- November 8, 2024
เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ถูกใจ และมีความปลอดภัย
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
คุณหมอขอสรุป เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี?
|
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาและปรับรูปปากได้ตามที่ต้องการ โดยการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันในการตอบโจทย์ปัญหาของปากในแต่ละรูปแบบ ไปดูกันว่าควรเลือกฟิลเลอร์ฉีดปากยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างและเหมาะกับปัญหาแบบไหนบ้าง
ฟิลเลอร์ปากคืออะไร
ฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขหรือปรับรูปปากให้สวยงามและสมดุล โดยใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิวบริเวณปาก ฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เป็นทรง รวมถึงเพิ่มวอลลุ่มให้กับปาก ทำให้ดูอวบอิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยรอบปาก ทำให้ดูอ่อนเยาว์ และผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อช่วยให้ออกแบบทรงปากตามความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาได้ เช่น ทรงเชอร์รี่ หรือทรงปากแบบฝรั่ง ที่มีความคมชัดของขอบปากมากขึ้น
ฟิลเลอร์ปากที่ดี มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับปากต้องมีคุณสมบัตินุ่ม ยืดหยุ่นสูง และให้ความชุ่มชื้น เพราะบริเวณปากมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ฟิลเลอร์จึงต้องปรับตามรูปปากได้โดยไม่เป็นก้อนหรือแข็งเกินไป อีกทั้ง ยังต้องให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูอวบอิ่มและเรียบเนียน คุณสมบัติสำคัญคือการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่มีไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยเติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นกับปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากอย่างไร ให้ผลลัพธ์ออกมาสวย
เลือก Filler ปากยี่ห้อไหนดีขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รูปปากที่คนไข้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรูปปากอวบอิ่ม หรือดูละมุนเป็นธรรมชาติ หากต้องการความอวบฟู อาจเลือกฟิลเลอร์ที่ให้วอลลุ่มมาก ส่วนเนื้อฟิลเลอร์ต้องเหมาะกับการเคลื่อนไหวของปาก เนื้อบางเบาและยืดหยุ่นจะช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากให้เหมาะกับปัญหาปากที่ต้องการแก้ไข เช่น ปากแห้งหรือขาดความชุ่มชื้น ก็ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเติมเต็มความชุ่มชื้นได้ดี
รวมยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ได้รับความนิยม
ฟิลเลอร์ปากที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมียี่ห้อและรุ่นต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm รุ่น Volift เป็นฟิลเลอร์ปากที่มีเนื้อนุ่มและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณปากเพราะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเคลื่อนไหวตามปากได้ดี ฟิลเลอร์ตัวนี้เหมาะกับการแก้ปัญหาปากบางและปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
2. Juvederm Volbella
สำหรับฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm รุ่น Volbella เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบาและเนียนละเอียด ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี ฟิลเลอร์รุ่นนี้เหมาะกับการแก้ปัญหาปากแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น และปรับให้ปากดูละมุนมากขึ้น ผลลัพธ์จากการฉีดสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
3. Restylane Kysse
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane รุ่น Kysse เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับริมฝีปาก มีเนื้อละเอียดและคงตัวสูง เหมาะสำหรับการเติมขอบปากให้ชัดและเพิ่มความอวบอิ่ม โดยยังคงความชุ่มชื้นและดูเป็นธรรมชาติ ไม่บวมหลังฉีด เหมาะสำหรับทรงปากเกาหลี (Cherry Lip) และปากกระจับ (Classic + Cherry Lip) ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์นี้สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
4. Restylane Classic
ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริมฝีปากไม่เป็นทรงหรือริมฝีปากบาง ควรเลือก Restylane รุ่น Classic เพราะเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่มีเนื้อแน่นและคงตัว เหมาะสำหรับการเติมเต็มและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น ฟิลเลอร์นี้ยังช่วยลดริ้วรอยรอบปากและเพิ่มความอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของผู้รับการฉีดและการดูแลหลังการทำ
