DSK Clinic I The Customized Aesthetic Clinic
outro-ulthera (2)
banner-article-sidebar

ผิวหน้าแห้ง เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง

DSK Editorial team
บทความโดย
DSK Editorial team
ธันวาคม 4, 2025

ปัญหาผิวหน้าแห้ง ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกไม่สบายผิว แต่คือสัญญาณเตือนว่าเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ของเรากำลังอ่อนแอ เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นและเกราะป้องกันผิวเสียหาย จะนำไปสู่ปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน ระคายเคือง ผิวลอกเป็นขุย แต่งหน้าไม่ติดทน และที่สำคัญคือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย หลาย ๆ คนที่มีภาวะผิวหน้าแห้ง มักเข้าใจว่าการทามอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ในความเป็นจริง เมื่อหน้าแห้งถึงระดับที่รุนแรงหรือเรื้อรัง การบำรุงจากภายนอกอาจไม่เพียงพอ เพราะเกราะผิวหนังไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ การกู้คืนผิวขาดน้ำด้วยโปรแกรม Belotero Revive และ โปรแกรม Rejuran เป็นแนวฟื้นฟู ผิวหน้าแห้ง แต่เลือกตัวไหนดี

หน้าแห้ง คืออะไร

หน้าแห้ง (Dry Face) หรือในทางการแพทย์คือภาวะ Xerosis Cutis คือ สภาวะที่ผิวหนังขาดน้ำมันที่จำเป็นในการเคลือบผิวและป้องกันการสูญเสียน้ำ เมื่อผิวขาดน้ำมันเหล่านี้เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นจะเกิดรอยรั่ว การมีผิวหน้าแห้งเรื้อรัง จึงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่การเติมน้ำ แต่คือการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว

หน้าแห้งเกิดจากอะไร

หน้าแห้งเกิดจากอะไร

การที่เกิดปัญหาผิวหน้าแห้งนั้น มาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยภายในที่เราควบคุมไม่ได้ และปัจจัยภายนอกที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้

  • พันธุกรรม (Genetics) บางคนมีพันธุกรรมที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมัน (Sebum) ได้น้อยกว่าคนทั่วไปมาตั้งแต่เกิด ทำให้มีแนวโน้มที่จะมีหน้าแห้งมากกว่าคนอื่น
  • อายุที่มากขึ้น (Aging) เมื่อเราอายุมากขึ้น การทำงานของต่อมไขมันจะลดลงตามธรรมชาติ การผลิตคอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิกตามธรรมชาติของผิวก็ลดลงด้วย ส่งผลให้ผิวบางลง กักเก็บน้ำได้น้อยลง ทำให้เกิดปัญหาหน้าแห้ง และริ้วรอยตามมา
  • ฮอร์โมน (Hormones) การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง จะส่งผลโดยตรงต่อการผลิตน้ำมัน ทำให้ผู้หญิงในวัยนี้จำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาผิวหน้าแห้งอย่างรุนแรง
  • สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม (Environment) อากาศแห้งและเย็น หรือแม้แต่การอยู่ในห้องแอร์หรือห้องที่มีเครื่องทำความร้อนเป็นเวลานาน จะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวของอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวแห้งได้
  • การล้างหน้าที่ผิดวิธี (Incorrect Cleansing) การอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อนเป็นประจำ จะชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติที่จำเป็นต่อผิวออกไปจนหมด รวมถึงการใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีฤทธิ์เป็นด่างสูง (High pH) หรือมีสารชะล้างที่รุนแรง (เช่น SLS SLES) ก็เป็นตัวการทำลายเกราะผิวหนังได้
  • การใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะสม (Wrong Skincare) การขัดผิวหรือสครับผิวบ่อยเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง หรือการใช้ยารักษาสิวบางชนิด (เช่น Retinoids, Benzoyl Peroxide) โดยไม่บำรุงความชุ่มชื้นควบคู่ไปอย่างเพียงพอ สามารถทำให้เกิดภาวะ ผิวหน้าแห้ง ได้
  • การดูแลสุขภาพโดยรวม (Healthcare)การดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือการขาดสารอาหารบางชนิด ก็ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและทำให้ ผิวหน้าแห้งแย่ลงได้

