คุณหมอขอสรุป ProYAG Laser  ที่ DSK Clinic ดียังไง ?

– จุดเด่นของ YAG Laser คือเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ผ่านมาตรฐาน USFDA ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเทคโนโลยีที่ทำให้การกำจัดขนนั้นมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สามารถกำจัดขนได้ดีกว่า ขนหายถาวรมากกว่า จับรากขนได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับเลเซอร์ทุกประเภทในปัจจุบัน กำจัดขนได้ทุกซอกทุกมุม แม้แต่จุดซ่อนเร้นก็สามารถกำจัดได้อย่างเกลี้ยงเกลา – หากเทียบกับเลเซอร์อื่นเช่น Diode, IPL, Alexandrite : Long pulse Nd YAG ถือเป็นเลเซอร์ที่จำเพาะกับขนสูงสุด และได้ผลสูงสุด – แม้จะใช้ Long pulse Nd YAG เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์อาจจะออกมาไม่เหมือนกัน แตกต่างที่การตั้งค่าของเครื่องมือ เพราะขนในบริเวณที่ต่างกัน ขนาดเส้นขนที่ต่างกัน และสีผิวที่ต่างกันมีผลต่อการตั้งพลังงานที่เหมาะสม ที่ DSK นอกจากการใช้เครื่อง Long pulse Nd YAG  รุ่นล่าสุดและเลือกใช้เครื่องที่ผ่านมาตรฐาน USFDA แล้ว เราจะใช้การตั้งค่าพลังงานแบบ Customization ที่เป็นเทคนิคเฉพาะ – ที่ DSK ในการตั้งค่าให้เหมาะกับขนาดเส้นขน ผ่านการตั้ง Pulse Duration และระดับพลังงาน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการใช้ YAG ทั่วไป – ระวังสับสน! เลเซอร์ที่ใช้กำจัดขนคือ Long pulse Nd YAG  ไม่ใช่ Q-switch NdYAG ใช้ผิดขนอาจไม่หายได้

เส้นขนนับเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญกับร่างกาย ย้อนไปถึงยุคดึกดำบรรพ์ที่มนุษย์ยังไม่มีเสื้อผ้าใส่ ขนมีหน้าที่หลักคือ คอยช่วยถ่ายเทความร้อนและปกป้องร่างกายจากอากาศหนาว แต่ในปัจจุบันมนุษย์วิวัฒนาการและมีความรู้ จนสามารถผลิตเครื่องนุ่งห่มได้ ทำให้ขนลดบทบาทกลายเป็นอวัยวะที่ไม่จำเป็น จนมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ 

อย่างไรก็ตามขนบางส่วนที่ขึ้นตามร่างกายได้สร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้คนในทุกวันนี้ บางคนเลือกใช้วิธีการกำจัดขนด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะโกน แว็กซ์ หรือถอนขน แต่ยังไม่ดีพอที่จะทำให้ขนไม่ขึ้นอีกได้ จึงมีหนึ่งวิธีที่เข้ามาแทนที่ ได้รับความนิยม เพราะเมื่อทำแล้วเห็นผลลัพธ์ได้ดีและเร็วที่สุด นั่นคือการเลเซอร์ ซึ่งเลเซอร์กำจัดขน ช่วยเนรมิตผิวเรียบเนียนไร้ขนที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ YAG Laser หากใครยังไม่เคยรู้จัก และกำลังมองหาวิธีกำจัดขนทั้งตัวแบบถาวร นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

ทำความรู้จัก! YAG Laser นวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขนถาวร

Long pulse Nd YAG Laser เป็นเทคโนโลยีในการกำจัดขนถาวรด้วยคลื่นที่มีความยาว 1064 nm ส่งความร้อนลงลึกเข้าไปจับรากขน เพื่อให้รากขนฝ่อตัวลงและหยุดการเจริญเติบโต โดยพลังงานจะส่งผ่านตัวขนเข้าไปถึงรากขน และส่งถ่ายพลังงานไปยังบริเวณรอบรูขุมขนซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลล์สร้างขนใหม่หรือ Hair Follicle Stem Cell ดังนั้นการยิงเลเซอร์ขนหากเป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จึงจะทำให้ขนหายถาวร จากการที่เซลล์ต้นกำเนิดตายไปด้วย  ไม่ใช่เพียงแค่กำจัดชั่วคราวเหมือนการโกนหรือการแว๊กซ์