5. Restylane Vital Light
เนื้อฟิลเลอร์บางเบาและยืดหยุ่นของ Restylane Vital Light ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนให้ริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งโดยไม่เพิ่มวอลลุ่มมากนัก
ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีลักษณะเป็นเจลอนุภาคเล็กมาก มีความนิ่มที่สุด และมีส่วนผสมของยาชาเพื่อความสะดวกสบายระหว่างฉีด เหมาะสำหรับทรงปากธรรมชาติ (Classic) ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการฉีด
6. Restylane Defyne
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane Defyne มีเนื้อเจลที่มีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ซึ่งช่วยให้บริเวณปากดูเป็นธรรมชาติและเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ด้วยส่วนผสมของยาชา ทำให้เติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหรือริ้วรอยรอบๆ ปาก ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและการดูแลรักษา เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อให้ได้ทรงปากแบบเกาหลี (Cherry Lip) ทรงสายฝอ (Sexy Lip) และทรงปากกระจับ (Classic+Cherry Lip)
7. Belotero Intense
คนที่ต้องการฉีดบริเวณปากเพื่อเติมเต็มร่องลึกหรือริ้วรอยที่เห็นได้ชัด ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Belotero รุ่น Intense สามารถตอบโจทย์ได้ เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา จึงเหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกระดับมากและเพิ่มปริมาตรให้กับผิว เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง ซึ่งช่วยให้บริเวณปากดูเป็นธรรมชาติและกระชับ ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
8. Belotero Balance
คุณสมบัติในการเติมเต็มและปรับปรุงริ้วรอยบนผิวของ Belotero รุ่น Balance เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่มีเนื้อนิ่มปานกลาง ซึ่งช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์บริเวณปากดูเป็นธรรมชาติและเนียนเรียบ มีส่วนผสมของยาชา เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกระดับปานกลางบริเวณปาก ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
9. Belotero Lips
Belotero Lips เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาสำหรับปาก เนื้อฟิลเลอร์มีความนิ่มและเนียนละเอียด ช่วยให้ปากดูเป็นธรรมชาติและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการเพิ่มวอลลุ่ม เติมความอวบอิ่ม และปรับรูปทรงของปาก ฟิลเลอร์มีสองรุ่นใน 1 เซ็ต: Belotero Lips Shape สำหรับเพิ่มวอลลุ่มและเติมความอวบอิ่ม และ Belotero Lips Contour สำหรับปรับรูปทรงและเพิ่มความคมชัดของขอบปาก ฟิลเลอร์ชนิดนี้อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาดี นอกจากการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมแล้ว ควรมีการเตรียมตัวก่อนการฉีด ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเรื่องการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
- หากมีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือโรคที่อาจส่งผลต่อการฉีดฟิลเลอร์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- หยุดใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน และยาต้านการอักเสบ เช่น Ibuprofen และ Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันการเกิดอาการฟกช้ำและเลือดออกที่อาจเกิดขึ้น
- หยุดใช้วิตามินและอาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดหยุดยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม และใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 วันก่อนการฉีด
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดหรือร่างกายเหนื่อยล้า
- ทำความสะอาดใบหน้าและล้างเครื่องสำอางให้สะอาดในวันที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
อัปเดตเทรนด์ ทรงปากยอดนิยมประจำปี 2024
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล นอกจากยี่ห้อฟิลเลอร์ปากแล้ว การปรับแต่งตามรูปหน้า (DSK Customize) ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม มีทรงปากยอดนิยมที่คนไข้หลายๆ คนชื่นชอบ ดังนี้
- รูปทรงปากธรรมชาติ ทรงปากบนบางกว่าปากล่างในสัดส่วนที่พอเหมาะ การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้โดยฉีดให้ปากเต็มขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยกลบร่องบนริมฝีปาก
- ทรงปากกระจับ (Cherry Kysse) มีลักษณะเป็นปากกระจับบนล่าง โดยปากบนมีเนื้อติ่งตรงกลางและริมฝีปากล่างอวบอิ่ม คล้ายผลเชอร์รี่สองลูกประกบกัน ผ่านการฉีดฟิลเลอร์ที่ช่วยให้ริมฝีปากล่างอวบอิ่มและเติมเนื้อติ่งที่ปากบนได้ปากกระจับสวย