ผิวหน้าแห้งวิธีแก้ไม่ให้เป็นขุยมีอะไรบ้าง

เมื่อเกราะป้องกันผิวเสียหายและการบำรุงผิว (Skincare) ทั่วไปไม่สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าแห้งได้อีกต่อไป การทำหัตถการทางการแพทย์ จะช่วยส่งสารอาหารที่จำเป็นเข้าไปซ่อมและเติมผิวในชั้นที่ลึกกว่าโดยตรง 

1. โปรแกรม Belotero Revive

โปรแกรม Belotero Revive คือ Skin Booster ที่ออกแบบมาเพื่อการกู้ผิวโดยเฉพาะ มีหลักการทำงานแบบ Dual-Action คือ เติมน้ำและล็อกน้ำในเวลาเดียวกัน เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นหนังแท้ จะเข้าไปเติมเต็มความชุ่มชื้นที่ขาดหายไปทันที แก้ปัญหาผิวหน้าแห้งอย่างตรงจุด ผลลัพธ์คือผิวที่ดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาวแบบ Glass Skin ลดความหยาบกร้าน และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าแห้ง ขาดน้ำอย่างรุนแรง ผิวที่ดูอิดโรย ไม่สดใส มีปัญหารูขุมขนกว้างและริ้วรอยเล็ก ๆ จากความแห้งกร้าน โปรแกรม Belotero Revive จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวที่ปลายเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. โปรแกรม Rejuran

โปรแกรม Rejuran (รีจูรัน) เป็นหัตถการที่เน้นการซ่อมแซมผิวในระดับเซลล์ ไม่ใช่การเติมความชุ่มชื้นโดยตรง แต่เป็นการสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม ซึ่งทำมาจากสารสกัด Polynucleotide (PN) หรือที่เรียกกันว่า DNA แซลมอน ซึ่งเป็นสารชีวโมเลกุลที่มีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์สูง จึงมีความปลอดภัยและไม่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ การทำโปรแกรม Rejuran จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblasts สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ เพื่อสร้างเกราะป้องกันผิวขึ้นมาใหม่จากภายใน ทำให้ผิวหนาขึ้นและแข็งแรงขึ้น

3. โปรแกรม เมโสหน้าใส (Mesotherapy)

โปรแกรมเมโสหน้าใส เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวชั้น ซึ่งมักจะประกอบด้วยวิตามินต่าง ๆ แร่ธาตุ กรดอะมิโน และกรดไฮยาลูรอนิก (HA) ในปริมาณเล็กน้อย เพื่อช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและให้ความชุ่มชื้น เปรียบเสมือนการทาเซรั่มวิตามินเข้มข้นลงไปในชั้นผิวโดยตรง จึงช่วยบรรเทาอาการผิวหน้าแห้ง เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า

4. โปรแกรม Sculptra

โปรแกรม Sculptra ไม่ใช่หัตถการสำหรับแก้ผิวหน้าแห้งโดยตรง แต่เป็น “Collagen Biostimulator” หรือสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ที่ฉีดเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนของตัวเองขึ้นมาใหม่ มีหลักการทำงานโดยโปรแกรม Sculptra จะเข้าไปสร้างโครงสร้างผิวใหม่ทั้งหมด เมื่อผิวหนาขึ้น แน่นขึ้น และมีคอลลาเจนที่สมบูรณ์ ผิวก็จะแข็งแรงขึ้นตามธรรมชาติ ความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นก็จะดีขึ้น ส่งผลให้ภาวะผิวหน้าแห้งดีขึ้นในระยะยาว

5. โปรแกรม Profhilo

โปรแกรม Profhilo คือเทคโนโลยี Bioremodeling ที่ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูง ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งขาดน้ำและลอกเป็นขุยได้อย่างตรงจุด โดยตัวยาจะเข้าไปเติมความชุ่มชื้นล้ำลึกใต้ผิว ทำหน้าที่เหมือนมอยส์เจอไรเซอร์ใต้ผิว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ผลลัพธ์คือผิวจะอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ลดการระคายเคืองและปัญหาการแห้งลอกเป็นขุย ผิวจึงกลับมาแข็งแรง ดูสุขภาพดีเปล่งปลั่งจากภายใน