โดยหากใช้เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพและเทคนิคการยิงที่ปรับเฉพาะบุคคลเช่น ProYag ในแต่ละครั้งของการยิงเลเซอร์จะช่วยกำจัดเส้นขนได้ประมาณ 20-30% จากพื้นที่ทั้งหมด โดยจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ในราวๆ ครั้งที่ 4-5 จึงจะเริ่มเห็นได้ว่าขนเริ่มบางและอ่อนลงและเส้นขนมักหายมากกว่า 90% หลังทำประมาณ 8-10 ครั้ง

นอกจาก YAG Laser ยังมีเลเซอร์แบบใดอีกบ้างที่ช่วยกำจัดขนถาวร

แน่นอนว่าการกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายได้ เนื่องจากเป็นรูปแบบบริการที่รวดเร็ว เห็นผล และราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ในปัจจุบันนอกจาก YAG Laser แล้ว ยังมีรูปแบบเลเซอร์กำจัดขนถาวรอีกมากมาย ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ซึ่งหมอสรุปให้ฟังดังต่อไปนี้ 

• Diode laser  (ความยาวคลื่น 808 นาโนเมตร)

Diode เลเซอร์ที่มีความยาวของคลื่น 800-1350 nm ใช้ในการกำจัดขนบริเวณกว้างๆ เป็นหลัก โดยไม่ได้เน้นลงรายละเอียดแต่ละจุดมากนัก อย่างแขน ขา หรือรักแร้ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องที่ใช้ในการกำจัดขนถาวร จริงๆแล้วถือเป็นเครื่องที่ได้ผลดี แต่หากเทียบ กับ Long Pulse Nd YAG พลังงานจะลงได้ตื้นกว่า และเหมาะกับผิวคนเอเชียน้อยมากกว่า หากเป็นคนผิวขาวก็สามารถใช้ Diode ได้ แต่หากผิวเข้มก็ต้องระวังการใช้มากกว่า

ข้อเสียของ Diode คือเป็นเครื่องที่มีตั้งแต่คุณภาพต่ำราคาหลักหมื่น จนไปถึงราคาหลักล้าน ซึ่งคลินิกก็จะเรียกว่า Diode เหมือนกัน แตกต่างที่คุณภาพเครื่อง ที่สะท้อนถึง ความเที่ยงตรงแม่นยำของพลังงาน และพลังงานสูงสุดที่ปล่อยออกมาได้ หากคุณไปเจอ Diode คุณภาพต่ำ ราคาถูก ก็มักจะไม่ได้ผลในการกำจัดขนได้ 

ที่สำคัญปัจจุบัน จะมี Diode รุ่นใหม่ๆที่รวมอีกสองช่วงคลื่นไว้ด้วยคือ 1064 nm (YAG) และ 795 nm (Alexandrite) ไว้รวมกันในเครื่องเดียว ต้องบอกว่า การรวม 3 ความยาวคลื่น คนอาจจะคิดว่ามันเหมือน YAG และ Diode รวมกัน แต่แท้จริงแล้วเครื่องเหล่านั้นก็ยังเป็น Diode ปกติที่เสริมช่วงคลื่นของ YAG เข้ามาบ้าง แต่ไม่ใช่ช่วงคลื่นหลัก แต่เป็นเพียง Gimmick ทางการตลาดเท่านั้น 

• YAG laser (Long Pulsed Nd Yag)

เลเซอร์ที่มีความยาวของคลื่น 1064 nm เป็นเลเซอร์ที่สามารถกำจัดขนได้ละเอียดมากๆ สามารถกำหนดขนได้ในทุกสีผิว และยังเข้าถึงพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงได้ดี ไม่ว่าจะเป็นบริเวณจุดซ่อนเร้น ใบหน้า และรักแร้ เลเซอร์กำจัดขนประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวแทนและผิวเข้มเป็นอย่างดี 

ปลอดภัยที่สุดในผิวคนเอเชีย โอกาสเสี่ยงต่อการไหม้เบิร์นน้อยที่สุด สามารถกำหนดขนได้ในทุกสีผิว มีความจำเพาะเจาะจงต่อเส้นขนสูงสุด และเครื่องโดยมากที่เป็น  Long Pulse Nd YAG มักเป็นเครื่องที่มีมาตรฐานสูง เครื่องเลียนแบบจะน้อย โอกาสเสี่ยงเจอเครื่องไม่ได้มาตรฐานจะน้อยเช่นกัน (ยกเว้นโดนคลินิกหลอกเอาเครื่องอื่นมาขายเป็น Long Pulse Nd YAG )