- ทรงปากเกาหลี มีลักษณะอวบอิ่มเล็กน้อยและเป็นธรรมชาติ ปากบนมีความกระจับเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นและมีความฉ่ำวาว ซึ่งทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงให้สวยงาม
- ทรงปากสายฝอ ทรงปากอวบอิ่มแบบตะวันตก ที่ทำได้โดยการฉีดฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากทั้งบนและล่างในสัดส่วน 1:1 พร้อมปรับขอบปากให้คมชัดและเสริมเสน่ห์แบบสายฝอ
- ทรงปากปีกนก ยกมุมปาก รูปปากทรงนี้เวลายิ้มลักษณะของริมฝีปาก และมุมปากจะยกขึ้นคล้ายกับปีกนก เหมาะกับโครงหน้าของคนไทย สามารถทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ที่เนื้อเจลมีความนิ่มและยืดหยุ่นสูง เพื่อเพิ่มความยกมุมปากและปรับรูปทรงให้ดูเป็นธรรมชาติ
- ทรงปาก Heavy Upper Lips มีลักษณะริมฝีปากบนหนากว่าริมฝีปากล่าง การปรับทรงทำได้โดยการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มความหนาและอวบอิ่มให้กับริมฝีปากบน ส่วนริมฝีปากล่างฉีดพอดีไม่ให้ใหญ่เกินไป
- ทรงปาก Heavy Lower Lips ทรงปากที่ริมฝีปากล่างจะหนากว่าริมฝีปากบน การปรับทรงทำได้โดยการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มความหนาและอวบอิ่มให้กับริมฝีปากล่าง พร้อมทำให้ขอบปากบนชัดเจน หรือบางคนอาจเพิ่มการยกมุมปากเพื่อให้ได้ทรงปากที่สวย เซ็กซี่ และไม่ดูปากเจ่อเกินไป
- ทรงปาก Full Lips ทรงปากที่เพิ่มความหนาทั้งริมฝีปากบนและล่างในสัดส่วน 1:1 ทำให้ปากโดดเด่น เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าชัดเจน สามารถใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลความหนาและความยืดหยุ่นสูงเพื่อเพิ่มปริมาณและความอวบอิ่มของริมฝีปาก
- ทรงปาก Wide Lips ทรงที่มีลักษณะปากกว้างกว่าปกติ เนื้อปากบนและล่างมีความอวบอิ่มและสมดุลกัน การปรับทรงปากนี้จะใช้ฟิลเลอร์เพื่อยกมุมปากและสร้างขอบปากให้ชัดเจน ซึ่งช่วยขยายให้ทรงปากดูยาวมากขึ้นและเพิ่มความสมดุลให้กับรูปปาก
- ทรงปาก Cupid’s Bow รูปทรงที่คล้ายหัวใจหรือคันธนูของคิวปิด โดยริมฝีปากบนเป็นกระจับคล้ายตัวอักษร M และริมฝีปากล่างอวบอิ่ม ฟิลเลอร์ที่ใช้จะต้องมีเนื้อเนียนละเอียด เพื่อเพิ่มความคมชัดให้ขอบปากและความอวบอิ่มให้ริมฝีปากล่าง
การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
การคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ปากให้ยาวนานต้องการการดูแลหลังฉีดอย่างเหมาะสม ดังนี้
- ริมฝีปากอาจบวมได้ ซึ่งเป็นปกติและจะลดลงภายใน 2-3 วัน
- ใช้ถุงน้ำแข็งหรือก้อนน้ำแข็งที่ห่อด้วยผ้า ประคบบริเวณริมฝีปาก 15 นาทีหลังการฉีด เพื่อบรรเทาอาการบวม คัน และรอยฟกช้ำ
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดที่ริมฝีปาก
- งดการออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
- หากมีอาการปวด สามารถใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าที่ริมฝีปากภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ DSK Clinic ดีอย่างไร?
ที่ DSK เราใช้เทคนิค ABI multi layer วิเคราะห์ก่อนฉีดเฉพาะบุคคล แก้ไขถึงโครงสร้าง เพื่อการแก้ไขปัญหาที่เป็นธรรมชาติ ไม่ปลอม ไม่โป๊ะ เน้นความแม่นยำ ใช้ฟิลเลอร์น้อยกว่า เพื่อให้ได้การฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นธรรมชาติและเฉพาะบุคคล เน้นการฉีดให้ดูธรรมชาติ ไม่ปลอม ไม่โป๊ะ แต่ดูดีขึ้นในแบบของตัวเอง จากการวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนเฉพาะบุคคลก่อนฉีดพร้อมฟิลเลอร์คุณภาพสูง ผ่านการรับรองมาตรฐาน โดยที่ DSK เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์แบรนด์ Premium จากยุโรป โดยเน้นการเลือกให้เหมาะกับลักษณะปัญหาเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด
ความปลอดภัยและคุณภาพคือสิ่งที่เรามุ่งมั่น รวมถึงราคาที่เป็นกันเองและมีแพ็กเกจให้เลือก
พร้อมบริการที่ดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปรึกษา การทำ และการดูแลหลังการทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความพึงพอใจของคุณ คนไข้จะได้รับทั้งความปลอดภัยและคุณภาพ ด้วยรางวัลการันตีระดับประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 2021 Merz Thailand Rising Star, 2022 The Infinite Award for Belotero, Top 10 Restylane Filler และอื่นๆ อีกมากมาย
โดยขั้นตอนการ Customization เทคนิคเฉพาะของ DSK ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้
วิเคราะห์ใบหน้า