วิธีป้องกันปัญหาหน้าแห้งมีอะไรบ้าง

วิธีป้องกันหน้าแห้ง

การทำหัตถการเพื่อซ่อมแซมผิวหน้าแห้ง เป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว แต่การดูแลผิวในชีวิตประจำวัน คือสิ่งจำเป็นที่จะรักษาผลลัพธ์นั้นไว้ และป้องกันไม่ให้ผิวหน้าแห้งกลับมาเป็นซ้ำ

  • ปรับการล้างหน้า กฎเหล็กสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง คือการล้างหน้าอย่างอ่อนโยนที่สุด
  • ทามอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังล้างหน้า ภายใน 1-3 นาที ในขณะที่ผิวยังหมาด ๆ เพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้
  • รังสียูวีจากแสงแดดคือตัวการอันดับหนึ่งที่ทำลายคอลลาเจนและเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวหน้าแห้ง แย่ลงและเกิดริ้วรอย ดังนั้นการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ PA++++ สามารถช่วยปกป้องผิวได้
  • หากเราใช้ชีวิตในห้องแอร์ที่แห้งจัด การใช้เครื่องทำความชื้นในห้องนอนหรือที่โต๊ะทำงาน จะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศและลดการสูญเสียน้ำจากผิวได้
  • การดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เป็นการเติมความชุ่มชื้นจากภายใน แม้จะไม่สามารถแก้ปัญหาเกราะผิวพังได้โดยตรง แต่ก็จำเป็นต่อสุขภาพผิวโดยรวม

DSK Clinic รักษาผิวหน้าแห้งโดยแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง

การดูแลผิวหน้าแห้งด้วยโปรแกรม Belotero Revive โปรแกรม Rejuran ไปจนถึงโปรแกรม Sculptra แสดงให้เห็นว่าปัญหาผิวหน้าแห้งนั้นมีความซับซ้อนและมีต้นตอที่แตกต่างกัน การเลือกใช้หัตถการที่ไม่ถูกต้องอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ที่ DSK Clinic เราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะบุคคล (Custom Analyse) ก่อนการรักษาเสมอ เรามีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง (Dermatologist) ที่จบการศึกษาเฉพาะทางปริญญาโทด้านผิวหนังและวุฒิบัตรตจวิทยาโดยตรง เราจึงมีความเข้าใจโรคผิวหนังเป็นอย่างดี สามารถประเมินได้ว่า ภาวะผิวหน้าแห้งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงการขาดน้ำ ซึ่งเหมาะกับโปรแกรม Belotero Revive หรือเกิดจากเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่เสียหายรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องซ่อมแซมด้วยโปรแกรม Rejuran หรือเกิดจากการเสื่อมสลายของโครงสร้างผิวตามวัย ซึ่งต้องใช้โปรแกรม Sculptra ในการฟื้นฟู

การที่แพทย์สามารถวินิจฉัยต้นตอของปัญหาผิวหน้าแห้งได้อย่างแม่นยำ จะช่วยให้มีการวางแผนการรักษา ที่เลือกใช้เครื่องมือหรือหัตถการที่ถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการรักษาจะเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่การบรรเทาอาการเพียงชั่วคราว

สรุปบทความ

ผิวหน้าแห้งเป็นภาวะที่ซับซ้อนกว่าแค่การขาดน้ำ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของเกราะป้องกันผิว การดูแลผิวในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเซราไมด์ และการทาครีมกันแดด เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการป้องกันไม่ให้ผิวหน้าแห้งแย่ลง แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าแห้งเรื้อรัง เกราะผิวที่เสียหายอาจต้องการการฟื้นฟูที่เข้มข้นกว่านั้น โปรแกรม Belotero Revive จึงเข้ามาเติมเต็มความชุ่มชื้นได้ดี ส่วนโปรแกรม Rejuran จะช่วยซ่อมแซมผิวให้ดีขึ้นได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผิวหน้าแห้ง

