คุณหมอขอสรุป แก้มห้อย แก้มย้อย รักษาได้อย่างไร? แก้มห้อย แก้มย้อย คือปัญหาบนใบหน้าที่เกิดจากการที่แก้มหย่อนคล้อยออกมา จนทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น ดูหน้าใหญ่ และก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย สาเหตุมาจากกระดูก หรือไขมันชั้นลึกทรุดลง เปรียบเสมือนเสาของใบหน้าทรุดไป หรืออาจเกิดจากผิวหนังยืดหลวมตัว ผิวหนังบางลง วิธีการรักษาปัญหาแก้มห้อยที่เกิดจากกระดูกยุบ ก็สามารถเติมได้ด้วยฟิลเลอร์ แต่หากเป็นปัญหาจากผิวหนังส่วนเกินก็จะมีวิธีแก้อยู่ 4 วิธี ดังนี้ Thermage เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แก้มหด และกระตุ้นคอลลาเจนชั้นลึก (SMAS) ช่วยให้หน้ายกมากขึ้น Ulthera เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูง ที่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ดี และกระตุ้นคอลลาเจนชั้นบน (Dermis) ช่วยให้หน้าหดแน่น Sculptra หรือ Radiesse ที่ช่วยกระตุ้นสานเส้นใยคอลลาเจนใหม่บนใบหน้าขึ้น จึงเหมาะกับคนที่ผิวบาง ผิวหลวม และคืนตัวได้ไม่ดี การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า เป็นทางเลือกที่มีงบเริ่มต้นน้อย ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า ที่ให้ผลลัพธ์ได้ยาว ทั้งสี่วิธีจะมีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไปหลายจุด เช่น Thermage, Ulthera และการฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ไม่จำเป็นต้องใช้การผ่าตัด ในขณะที่การศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าจะต้องทำการผ่าตัด ที่ DSK เน้นวิเคราะห์ถึงโครงสร้าง แก้ไขถึงสาเหตุ เลือกการรักษาที่เหมาะสม ผลลัพธ์จึงออกมาดี เหมือนการสร้างบ้านโดยมีวิศวกร วางแผน สามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ที่สวยงาม แต่หากขาดการวางแผนหาสาเหตุ ก็อาจสร้างได้เพียงกระท่อมที่พังง่ายจนทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ เพราะเครื่องมือเดียวกัน เทคนิคต่างกัน ผลลัพธ์ก็ต่างกัน

ปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อย ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ มีริ้วรอยจนขาดความมั่นใจ แถมหากปล่อยไว้ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาริ้วรอยร่องน้ำหมากได้อีกด้วย มามองหาต้นตอของปัญหานี้ว่าเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษาอย่างตรงจุด แก้มห้อยย้อยแก้อย่างไร? ไปดูกัน!

แก้มห้อย แก้มย้อย คืออะไร 

แก้มห้อย หรือแก้มย้อย เป็นคำที่ใช้ในการอธิบายปัญหาบนใบหน้า ที่เกิดจากการที่แก้มหย่อนคล้อยออกมาจนทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น ดูหน้าใหญ่ และก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ซึ่งอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กระดูก หรือไขมันชั้นลึกทรุด เปรียบเสมือนเสาของใบหน้าทรุดไป ผิวหนังยืดหลวมตัว ผิวหนังบางลง โดยสามารถพบได้ทั้งในผู้หญิง และผู้ชาย

สาเหตุแก้มห้อย แก้มย้อย เกิดจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุที่มีส่วนในการทำให้เกิดแก้มห้อย แก้มย้อย เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากภายใน และจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ดังนี้

ปัจจัยภายใน

ปัจจัยภายใน หมายถึง ปัจจัยที่เกิดจากตัวของแต่ละคน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละคน

• กรรมพันธ์ุ ปัจจัยทางพันธุกรรมที่สามารถส่งผลต่อโครงสร้างของใบหน้า ที่ไม่สมส่วน หรือมีแก้มยื่นออกมา จนทำให้แก้มไม่มีความกระชับ หรือดูห้อยย้อยมากกว่าปกติจนดูแก่กว่าวัย
• อายุ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น จะสามารถนำไปสู่ปัญหาแก้มย้อยได้ เพราะร่างกายจะผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินได้น้อยลง จนผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย และไม่กระชับ

ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอก หมายถึง ปัจจัยที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม หรือพฤติกรรมของแต่ละคน ดังนี้

• รังสียูวีจากแสงแดด มีส่วนในการเร่งความเสื่อมสลายของผิวหนัง ด้วยการทำลายคอลลาเจน และอีลาสติน ที่เป็นส่วนสำคัญต่อความกระชับ และความเต่งตึงของผิวหนัง จนส่งผลให้แก้มห้อย และย้อยลงได้ง่ายขึ้น
• มลภาวะ ไม่ว่าจะมาจากการได้รับสารพิษในอาหาร หรือในอากาศ ที่ทำให้ได้รับ Oxidative Stress ซึ่งจะไปลดประสิทธิภาพของโปรตีน ที่ช่วยสร้างคอลลาเจน จนทำให้แก้มหย่อนลงได้ง่ายขึ้น
• น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หากเพิ่มกะทันหัน จะทำให้แก้มเกิดการขยายตัว เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้รองรับปริมาณไขมันที่มากขึ้น เมื่อน้ำหนักลดลงก็จะทิ้งผิวหนังส่วนเกินเอาไว้ จนทำให้แก้มดูห้อยลงมาได้
• สารอนุมูลอิสระ เป็นสารที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายพบกับรังสียูวีจากแสงแดด มลภาวะ และสารเคมีบางประเภท ซึ่งมีส่วนในการทำลายประสิทธิภาพของผิวหนังที่จะรักษาความเต่งตึงเอาไว้ได้
• พฤติกรรมประจำวัน ทั้งอาหารการกิน ปริมาณน้ำที่ดื่ม การพักผ่อน รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ อย่างการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การกินอาหารรสหวาน หรือรสจัดมากเกินไป ก็สามารถกระตุ้นให้ผิวเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผิวแก้มดูห้อย ย้อยกว่าวัยได้

สาเหตุแก้มห้อย แก้มย้อย เกิดจากโครงสร้างอะไรได้บ้าง

แก้มหย่อนคล้อย เกิดจากอีลาสติน และคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดลง กระดูกบางลง ส่งผลให้ผิวหน้ายุบตัว เกิดเป็นร่องน้ำหมาก และแก้มห้อย สาเหตุหลักมาจากอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะวัย 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนลดลงถึง 30% ควรหาทางแก้ไข เพื่อให้ผิวหน้ากระชับ และป้องกันแก้มห้อยอย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อย ส่งผลอย่างไรต่อใบหน้า

แก้มห้อย แก้มย้อย ส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพผิว และภาพลักษณ์ของใบหน้า ดังนี้

• ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
• ใบหน้าดูไม่สดใส
• ผิวหน้าไม่กระชับ
• เกิดริ้วรอยร่องแก้ม
• เกิดร่องใต้ตา
• กรอบหน้าไม่ชัด
• ใบหน้าดูอ้วน หรือหน้าบาน

หากปล่อยเอาไว้นานๆ อาการแก้มย้อยก็อาจจะหนักมากขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาริ้วรอยอื่นๆ อย่างรอยร่องน้ำหมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งริ้วรอยที่ทำให้หน้าดูแก่ และยังทำให้มุมปากดูตก เวลาไม่ยิ้มจะดูเหมือนโกรธ ทำให้เสียบุคลิกภาพ และดูไม่น่าเข้าหาอีกด้วย

แก้ปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อย ทำได้อย่างไร?

