหมาะสมกับผิว
ควรการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว เพราะหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของสารเคมี หรือมีความเป็นกรดสูง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังตามมา การทาครีมกันแดดก็เป็นการเพิ่มเกราะป้องกันให้กับผิวหนัง ลดโอกาสของการเกิดสิวได้มากขึ้น แนะนำให้เลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และเหมาะกับสภาพผิว เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงยูวี
สรุป
สิวเป็นภาวะที่เหมือนจะง่าย แต่ก็มีหลายคนที่ผ่านการรักษามาแล้วเคยผิดหวัง เพราะการรักษาสิวนอกจากอาศัยความเชี่ยวชาญ ยังอาศัยความละเอียด การเอาใจใส่ ในการวิเคราะห์ผิว และการปรับยา รวมถึงหัตถการเสริมอื่นๆที่ช่วยเรื่องสิว เพราะเป็นการรักษาระยะยาว ทั้งในช่วงที่ยังมีสิว และในช่วงที่ต้องดูแลผิวไม่ให้เกิดสิวใหม่ความสำคัญของการรักษาสิวคือควรรักษาสิวให้หายได้เร็ว และลดโอกาสการเกิดใหม่ของสิวมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยง การเกิดรอยสิวและหลุมสิวที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้น
ที่ DSK Clinic เราเป็นคลินิกที่มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะที่พร้อมช่วยวางแผนการรักษาสิวอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นตอ โดยมีหลักการคือการรักษาสิวให้หายเร็วที่สุด ไม่เลี้ยงไข้ และยังต้อง แนะนำการดูแลเพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยสิว หลุมสิว โดยมีทั้งการวิเคราะห์ต้นตอของสิว วางแผนทั้งการใช้ยาทา ยารับประทาน การดูแลตัวเองระยะยาว ผสานกับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อทำให้การรักษาสิวประสบความสำเร็จมากขึ้น ใช้เวลาสั้นลง และทิ้งรอยแผลเป็นน้อยที่สุด เป้าหมายของ DSK เราอยากให้คนไข้รักษาสิวกับเราเป็นที่สุดท้าย ไม่ต้องวนเวียนกับการรักษาสิวแล้วไม่หายจนสูญเสียความมั่นใจ เพื่อให้ทุกคนกลับมามีความมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสิวซ้ำอีกต่อไป


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. การทำเลเซอร์ช่วยลดสิวได้จริงหรือไม่
เลเซอร์ไม่ใช่การรักษาหลักในสิว ควรใช้ยาทา ยารับประทานตามการวินิจฉัยของแพทยืเป็นการรักษาหลัก โดยเลเซอร์ที่สามารถช่วยเรื่องสิวได้และมีงานวิจัยรองรับได้แก่การใช้เลเซอร์ความเข้มข้นต่ำหรือ Low Level Light Therapy ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อสิว โดยปราศจากการดื้อยา ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็น และสามารถทำให้การรักษาสิวสั้นลงและประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยที่ DSK เลือกใช้ HealiteII ซึ่งเป็นเครื่องกลุ่ม LLLT ที่มีมาตรฐานสูงและผ่านการรับรองจาก USFDA
2. การนอนดึกทำให้เกิดสิวจริงหรือไม่
การนอนดึกหรือการเปลี่ยนเวลานอน มีผลต่อการปรับเปลี่ยนของฮอร์โมนและอาจส่งผลต่อการเกิดสิวได้
3. อาหารชนิดไหนที่ควรเลี่ยงเมื่อมีสิว
ปัจจุบันอาหารที่มีงานวิจัยว่าอาจมีผลต่อสิวในบางคนได้แก่ อาหารน้ำตาลสูงหรืออาหารกลุ่มที่มี High Glycemic index กลุ่มอาหารที่ผลิตจากนมหรือ Dairy Product เป็นต้น ทั้งนี้ปัจจุบันงานวิจัยสนับสนุนยังมีไม่มาก หากลองลดอาหารกลุ่มนี้ลงแล้วสิวไม่เปลี่ยนแปลง ก็สามารถกลับมากินได้ตามปกติ
โปรแกรมรักษาสิว ที่ DSK Clinic
รักษาสิวอย่างเป็นระบบ รักษาที่ต้นเหตุ ไม่เลี้ยงไข้ ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ โดยทีมแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง
- ได้รับการวิเคราะห์ วินิจฉัย สาเหตุของสิว ก่อนวางแผนการรักษา
- แพทย์ออกแบบโปรแกรมการรักษาโดยเฉพาะ ตามปัญหาและสาเหตุสิวของแต่ละเคส
- วางแผนการรักษาสิวระยะยาว รวมไปถึงการรักษารอยสิว และหลุมสิวด้วย
- เครื่องเลเซอร์ อุปกรณ์ ยา มาตรฐานโลก ประสิทธิภาพสูง และมีความปลอดภัย







