คุณหมอขอสรุป ยกกระชับผิวหนังชั้น SMAS ได้อย่างไร ? ชั้นผิวหนังประกอบด้วยชั้นหลัก 3 ชั้นได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และ ชั้นไขมัน SMAS ย่อมาจาก Superficial Musculo Aponeurotic System เป็นชั้นเนื้อเยื่อแผ่นบางๆ มีเส้นใยคอลลาเจนอยู่รวมกันเป็นพังผืดเหนียวๆ คั่นอยู่ระหว่างชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งชั้นนี้จะเชื่อมตั้งแต่กล้ามเนื้อไปถึงชั้นผิวหนังด้านบนทำให้การยกชั้น SMAS จะยกผิวได้ทุกชั้น และเป็นชั้นหลักที่ใช้ในการศัลยกรรม Ulthera จะสามารถส่งคลื่นอัลตราซาวนด์ ที่มีความจำเพาะเจาะจง ผ่านผิวหนังได้ลงไปลึกถึงชั้น SMAS โดยเป็นเครื่องเดียวที่ทำได้ในปัจจุบันเพราะสามารถมองเห็น SMAS ที่ความลึกในแต่ละคนไม่เท่ากัน ได้แบบ Real time Thermage จะเป็นการใช้พลังงานความร้อนซึ่งเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียวลงไปลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง SMAS lift เทคนิคเฉพาะที่ DSK Clinic พัฒนามาเพื่อวิเคราะห์ปัญหาของคนไข้อย่างตรงจุด ใช้เทคนิคยิงเข้าถึงชั้น SMAS อย่างแม่นยำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าเงินที่สุด พร้อมทั้งการวางแผนการปรับรูปหน้าและโครงสร้างผิวด้วยโปรแกรม Filler and lifting excellence Focus จึงช่วยให้แก้ปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตามผลลัพธ์การทำ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุด

เชื่อว่าผิวพรรณที่หย่อนคล้อยสร้างความหนักใจให้ใครหลายๆ คนไม่น้อย ซึ่งการที่ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ผิวพรรณที่ห้อยย้อย ทำให้สูญเสียความมั่นใจ สำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนวัยให้กลับคืนมาแต่ก็กลัวการผ่าตัดดึงหน้า ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยียกกระชับที่ช่วยแก้ไขความหย่อนคล้อย และยังช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดี ดูสวยสดใสอ่อนวัยมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ได้แก่ Ulthera และ Thermage แล้วทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร ตามไปดูกันได้เลย

ทำความเข้าใจ ผิวหนังมีกี่ชั้น?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าผิวหนังมีกี่ชั้น โดยปกติแล้วชั้นผิวหนังของคนเราจะประกอบด้วยชั้นหลัก 3 ชั้นได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และ ชั้นไขมัน โดยที่

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นของผิวหนังที่ปกคลุมอยู่ด้านบนสุด ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งป้องกันร่างกายจากสภาวะต่างๆ เช่น แสงแดด ฝุ่นควัน มลพิษ เซลล์มีการสร้างและตายหลุดลอกออกจากร่างกายอยู่ตลอดเวลา 
2. ชั้นหนังแท้ (Dermis) ถัดจากชั้นหนังกำพร้าคือชั้นหนังแท้ ถือว่าเป็นชั้นที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างของผิวอย่างมาก มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือคอลลาเจน อิลาสติน และ Hyaluronic acid มีหน้าที่ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนแรงยืดผิวหนังได้ ช่วยปกป้องและห่อหุ้มร่างกายจากอันตราย ช่วยอุ้มน้ำเพื่อควบคุม และรักษาสมดุลความร้อนของร่างกาย นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วยเส้นเลือด เส้นประสาทมากมาย จึงทำให้เรารับรู้ความรู้สึกต่างๆ เช่น เจ็บปวด ร้อน เย็น เป็นต้น
3. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat) เป็นชั้นที่ลึกที่สุดของโครงสร้างผิวหนัง อยู่ถัดมาจากชั้น Dermis มีส่วนประกอบสำคัญคือ Fat Cells ความหนาจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่แตกต่างกันของแต่ละคน ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสะสมภายในร่างกาย ช่วยปกป้องอวัยวะภายในต่างๆ และทำให้ร่างกายอบอุ่น เมื่อคนเราอายุมากขึ้นไขมันในชั้น Subcutaneous มักจะลดลงไปด้วย