การแก้ปัญหาแก้มห้อยด้วยการทาครีมจะไม่สามารถช่วยได้ เพราะความหย่อนคล้อยเกิดที่ผิวชั้นลึก ซึ่งครีมจะไม่สามารถสร้างคอลลาเจนได้เพียงพอที่จะลดอาการห้อยของแก้ม ให้กลายเป็นใบหน้าที่เต่งตึงอีกครั้งได้

โดยปัจจัยที่ทำให้หน้าเป็นรูปตัววี เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นไขมันสะสม กล้ามเนื้อกราม ที่ส่งผลให้แก้มห้อย แก้มย้อย รวมไปถึงใบหน้าหย่อนคล้อยตามอายุ หรือเพราะแรงโน้มถ่วง จึงควรเลือกทำหัตถการให้เหมาะกับปัญหา เพื่อแก้ปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อยได้ ดังนี้

วิธี	กลไกการออกฤทธิ์	ความยาวนานผลลัพธ์	ผลลัพธ์	ค่าใช้จ่าย
Thermage	คลื่นวิทยุความถี่สูง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน	12 เดือน	ยกกระชับผิวหน้า ผิวเต่งตึง ริ้วรอยจางลง	เริ่มต้นที่ 40,000 บาท
Ulthera	คลื่นเสียงความถี่สูง ยกกระชับกล้ามเนื้อชั้นใต้ผิว (Focused Ultrasound)	12 เดือน	ยกกระชับใบหน้า กรอบหน้าชัด ริ้วรอยจางลง	เริ่มต้นที่ 30,000 บาท
Filler	สารไฮยาลูโรนิคแอซิด (HA) สารที่เลียนแบบสารธรรมชาติ จะเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องผิว	2 ปี	แก้ไขชั้นกระดูก และไขมันที่หายไป ผิวเต่งตึง กระชับ เปล่งปลั่ง และไม่หย่อนคล้อย
Sculptra	ออกฤทธิ์กระตุ้นเนื้อเยื่อ Collagen, Elastin และ Hyaluronic acid ใต้ผิวหนัง	25 เดือน	แก้ไขผิวชั้นหนังแท้โดยการกระตุ้นคอลลาเจน โครงสร้างของผิวดีขึ้นจากภายใน ผิวกระชับ และชุ่มชื้นขึ้น
Radiesse	ตัวยาจะกระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator เพื่อเติมเต็มผิว	2 ปี	ช่วยให้ดูเด็กลง ผิวกระชับ แน่นเฟิร์ม และผิวแลดูเรียบเนียน ชุ่มชื้นขึ้น
Potenza	ยิงคลื่นความถี่วิทยุเข้าไปใต้ชั้นผิว ด้วยนวัตกรรม Monopolar และนวัตกรรม Bipolar	12 เดือน	ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และช่วยรักษาหลุมสิว
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟ กรอบหน้า	คลายกล้ามเนื้อกรอบหน้า	4-6 เดือน	กรอบหน้าชัด เก็บแก้มห้อย เก็บเหนียง	15,000-30,000 บาท
ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า	ผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อ และผิวหนัง	5-10 ปี	ยกกระชับใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์ยาวนาน แต่เหมือนผิวแก่ที่ถูกขึงให้ตึง ต้องทำ Ulthera ช่วยเสริมด้วย	200,000-400,000 บาท

แก้ปัญหาแก้มห้อย แก้มย้อย ตามสาเหตุ สรุปโดยทีมแพทย์ DSK 

• Filler: แก้ไขชั้นกระดูก และไขมันที่หายไป 
• Ulthera: แก้ไขผิวชั้น SMAS 
• Potenza และ Thermage: แก้ไขชั้นไขมันโดยการยกกระชับ 
• Sculptra, Radiesse, Potenza และ Thermage: แก้ไขผิวชั้นหนังแท้โดยการกระตุ้นคอลลาเจน  

การทำ Thermage

Thermage คือเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงมากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ส่งผ่านหัวทิปพิเศษ ลงสู่ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิว โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ

ข้อดี

• เห็นผลลัพธ์หลังทำ ตั้งแต่เดือนที่ 2 เป็นต้นไป
• ช่วยทำให้ใบหน้ากระชับได้รูป ลดริ้วรอย ลดอาการแก้มห้อย แก้มย้อย
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
• ผลลัพธ์ยาวนาน 1-2 ปี โดยขึ้นอยู่กับการดูแล และสภาพผิว
• ช่วยสลายไขมันในส่วนใบหน้า และเหนียง
• ​ทำบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัวได้

ข้อจำกัด

• อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างทำ
• ผิวอาจแดง หรือบวมเล็กน้อยหลังทำ แต่จะหายไปเองหลังจาก 1-2 ชั่วโมงผ่านไป
• อาจทำให้ผิวไหม้ได้หากแพทย์กำหนดพลังงานความร้อนไม่เหมาะสม ใช้เวลานานเกินไป หรือใช้เครื่อง Thermage ปลอม
• อาจทำให้ใบหน้าเบี้ยว หากพลังงานถูกส่งไปกระทบกับเส้นประสาทบนใบหน้า

การทำ Ulthera

Ulthera คือเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า โดยใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูง (Focused Ultrasound) ส่งผ่านหัวทิปพิเศษ ลงสู่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

ข้อดี

• เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก ประมาณ 30% จากผลลัพธ์ทั้งหมด
• ไม่ต้องพักฟื้น
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 1 ปี
• ไม่มีรอยแผล
• มีความปลอดภัยสูง
• เทคโนโลยีได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

ข้อจำกัด

• อาจเกิดความรู้สึกเจ็บระหว่างทำ โดยระดับความเจ็บแตกต่างกันไป
• อาจมีรอยแดงหลังทำ แต่สามารถหายเองได้ภายใน 1 ชั่วโมง
• อาจมีอาการบวมประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากทำหัตถการแล้ว

Scuptra

Sculptra คือสารกลุ่ม Biostimulator ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นเนื้อเยื่อ Collagen, Elastin และ Hyaluronic acid ใต้ผิวหนัง โดยมีองค์ประกอบคือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่ช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง

ข้อดี

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างต่อเนื่อง
• ช่วยลดการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว ผิวดีขึ้น หน้าดูเด็กลง 
• โครงสร้างของผิวดีขึ้นจากภายใน ผิวกระชับ และชุ่มชื้นขึ้น
• ผลลัพธ์อยู่นานถึง 25 เดือน

ข้อจำกัด

• อาจมีอาการบวม ปวด มีรอยแดงในบริเวณที่ฉีดได้ แต่จะค่อยๆ หายไปเองใน 2-3 วัน 
• ในบางกรณี อาจคลำพบก้อนเล็กๆ ใต้ผิวหนังในช่วงแรก แต่จะค่อยๆ หายไป หลังนวดบริเวณที่ฉีดตามคำแนะนำของแพทย์

Radiesse 

Radiesse เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดสำหรับตัวยากระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator โดยเป็นสารเติมเต็มที่มีความโดดเด่นในเรื่องช่วยย้อนวัย ความกระชับ แน่นเฟิร์ม และความเรียบเนียนของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น แถมยังอยู่ได้นาน เพราะเข้าไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในร่างกายตามธรรรมชาตินั่นเอง 

ข้อดี

• ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับรอยพับบนใบหน้าได้ 
• ช่วยพยุงให้ใบหน้าส่วนบนกระชับขึ้น และช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าส่วนล่าง
• ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสติน เพิ่มความยืดหยุ่น และเรียบเนียนของผิวได้
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี

ข้อจำกัด

• หลังฉีดอาจมีรอยแดงจากเข็ม หรือรอยเขียวช้ำ ถือเป็นอาการปกติ จะหายได้เองใน 1-3 วัน 
• ผิวอาจเปลี่ยนสี เช่น ผิวบริเวณที่ฉีดซีดลง กรณีนี้เป็นผลข้างเคียงที่ผิดปกติ แนะนำให้ไปพบแพทย์ในทันที