• Alexandrite laser

เลเซอร์ที่มีความยาวของคลื่น 755 nm เลเซอร์นี้จะเป็นที่นิยมในยุโรป แต่อาจไม่เหมาะกับคนเอเชียมากเท่าไร เนื่องจากไม่เหมาะกับคนที่มีขนสีเข้มหรือสีดำที่สามารถส่งผลให้ผิวเบิร์นได้ง่าย เหมาะกับการใช้กำจัดขนแบบกว้างๆ เท่านั้น 

• IPL 

IPL เป็นแสงความเข้มข้นสูงที่พลังงานออกหลายๆช่วงคลื่นตั้งแต่ 400-1200 nm จึงถูกนำมาใช้รักษาหลายๆปัญหาทั้ง รอยดำ รอยแดง การกำจัดขน แต่เนื่องจากพลังงานออกหลายช่วงคลื่นจึงไม่เฉพาะเจาะจง จึงได้ผลในแต่ละอย่างไม่ดีเท่าเลเซอร์ที่จำเพาะเจาะจงเรื่องนั้น และมีพลังงานส่วนเกินอยู่มาก ทำให้จำเป็นต้องตั้งพลังงานสูง ได้ผลลัพธ์เรื่องขนน้อยในคนเอเชีย และเกิดผลข้างเคียงเช่นรอยไหม้ รอยดำได้ง่าย

ข้อเสียอีกข้อคือ IPL มักเป็นเครื่องที่มีเครื่องคุณภาพต่ำ เครื่องจีนเยอะ และโดยส่วนมากในประเทศไทยก็มักใช้กลุ่ม IPL จีน ที่มักไม่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์จึงยิ่งน้อยกว่า IPL ตามวิจัยของต่างประเทศ ทำให้คนไทยมักไม่ประทับใจกับเป็น ชื่อเสีย ให้ IPL

สรุปคะแนน และประสิทธิภาพเลเซอร์กำจัดขนแต่ละประเภท

สำหรับเลเวอร์กำจัดขนแต่ละประเภทก็มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนที่แตกต่างกัน โดยสามารถจัดอันดับและสรุปคะแนนได้ดังนี้

• ประสิทธิภาพ:  LP Nd YAG > Diode > IPL 
• การลงลึกของเลเซอร์:  LP Nd YAG > Diode > IPL
• ความเหมาะกับขนและสีผิวคนไทย: LP Nd YAG > Diode > IPL
• เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานในท้องตลาด IPL > LP Nd YAG > Diode
• ความเจ็บ : ไม่ต่างกัน หากใช้พลังงานในระดับที่ได้ผลจริงเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บเพราะตั้งค่าพลังงานไว้ต่ำ แต่ก็ไม่ได้ผล 

ปัจจัยที่ทำให้เลเซอร์ได้ผล

1. เครื่องเลเซอร์

แนะนำ Long pulse NdYAG มากกว่าระบบอื่น และควรเป็น Long pulse NdYAG ที่ได้รับมาตรฐาน USFDA เพราะไม่ใช่ทุกเครื่องที่จะได้มาตรฐานนี้

โปรดระวังการสับสน เพราะ YAG มีหลายประเภท หากเป็น Q-switch NdYAG จะเอาไว้รักษาเม็ดสี หากนำมายิงขนจะทำให้ขนขาวชั่วคราว แต่ไม่ช่วยกำจัดขน แต่หากเป็น Erbium YAG จะใช้รักษาหลุมสิว ผิวเรียบเนียน ไม่มีผลต่อการยิงขน 

2. การตั้งค่าพลังงาน และ endpoint

ในการยิงขนจะมี 2 ค่าที่ต้องตั้งคือ ระดับพลังงานต่อพื้นที่ (Fluence) และ ระยะเวลาปล่อยแสงหรือ Pulse duration การตั้งสองค่านี้ต้องสัมพันธ์กับสีผิว ความใหญ่ของเส้นขน และตำแหน่งของเส้นขน และต้องปรับจนถึงจุดที่เรียกว่า Endpoint หรือจุดที่ต่อมขนเกิดปฏิกิริยาแสดงให้เห็นว่าพลังงานพอดี 