ผิวหน้าแห้งมาก ๆ ทำไงดี

สำหรับภาวะผิวหน้าแห้งมาก ๆ หรือ หน้าแห้งจนลอกเป็นขุยและแสบคัน การทามอยส์เจอไรเซอร์อาจไม่เพียงพอ เพราะเกราะป้องกันผิวเสียหายอย่างหนักจนกักเก็บความชุ่มชื้นไม่อยู่ เมื่อหน้าแห้งวิธีแก้ที่ตรงจุดที่สุดคือการพบแพทย์เพื่อรับการรักษา เช่น โปรแกรม Belotero Revive เพื่ออัดฉีดความชุ่มชื้น (HA + Glycerol) เข้าไปในผิวชั้นลึกทันที หรือโปรแกรม Rejuran เพื่อซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวที่พังให้กลับมาแข็งแรง

หน้าแห้งอันตรายไหม

โดยทั่วไปผิวหน้าแห้งไม่ได้อันตรายครับ แต่เป็นภาวะที่ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะผิวหน้าแห้งคือสัญญาณของเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ (Weak Skin Barrier) ซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านหน้าของร่างกาย เมื่อเกราะนี้พัง มันจะเปิดโอกาสให้สารก่อภูมิแพ้ (Allergens) และแบคทีเรียเข้าสู่ผิวได้ง่าย นำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงขึ้น เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Dermatitis) โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) อาการคันเรื้อรัง และการติดเชื้อที่ผิวหนังได้

ผิวหน้าแห้งแบบไหน ควรรีบไปพบแพทย์

ผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง สามารถดูแลได้ด้วยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์และปรับพฤติกรรม แต่หากคุณมีอาการเหล่านี้ แม้จะพยายามบำรุงผิวแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น นั่นคือสัญญาณว่าควรไปพบแพทย์ผิวหนัง

  • แห้งเรื้อรังและรุนแรง ผิวแห้งมากเป็นพิเศษ ลอกเป็นขุย หรือเป็นสะเก็ดตลอดเวลา แม้จะทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอแล้ว
  • มีอาการคันรุนแรง ผิวแห้งที่มาพร้อมอาการคันมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการนอนหลับ
  • ผิวอักเสบ แดง หรือแสบ นอกจากผิวแห้งแล้ว ยังมีอาการแดงอักเสบ รู้สึกแสบร้อน หรือระคายเคืองอย่างต่อเนื่องควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
  • ผิวแตกและมีเลือดออก ผิวแห้งมากจนแตกเป็นรอยแยก มีเลือดซึม หรือรู้สึกเจ็บปวด
  • สงสัยการติดเชื้อ หากผิวมีตุ่มหนอง น้ำเหลืองไหล หรือมีสะเก็ดสีเหลืองทอง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแทรกซ้อน
  • สงสัยโรคผิวหนัง หากอาการแห้ง คัน แดง เป็น ๆ หาย ๆ ในตำแหน่งเดิม หรือมีลักษณะที่เข้าข่ายโรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) หรือสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

การพบแพทย์จะช่วยให้วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำว่า อาการผิวแห้งของคุณเกิดจากสาเหตุใด เป็นเพียงผิวขาดน้ำ หรือเป็นสัญญาณของโรคผิวหนัง เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและตรงจุดต่อ

banner-view-promotion-mobile

บทความแนะนำ

ธันวาคม 1, 2025

โปรแกรม Onda Pro เทคโนโลยี CoolWaves สลายไขมัน กระชับสัดส่วนทั่วร่างกาย 

วิดีโอเรื่องที่ควรรู้

mock-cover-video-1
เตือนภัย! แฉกลโกงคลินิกเสริมความงาม
ไม่อยากโดนหลอก ต้องดู!

อ่านบทความจากหมอ

banner-consultation-mobile-2x
bg-bt-contact-1-2x
ปรึกษาปัญหาผิวหน้า
ทักแชท Facebook ฟรี
bg-bt-contact-2-2x
แอดไลน์คลินิค
จองคิวทำนัด
bg-bt-contact-3-2x
ติดต่อสอบถาม
โทรเลย
bg-bt-contact-4-2x
ค้นหาสาขาใกล้ตัว
คลิกดูสาขา