Potenza

Potenza เป็นเครื่องเลเซอร์ ที่รวมเอานวัตกรรม Monopolar ในแบบ Thermage และนวัตกรรม Bipolar แบบ Morpheus, Sylfirmx หรือ Infini เข้าไว้ด้วยกันภายในเครื่องนี้เครื่องเดียว โดยมีกระบวนการการทำงาน คือการยิงคลื่นความถี่วิทยุเข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อแก้ไขปัญหาผิว ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้า อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน และรักษาหลุมสิวด้วย

ข้อดี

• ทำได้ทั้งช่วยยกกระชับหน้า ให้ความยืดหยุ่นกับผิว และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
• แพทย์สามารถออกแบบการรักษาด้วยเครื่องนี้ได้อย่างตรงจุด 
• ให้ผลลัพธ์นานกว่า 12 เดือน

ข้อจำกัด

• ต้องอาศัยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการปรับตั้งค่า เพราะเครื่องมีความละเอียด
• อาจมีอาการผิวแดงหลังทำ แต่จะหายไปเองในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
• ผิวอาจมีสะเก็ดเล็กๆ จากรอยเข็ม ทำให้รู้สึกว่าผิวดูสากในช่วงแรกๆ

Filler

Filler คือการฉีดเติมเต็มสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (HA) เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไปตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น สาร HA เป็นสารที่เลียนแบบสารธรรมชาติที่อยู่ในใต้ชั้นผิว จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวด้วยการเติมเต็มร่องริ้วรอย ช่วยให้ผิวเต่งตึง กระชับ เปล่งปลั่ง และไม่หย่อนคล้อย ส่งผลให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นนั่นเอง

ข้อดี

• ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูกระชับขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
• ปลอดภัย เพราะได้รับอย. ไม่ทำให้แพ้ และไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
• เติมใหม่ได้เรื่อยๆ หรือจะฉีดสลายออกก็ได้ ไม่อันตราย
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับยี่ห้อ แต่โดยรวมแล้วจะอยู่ได้นานสุด 2 ปีเลย

ข้อจำกัด

• หลังฉีดอาจมีรอยแดงจากเข็ม แต่จะหายไปเองใน 2-3 วัน 
• อาจมีอาการบวมหลังฉีด แต่สามารถจะหายบวมเองได้ใน 7-14 วัน 

ฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า

โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อคลายการบีบรัดของกล้ามเนื้อ ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ใบหน้าดูเรียวเล็กลง

ข้อดี

• เห็นผลลัพธ์เร็ว ภายในเวลา 1-2 สัปดาห์
• ไม่ต้องพักฟื้น
• ใช้เวลาทำเพียง 30 นาที
• ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ผิวกระชับมากขึ้น
• คุ้มค่ากับราคา

ข้อจำกัด

• ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน
• ต้องฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
• มีส่วนช่วยให้แก้มห้อยหายไปน้อย และไม่ค่อยได้ผลกับการลดความย้อยของแก้ม

ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า

ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า คือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย แก้มย้อย ริ้วรอย ร่องลึก ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น สามารถทำได้ด้วยการตัดหนังส่วนเกินออก แต่หนังเดิมยังไม่มีความยืดหยุ่นขึ้น จึงควรทำหัตถการที่สร้างคอลลาเจนด้วย แต่การผ่าตัดก็จะจำเป็นในกรณีที่หนังส่วนเกินมีเยอะมากๆ

ข้อดี

• แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
• ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นานหลายปี หรืออาจจะอยู่ถาวร

ข้อจำกัด

• มีการผ่าตัด ต้องพักฟื้น
• อาจมีรอยแผลเป็น จึงไม่เหมาะกับคนที่เสี่ยงมีแผลเป็นง่าย
• อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม ช้ำ เลือดออก 