ข้อนี้เป็นสาเหตุใหญ่ที่คนไข้มักไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ดี แม้จะใช้เครื่องที่ดีก็ตาม 

3. การเตรียมผิวก่อนยิง

การเตรียมผิวเป็นเรื่องสำคัญ หลักการคือต้องมีตอเล็กๆ ประมาณ 1 mm เป็นตัวนำพลังงานให้ไปถึงราก แต่ตอไม่ควรยาวเกินไป และควรเป็นตอสีดำเพื่อการนำพลังงานที่ดี 

ไม่ใช่ว่าเครื่องอย่างเดียวจะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ เพราะถึงจะใช้เครื่องที่ดีที่สุด แต่ปรับพลังงานไม่พอดี พลังงานไม่ถึง endpoint ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี ดังนั้นทั้ง 3 ปัจจัยจึงเป็นตัวกำหนดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี 

สามารถใช้ YAG Laser เลเซอร์กำจัดขนตรงไหนได้บ้าง?

ขนมักจะทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมไม่สะอาดตา ทำให้เกิดความสกปรกได้ง่าย หากไม่ทำความสะอาดให้ดี อาจทำให้หลงเหลือคราบสกปรกหรือส่งกลิ่นได้เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การกำจัดขนด้วย YAG เป็นสิ่งที่หลายคนเลือก มีบริเวณใดบ้างที่สามารถทำ YAG Laser กำจัดขนให้หายไปแบบถาวร ไปหาคำตอบกันได้เลยที่นี่

เลเซอร์ขนบนใบหน้า

ยิ่งมีขนบนใบหน้าเยอะ ยิ่งทำให้แต่งหน้ายาก ผิวดูไม่เรียบเนียน ผู้คนจึงสนใจอยากกำจัดขนบนใบหน้าออก นอกจากนี้การใช้เลเซอร์ YAG กำจัดขนยังช่วยให้ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น พร้อมกับลดโอกาสในการเกิดสิวได้เพิ่มเติม 

เลเซอร์ขนรักแร้

ใครที่มีปัญหารักแร้ดำ ขนคุด ต้องลอง YAG Laser เพราะเลเซอร์นี้สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ทั้งยังช่วยทำให้ผิวรักแร้เรียบเนียน ไร้ตุ่มหนังไก่ ซึ่งเป็นปัญหาตามติดของคนที่ชอบโกนขนรักแร้ 

เลเซอร์ขนแขน

หลายคนไม่มั่นใจในการใส่เสื้อกล้ามหรือแขนสั้นเพราะมีขนเยอะ YAG สามารถใช้กำจัดขนบริเวณนี้ได้ดี หลังเลเซอร์จะทำให้ผิวที่แขนดูเรียบเนียนและผิวกระจ่างใสขึ้น

เลเซอร์ขนขา

หลายต่อหลายคนที่ไม่กล้าใส่ขาสั้นและไม่อยากโชว์ขาเรียวยาว ต้องคอยใส่กางเกงขายาวอยู่เสมอ แม้จะร้อนแค่ไหนก็ตาม เพราะขนที่ขาดกดำ ขนขึ้นแน่น YAG Laser จัดการได้ พร้อมทั้งทำให้ขาดูใสขึ้น ดูสว่าง สะอาดตา 

เลเซอร์จุดซ่อนเร้น

จุดซ่อนเร้นส่งกลิ่น รู้สึกอับชื้น หนึ่งในสาเหตุหลักเพราะขนในพื้นที่ดังกล่าว YAG สามารถช่วยกำจัดขนในพื้นที่จุดซ่อนเร้นได้ ลดอาการอับชื้น ไม่ทำให้เกิดขนคุดหรืออาการคันทีหลัง ที่สำคัญคือทำให้คุณสามารถทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้ง่าย

ข้อดี-ข้อเสียของการทำเลเซอร์กำจัดขน

การกำจัดขนนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับผู้ที่สนใจหรือวางแผนต้องการที่จะทำ YAG Laser ควรที่จะศึกษาและนำไปวิเคราะห์ในการตัดสินใจทำเลเซอร์กันให้ดี จะมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างที่คุณคาดไม่ถึง ไปติดตามกันต่อได้ ดังนี้ 