ถัดจากชั้นไขมันใต้ผิวหนังจะเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่ใช้แสดงอารมณ์ทางใบหน้า ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้า โดยมีเนื้อเยื่อปกคลุมด้านบนสุดของชั้นกล้ามเนื้อเรียกว่า SMAS  (Superficial Musculo Aponeurotic System) หากเปรียบชั้นผิวหนังของเราเหมือนบ้านหนึ่งหลังก็จะเห็นว่าชั้นผิวหนังเปรียบเสมือนหลังคาบ้าน เป็นด่านแรกที่ช่วยปกป้องตัวบ้านจากอันตรายต่างๆ ชั้นไขมันก็คล้ายกับเป็นฉนวนกันความร้อน ในส่วนของชั้น SMAS  ถือเป็นชั้นสำคัญ เป็นโครงสร้างหลักของใบหน้าที่ช่วยยึดเหนี่ยวชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเอาไว้ คล้ายกับโครงสร้างบ้าน ซึ่งหากโครงสร้างบ้านขาดความแข็งแรงก็จะทำให้บ้านทั้งหลังทรุดตัวลง เหมือนกับผิวหนังหากโครงสร้างนี้เสื่อมสภาพก็จะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยไปด้วยนั่นเอง

ผิวหนังชั้น SMAS คืออะไร

SMAS  ย่อมาจาก Superficial Musculo Aponeurotic System ซึ่งชั้น SMAS คือ ชั้นเนื้อเยื่อแผ่นบางๆ ที่มีเส้นใยคอลลาเจนอยู่รวมกันเป็นพังผืดเหนียวๆ คั่นอยู่ระหว่างชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อ เป็นชั้นที่มีความแข็งแรงมาก เปรียบเสมือนเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับใบหน้า 

SMAS มีความสำคัญอะไร

SMAS คือ ชั้นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความกระชับเต่งตึงของใบหน้า เมื่อ SMAS เสื่อมสภาพ เกิดการหย่อนยานจะส่งผลทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย มีริ้วรอย เกิดร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เหนียงใต้คาง ชั้นนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความหย่อนคล้อยของผิว เป็นชั้นที่แพทย์ทำการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ถ้านึกภาพไม่ออกหมอแนะนำให้จินตนาการตอนเราปูผ้าปูเตียง ถ้าเรายิ่งขึงผ้าปูเตียงให้ตึงเท่าไหร่ เราก็ได้ภาพรวมเป็นเตียงที่เรียบเนียนน่านอนเท่านั้น เช่นเดียวกับ SMAS หากเราดึงเนื้อเยื่อส่วนนี้ให้ตึง ก็จะส่งผลทำให้ผิวหนังด้านบนทั้งหมดถูกดึงยกกระชับ เต่งตึงขึ้นไปด้วย 

Ulthera คืออะไร มีการทำงานกับผิวหนังชั้น SMAS อย่างไร

Ulthera คืออะไร ย้อนวัยผิว ยกกระชับหน้าเด็ก โดยใช้เทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีหลักการทำงาน คือการยิงคลื่นอัลตราซาวนด์ ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความจำเพาะเจาะจง ผ่านผิวหนังลงไปลึกถึงชั้น SMAS  ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับชั้นที่ผ่าตัดดึงหน้า การยิงรักษาจะยิงลักษณะเป็นจุดไข่ปลาขนาดเล็ก  1 mm เรียงเป็นแนวเส้นตรงอย่างสม่ำเสมอ มีระยะห่างเท่าๆ กัน ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ความร้อนจะทำให้เส้นในคอลลาเจนเกิดการหดตัวและจัดเรียงตัวใหม่ มีความแน่นมากขึ้น โดยไม่ทำให้ผิวหนังด้านบนเกิดความเสียหาย และยังช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงให้ผลยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวอิ่มฟู เต่งตึงขึ้น แลดูอ่อนกว่าวัย โดยให้ผลยกกระชับใบหน้าคล้ายกับการผ่าตัดดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