เนื่องจากใบหน้าแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะ ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละเคสต้องผ่านการวิเคราะห์ใบหน้าประเมินสัดส่วนอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมส่วนและสวยงาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษาและคำแนะนำแบบรายบุคคล เพื่อหาจุดร่วมระหว่างความต้องการของคนไข้และความเหมาะสมของแต่ละเคสในการเติมฟิลเลอร์
วิเคราะห์แผนการรักษา จำนวนที่ใช้ จุดฉีด และรุ่นที่เหมาะสม
ปัญหาของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ทำให้การดูแลแต่ละเคสไม่เหมือนกัน แพทย์จะวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้า และประเมินการดูแลตามสัดส่วน รูปหน้า ปัญหาผิวหน้า
เลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสม จำนวนที่เหมาะสมเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดีที่สุด
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีโมเลกุลและความแข็งต่างกัน หลังจากวิเคราะห์โครงหน้าและปัญหาของแต่ละเคสอย่างละเอียดแล้ว แพทย์จะประเมินจุดที่ฉีด เลือกรุ่นฟิลเลอร์ และปริมาณที่เหมาะสม
และความต้องการของคนไข้ เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ตรงตามต้องการและเหมาะสมที่สุด
วิเคราะห์เทคนิคฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีโมเลกุลและความแข็งต่างกัน หลังจากวิเคราะห์โครงหน้าและปัญหาของแต่ละเคสอย่างละเอียดแล้ว แพทย์จะประเมินจุดที่ฉีดและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
ขั้นตอนการฉีดเป็นขั้นตอนที่ละเอียด แพทย์จะทำการออกแบบเทคนิคการฉีด ความลึก ชนิดของอุปกรณ์ ชั้นที่ต้องการวางยา และจุดวางยาเฉพาะบุคคล ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการเฉพาะบุคคล
พร้อมใช้เทคนิคที่ช่วยให้ฟิลเลอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาได้ยาวนานและแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ โดยใช้ฟิลเลอร์อย่างคุ้มค่าและเกิดผลลัพธ์สูงสุด
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปากที่ DSK Clinic
* ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
* ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว
สรุป
ฟิลเลอร์ปากคือสารเติมเต็มที่เพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงของริมฝีปาก ฟิลเลอร์ปากที่ดีต้องเนียนละเอียดและเหมาะกับรูปปากเพื่อผลลัพธ์ธรรมชาติ ซึ่งแต่ละยี่ห้อฟิลเลอร์ปากมีคุณสมบัติและเนื้อฟิลเลอร์ต่างกัน ควรเลือกตามปัญหาและรูปปากที่ต้องการ นอกจากนี้ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่คลินิกที่มีแพทย์ชำนาญและเทคนิคการฉีดที่ดีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยและเหมาะสม โดยที่ DSK Clinic ที่มีการวิเคราะห์ปัญหาและใบหน้าอย่างละเอียด เฉพาะบุคคลทั้งทรงปากที่เหมาะกับใบหน้า รุ่นที่ฉีด จุดฉีด เทคนิคที่ใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สวยธรรมชาติและเหมาะสมกับใบหน้าที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก (FAQs)
หลายคนสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก และการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่เหมาะสม สำหรับข้อมูลในการพิจารณา เรามาตอบคำถามที่พบบ่อยเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกฟิลเลอร์ปากที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
ฟิลเลอร์ปากต้องฉีดกี่ cc
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะและความต้องการของริมฝีปาก เช่น หากริมฝีปากบางหรืออยากได้ความอวบอิ่มมากอาจต้องใช้ 2 cc แต่ปริมาณ 1 cc ก็เพียงพอสำหรับการปรับรูปทรงทั่วไป แพทย์จะประเมินปริมาณที่เหมาะสมก่อนฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมนานไหม?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาจมีอาการบวมเล็กน้อย 3-7 วัน ซึ่งความรุนแรงขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล โดยอาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง สามารถใช้การประคบเย็นช่วยได้ ผลลัพธ์ชัดเจนเมื่อปากหายบวมและเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ปากปลอดภัยหากทำโดยแพทย์เชี่ยวชาญ เนื่องจากบริเวณริมฝีปากมีเส้นเลือดมาก ควรเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้และแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการฉีด
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์ปากที่ดีควรเลือกยี่ห้อที่มีเนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและปรับรูปทรงปากได้ดี โดยไม่ทำให้รู้สึกแข็งหรือเป็นก้อน
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานไหม?
ฟิลเลอร์ปากโดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีด การเลือกฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น