ข้อดีของการทำเลเซอร์กำจัดขน

• รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก: หากได้ผู้มีประสบการณ์ในการยิง YAG จะใช้ระยะเวลาต่อครั้งไม่นาน 
• ไม่เจ็บ สบายผิว: ระหว่างยิง จะใช้ลมเย็นที่อุณหภูมิ -20 เป่าไปด้วย ทำให้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บแสบ
• หมดปัญหาขนคุด: การทำ YAG นี้ไม่ใช่แค่การโกนหรือถอนขนออก แต่เป็นการทำลายเซลล์ขนนั้นๆ เลย จึงไม่ต้องกังวลกับขนคุด
• ผลข้างเคียงน้อย: ถ้าคุณได้มืออาชีพในการยิงเลเซอร์ YAG แทบจะไม่มีผลข้างเคียงให้ต้องกังวล  
• ผิวพรรณเรียบเนียน นุ่มขึ้น: หลังทำคุณจะสัมผัสได้เลยว่าทาครีมได้ง่ายขึ้น ผิวเด้งนุ่มขึ้นจริง 
• โกนขนได้ ไม่มีปัญหา: หลังทำเลเซอร์ 1 สัปดาห์ คุณสามารถโกนขนได้ตามปกติ 
• กำจัดขนได้ถาวร: เมื่อทำต่อเนื่อง ขนที่เคยขึ้นจะบางลงหรือแทบไม่ขึ้นอีก 

ข้อเสียของการทำเลเซอร์กำจัดขน

• พบผลข้างเคียงจากความร้อน: ถ้าคุณเจอกับผู้ดูแลการเลเซอร์ขนที่ขาดประสบการณ์ในการยิง YAG อาจทำให้เกิดแผลพุพองหรือแผลเป็นจากความร้อนของเลเซอร์ได้ เนื่องจากผิวของแต่ละคนมีความหนาบางแตกต่างกัน จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญการในการยิงเลเซอร์กำจัดขน

การเตรียมตัวก่อนและการดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์กำจัดขน

ใครที่ปักธงในใจได้แล้วว่าอยากทำเลเซอร์กำจัดขนถาวรด้วยวิธี YAG Laser สิ่งที่ต้องทำการบ้านต่อมาคือ การเตรียมตัวและผิวให้พร้อม โดยผู้ที่สนใจควรรู้กระบวนการเตรียมตัวและหลังทำเลเซอร์สำหรับพักฟื้นให้ดี เพื่อผลลัพธ์ในการกำจัดขนที่ดีที่สุด 

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน

• งดกิจกรรมกลางแดด: ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนหน้า ควรงดทำกิจกรรมกลางแดด เพื่อเลี่ยงการทำให้ผิวบางหรือถูกทำร้ายให้ได้มากที่สุด 
• งดครีม หรือสครับที่มีส่วนผสม AHA: รวมถึงโฟมล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เสริมความขาวใส เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีการใส่สาร AHA หรือวิตามิน A ที่ทำให้ผิวบางเป็นพิเศษ 
• งดการโกนขนเอง: ปล่อยให้ขนได้ขึ้นตามธรรมชาติ ให้หน้าที่โกนขนเป็นของเจ้าหน้าที่ได้เลย 
• จุดซ่อนเร้น งดก่อนช่วงประจำเดือน: ใครที่วางแผนอยากกำจัดขนจุดซ่อนเร้น ช่วงที่ไม่ควรทำที่สุดคือช่วงที่มีประจำเดือน เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอเป็นพิเศษ ควรเริ่มทำหลังจากประจำเดือนหมดไปแล้ว 5-7 วัน 
• เตรียมใจ: ถึงแม้จะบอกว่าไม่เจ็บ แต่ยังคงมีความรู้สึกจี๊ดๆ ระหว่างทำบ้างเหมือนกัน ให้เตรียมใจเอาไว้หน่อย 

การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กำจัดขน (Long Pulse ND Yag)

• หลังทำแนะนำให้ทายา Elomet วันละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน
• ในบางคนอาจเกิดตุ่มนูนแดงหรือรูขุมขนอักเสบได้ แต่เมื่อมีการทายาก็สามารถหายได้เอง ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์
• หลังทำเลเซอร์มาหมาดๆ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ควรงดสครับผิวหรือขัดตัวแรงๆ ไปก่อน 
• ระยะห่างระหว่างการยิงเลเซอร์กำจัดขนแต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 4 สัปดาห์ (หรือเดือนละครั้ง)

ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขน

สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำเลเซอร์กำจัดขนด้วยวิธี YAG Laser คลายความกังวลว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างในระหว่างทำ ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการพาทุกคนไปรู้จักกับขั้นตอนในการทำเลเซอร์กำจัดขนในทุกขั้นตอนของ YAG Laser กัน 

• โกนขน พร้อมทำความสะอาดผิว

 ให้คุณปล่อยขนให้ขึ้นตามธรรมชาติได้เลย โดยไม่ต้องโกนมาก่อนล่วงหน้า ทางเจ้าหน้าที่จะทำการโกนขนออกในพื้นที่ที่คุณต้องการทำ สามารถวางใจเรื่องใบมีดโกนได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่จะใช้มีดโกนแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หลังจากนั้นก็จะทำความสะอาดผิว พร้อมสังเกตความเข้มของขน เพื่อปรับระดับคลื่นของเลเซอร์ให้เหมาะสมกับขนของคุณ 

• ทาเจลเย็น 

ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มการยิงเลเซอร์ YAG จะทำการทาเจลเย็นเพื่อลดผลข้างเคียงจากความร้อนของเลเซอร์ให้เบาบางลง 

• ยิงเลเซอร์ YAG 

เริ่มการยิง YAG ในช่วงเวลานี้นี่เองที่คุณจะรู้สึกเหมือนมีหนังยางมาดีดที่ผิวและรู้สึกร้อนเพียงเล็กน้อย เพราะมีเจลเย็นลดอุณหภูมิที่ถูกทาไว้ก่อนหน้า คอยลดความร้อนสะสมของเลเซอร์ให้ผิวได้รับความร้อนน้อยที่สุด 

• สังเกตอาการของผิว 

ระหว่างที่ทำทางเจ้าหน้าที่จะสังเกตอาการของผิวว่ามีสีที่เปลี่ยนไปมากน้อยเท่าไร หรือมีตุ่มที่เกิดจากอาการแพ้หรือไม่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วผิวที่เพิ่งทำเลเซอร์ไปนั้นจะมีสีผิวที่เปลี่ยนแปลงไป โดยทั่วไปจะเป็นสีแดงอมชมพู หากผ่านไปสักไม่กี่นาทีผิวบริเวณดังกล่าวก็จะค่อยๆ กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง 

• ทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น 

หลังจากที่ทำการยิงเลเซอร์ YAG เสร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการระคายเคืองให้กับผิว

FAQ ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้เลเซอร์กำจัดขน

ผ่านกันไปแล้วกับเนื้อหาและข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับเลเซอร์กำจัดขนที่มีความนิยมสูงสุดอย่าง YAG Laser ที่เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่ไม่ใช่แค่เพียงลดความเข้มของขนให้บางลง แต่เป็นการกำจัดขนให้หายได้แบบถาวร ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการรวบรวมคำถามที่พบบ่อย เพื่อคลายทุกข้อสงสัยและเพิ่มเติมข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจจะเข้ามาใช้บริการกัน

สรุป

YAG Laser เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่สามารถทำให้หายได้แบบถาวร ด้วยการส่งคลื่นที่มีความยาว 1064 nm ลงไปในชั้นผิว เพื่อหยุดเซลล์ขนให้หยุดการเจริญเติบโต สามารถที่จะทำได้ทุกพื้นที่บนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น  แขน ขา หน้าอก รักแร้ จุดซ่อนเร้น หนวด เครา หรือแม้แต่ใบหน้าเองก็สามารถทำได้ ทำให้เลเซอร์นี้เป็นที่นิยมอย่างมาก 

ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ ไม่มีผลข้างเคียง ใช้เวลาทำรวดเร็ว และยังไม่ต้องพักฟื้น ทำให้เลเซอร์ YAG เป็นคำตอบของผู้ที่ต้องการกำจัดขนที่ไม่ต้องการได้เป็นอย่างดี ด้านวิธีการดูแลก่อนเข้ารับเองก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่งดออกแดด ไม่ใช่ครีมที่มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวบาง เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการเข้ารับบริการจากทางคลินิกเพียงเท่านั้น หลังทำก็แค่งดเผชิญแดดโดยตรง ยังไม่ขัดผิวในช่วงสัปดาห์แรกๆ และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่สม่ำเสมอ