Thermage คืออะไร สามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้น SMAS ได้หรือไม่

Thermage คือนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย มีหลักการทำงานโดยการยิงพลังงานความร้อนซึ่งเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Capacitive Monopolar Radiofrequency, CRF) อุณหภูมิอยู่ที่ 40-50°C พลังงานความร้อนจะลงไปลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง(Subcutaneous) การยิงจะยิงเป็นก้อนพลังงานขนาด 3-4 cm² เป็นวงกว้าง จึงครอบคลุมพื้นที่มากกว่าการยิงเป็นจุดเล็กๆ พลังงานความร้อนจะทำให้โมเลกุลของน้ำแยกตัวออกจากเส้นใยคอลลาเจนและทำให้คอลลาเจนหดตัวในทันที ส่งผลทำให้ผิวจึงตึงกระชับขึ้น การทำเทอร์มาจยังช่วยให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้นและมีการจัดเรียงตัวใหม่ จึงทำให้ผิวมีความกระชับ เรียบเนียน ริ้วรอยลดลง รูขุมขนกระชับ และยังช่วยสลายไขมันสะสมได้ด้วย สามารถเห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 20%  และสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 1-2 ปี

 แต่หมอคงต้องบอกว่าแม้ว่าเทอร์มาจจะช่วยในเรื่องของการยกกระชับ แต่พลังงานส่งไปถึงแค่ชั้นหนังแท้ ไม่สามารถลงลึกไปจนถึงชั้น SMAS  คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากๆ การใช้วิธีนี้จึงยังไม่ได้ผลลัพธ์การยกกระชับเหมือนกับการทำอัลเทอร่าซึ่งสามารถส่งพลังงานลงไปลึกจนถึงชั้น SMAS 

เปรียบเทียบ Ulthera กับ Thermage เลือกตัวไหนดี?

Ulthera และ  Thermage ต่างเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขผิวที่หย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับผิวให้กลับมาเต่งตึง กระชับ เรียบเนียนขึ้น และลดเลือนริ้วรอย ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ แต่จะเลือกทำแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล 

ข้อดี

ข้อดีของ Ulthera และ Thermage สามารถจำแนกและสรุปได้ ดังนี้

Ulthera

โดยการทำ Ulthera มีข้อดี ดังต่อไปนี้

• เป็นเครื่องเดียวที่สามารถยิงลึกไปถึงชั้น SMAS ดังนั้นจึงให้ผลการยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพคล้ายกับการผ่าตัดดึงหน้า
• มีระบบการสแกนและมองเห็นใต้ผิวซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของอัลเทอร่า แพทย์สามารถติดตามการรักษาและมองเห็นชั้นผิวแบบ Real time ผ่านทางจอแสดงผล จึงสามารถยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ ตรงจุดที่มีปัญหา และปลอดภัย โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อใกล้เคียง
• เนื่องจาก SMAS เป็นชั้นที่ความลึกไม่แน่นอน ในแต่ละคน จึงจำเป็นต้องมีระบบการมองเห็น Ulthera จึงเป็นเครื่องเดียวที่ทำได้ในปัจจุบัน 
• เป็นการยกกระชับโดยใช้เครื่องมือ จึงไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่มีแผลผ่าตัดหลังทำการรักษา
• เครื่องมือที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ในด้านการยกกระชับมีความปลอดภัยสูงและมีการนำมาใช้งานในวงการแพทย์อย่างแพร่หลายทั่วโลก
• ให้ผลการกระตุ้นคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนัง จึงทำให้ผิวพรรณดูเรียบเนียน เต่งตึง
• สามารถทำได้หลายส่วนในร่างกาย  เช่น ลำคอ ต้นแขน หน้าท้อง เป็นต้น
• หลังทำไม่เกิดแผล ไม่เกิดอาการผิวไหม้ หรือบวมช้ำ จึงสามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องพักฟื้น และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 1-1.5 ปี จึงไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ
• สามารถเห็นผลการยกกระชับได้ทันทีประมาณ 20% และจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังทำ 1-3 เดือน