ทำไมต้องรักษาแก้มห้อย แก้มย้อย ที่ DSK Clinic

DSK Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน มั่นใจได้ว่าใช้ยาแท้ มีอย.ประกอบ มีเครื่องยกกระชับคุณภาพชั้นนำ พร้อมทีมคุณหมอที่มากประสบการณ์ เป็นหนึ่งในไม่กี่คลินิกของไทย ที่ผ่านการเทรนเทคนิค หลายทวีป ทั้งจาก Global และ Asia Pacific Trainer นำมาปรับใช้กับเทคนิคของ DSK และปรับให้เหมาะกับปัญหาแต่ละคน 

ซึ่งจุดเด่นของ DSK Clinic มีดังนี้

• ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ของเรามีประสบการณ์สูง และเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างใบหน้าโดยตรง วิเคราะห์ปัญหาอย่างละเอียด ออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
• เทคโนโลยีครบครัน DSK Clinic มีเครื่องมือยกกระชับที่ได้มาตรฐานระดับโลก เช่น Ulthera, ThermageFLX, Potenza, Sculptra, Radiesse, Filler และ Botox ที่แพทย์สามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้เข้ารับบริการ
• เทคนิคพิเศษ DSK Clinic มีเทคนิคเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร เช่น เทคนิค ABI Technique เทคนิค Advance CMS (Custom Multi-Direction Simulation) เน้นเข้าใจสาเหตุของปัญหาลึกถึงระดับกายวิภาค เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้ยาน้อยกว่า แต่ผลออกมาสวยที่สุด
• ความปลอดภัยสูง DSK Clinic ใช้ยาแท้ มีอย. เครื่องมือมีมาตรฐาน USFDA US อัปเดตเทคนิคการรักษา และงานวิจัยจากทั่วโลก
• ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ DSK Clinic ได้รับรางวัลจากบริษัท Filler พรีเมียมระดับโลกอย่าง Restylane และ Belotero (Top 10 ระดับประเทศ)

Inbox : https://m.me/DSKclinic 

Line : @dskinclinic หรือคลิก https://lin.ee/K0Itr6 

สรุป

แก้มห้อย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ส่งผลต่อรูปลักษณ์ และความมั่นใจ เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น อายุที่มากขึ้น คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแอ ไขมันสะสม และแรงโน้มถ่วง วิธีการรักษาปัญหาแก้มห้อยที่เกิดจากกระดูกยุบ ก็สามารถเติมได้ด้วยฟิลเลอร์ แต่ถ้าหากเป็นปัญหาจากผิวหนังส่วนเกิน ก็จะมีวิธีแก้อยู่ด้วยกัน 4 วิธีคือ Thermage ที่เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ปัญหาแก้มห้อย Ulthera เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูง ที่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ดีเช่นกัน การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีงบเริ่มต้นน้อย และศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า ที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่คงทนอยู่นาน ซึ่งที่ DSK Clinic ก็จะมีแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ที่ทันสมัย เหมาะกับการรักษาอาการแก้มห้อยย้อยให้กลับมาดูดีได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาแก้มห้อย แก้มย้อย (FAQ)

บทความนี้ได้รวบรวมคำถามเกี่ยวกับการรักษาแก้มห้อย แก้มย้อยที่หลายคนสงสัยกันอยู่บ่อยๆ พร้อมคำตอบมาให้ได้คลายความสงสัยกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

1. Ulthera คืออะไร ย้อนวัยผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ไม่ต้องผ่าตัดทำอย่างไร?
2. อัปเดต! ทำ Ulthera ที่ไหนดี ต้องเลือกที่อะไรถึงได้ผล และไม่โดนหลอก
3. คัมภีร์ เปรียบเทียบ Ulthera กับ เครื่องยกกระชับ 5 ตัวท็อป
4. เจาะลึก Thermage คืออะไร ยกกระชับหน้า ดีหรือไม่? เครื่องไหนดีที่สุด
5. ไขข้อข้องใจ Thermage ราคาเท่าไร ทำที่ไหนดี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