Thermage

การทำ Thermage มีข้อดีดังนี้

• Thermage จะเก่งในผิวชั้นตื้น หรือชั้นหนังแท้หรือ Dermis 
• การกระตุ้นชั้น Dermis จะเด่นที่ผิวแน่น กระชับ เรียบเนียน
• ในคนอายุมาก ทั้ง SMAS และ Dermis จะมีการสูญเสียคอลลาเจน การทำทั้ง Ulthera และ Thermage ร่วมกันจึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากการกระตุ้นผิวคนละชั้นกัน 
• Thermage เด่นเรื่องการกระชับ และ สลายไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณส่วนต่างๆ เช่น ใบหน้า แก้ม เหนียงได้ดี ปรับใบหน้าให้ดูเรียวเล็กลง เป็นต้น ทั้งนี้การสลายไขมัน หรือเพียงกระชับ ขึ้นกับระดับพลังงานที่ใช้ 
• สามารถทำได้หลายส่วนทั้งบริเวณใบหน้าและทั่วร่างกาย รวมทั้งรอบดวงตา
• หลังทำไม่มีแผล ไม่เกิดอาการบวม จึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น
• ใช้เวลาในการทำไม่นานประมาณ  40-90 นาทีเท่านั้น
• สามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงหลังทำประมาณ 20%  และจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนประมาณ 1-3 เดือนหลังทำ
• ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี จึงไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละคนด้วย

ข้อเสีย

ข้อเสียของ Ulthera และ Thermage สามารถจำแนกและสรุปได้ ดังนี้

Ulthera

การทำ มีข้อที่ต้องคำนึงถึงดังนี้

• ในคนไข้บางรายหลังทำอาจพบรอยแดงบริเวณที่ทำและจะหายไปได้เอง
• ผลลัพธ์ของ Ulthera ขึ้นกับฝีมือของแพทย์ เพราะอาศัยการเล็งเป้า และความแม่นยำในการยิงสูง เพราะ Ulthera ไม่ใช่ระบบออโต้ แต่อาศัยแพทย์ในการควบคุมเพื่อให้เห็นผล 
• การยิง Ulthera ผิดชั้น เกิดขึ้นได้หากแพทย์ไม่มีความชำนาญในดู SMAS ผ่านภาพ Ultrasound หรือเทคนิคการทำไม่ดีพอ จึงควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ  
• เป็นหัตถการที่มีราคาสูง แต่ผลลัพธ์คุ้มค่า หากมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำ 

Thermage

การทำ Thermage มีข้อที่ต้องคำนึงถึงดังนี้

• ในคนไข้บางราย หลังทำอาจพบรอยแดงบริเวณที่ทำ และจะหายไปได้เอง
• ผลลัพธ์ของ Thermage  ขึ้นกับฝีมือของแพทย์ ในการดีไซน์รูปหน้า ดีไซน์จำนวนชอต และการกำหนดระดับพลังงาน เพราะบางบริเวณต้องการจำนวนพลังงานมาก บางบริเวณไม่ควรใช้พลังงานมาก ซึ่งแพทย์ต้องมีประสบการณ์ และเข้าใจหลักการของเครื่อง และการดีไซน์ใบหน้า
• เป็นหัตถการที่มีราคาสูง แต่ผลลัพธ์คุ้มค่า หากมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำ 

เหมาะกับใคร

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำ Ulthera หรือ Thermage ดี? ลองดูบทสรุปของทั้งสองอย่าง ว่าหัตถการใดเหมาะกับปัญหาของเรามากที่สุด

Ulthera

Ulthera เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหา ดังนี้

• ผิวหย่อนคล้อย ต้องการการยกขึ้นของผิว ลดการตก การย้วยของผิว ตามแรงโน้มถ่วง
• มีเหนียง คางสองชั้น ซึ่งอาจเกิดจาก SMAS ที่หย่อน (Ulthera ได้รับ USFDA เรื่องหดเหนียงด้วย)
• ต้องการยกคิ้ว หรือป้องกันความหย่อนคล้อยของคิ้ว  (Ulthera ได้รับ USFDA เรื่องการยกคิ้วด้วย)
• ต้องการกรอบหน้าที่ชัด เต่งตึง แบบธรรมชาติ 
• ป้องกัน และชะลอการแก่ของผิว ความหย่อนคล้อยของผิว ตามธรรมชาติ 
• นอกจากบริเวณลำตัว Ulthera ยังสามารถทำกระชับผิวบริเวณคอ และยังได้รับการรับรองเรื่องการรักษาริ้วรอยบริเวณเนินอก และการยกกระชับหน้าอกอีกด้วย 
• สามารถปรับเป็นหัวตื้น เพื่อลดขนาดรูขุมขน ลดหน้าแดง หรือใช้รักษาหลุมสิวได้ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เนื่องจากต้องแบ่งจำนวน Line ให้เพียงพอ หรือเพิ่มจำนวน Line ให้ครอบคลุมปัญหา หรืออาจมีเครื่องมีอื่นที่เหมาะสมกว่าขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ 

Thermage

Thermage เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหา ดังนี้

• เหมาะกับผู้ที่มีผิวด้านบนหลวม ยืด คืนตัวไม่ดี 
• มีความเสียหายของผิวชั้นบน มีริ้วรอยเล็กๆ และความไม่กระชับ ไม่แน่นของผิว
• มีไขมันเยอะ ต้องการหดกระชับไขมัน ใบหน้า ใต้คาง เหนียงเยอะ มีคางสองชั้น ยิ้มแล้วหน้าอูม ต้องการสลายไขมัน เพิ่มความชัดของกรอบหน้า
• มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน หลังมือ หน้าท้อง สะโพก ผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์บริเวณต้นขาและก้น คุณแม่หลังคลอดและผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วมีปัญหาผิวหน้าท้องหย่อนคล้อย ต้องการเพิ่มความกระชับเรียบเนียนขึ้น
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียน สดใส กระชับรูขุนขน แลดูอ่อนกว่าวัย

บริเวณที่ทำได้

Ulthera และ Thermage ต่างก็เป็นเทคโนโลยียกระชับผิวเหมือนกัน แต่ก็มีบริเวณที่ควรเลือกทำต่างกันเล็กน้อย ดังนี้

Ulthera

Ulthera ก็สามารถทำได้หลายตำแหน่งทั่วทั้งใบหน้า รวมไปถึงบริเวณใต้คาง เหนียง ลำคอ ส่วนของลำตัวก็สามารถทำได้อย่าง เนินอก รวมถึงบริเวณอื่นๆตามแพทย์พิจารณา

Thermage

ส่วน Thermage สามารถทำได้ทั้งทุกบริเวณใบหน้าและลำตัว ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า ลำคอ เหนียง กรอบหน้า ส่วนบริเวณลำตัวก็สามารถทำได้ทั้งลำตัว บริเวณที่หย่อนคล้อยหรือไขมันสะสม เช่น ท้องแขน หน้าท้อง สะโพก หน้าหน้าท้องหลังคลอด เป็นต้น โดย Thermage ยังหัวพิเศษสำหรับทำบริเวณเปลือกตา และลำตัว อีกด้วย

ทำ Ulthera และ Thermage ที่ DSK Clinic ดีกว่าที่อื่นอย่างไร?

การทำอัลเทอร่า และเทอร์มาจ ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป นอกจากคลินิกที่ใช้เครื่องแท้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเท่านั้น ยังต้องทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญในศาสตร์ของการยกกระชับใบหน้า เพื่อที่จะเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับปัญหา นอกจากนั้นยังต้องสามารถใช้งานอัลเทอร่า และเทอร์มาจได้แบบเชี่ยวชาญและเข้าใจ เพราะถึงแม้จะยิงเป็นจำนวนมาก แต่ถ้ายิงผิดชั้น ก็อาจไม่เกิดผลลัพธ์ตามต้องการได้

ที่ DSK Clinic  มีเทคโนโลยี SMAS Lift เป็นวิธีการเฉพาะของคลินิกที่ให้ผลลัพธ์เหนือกว่า โดยการวิเคราะห์ด้วยระบบสแกน ช่วยให้แพทย์ระบุตำแหน่ง SMAS ได้แม่นยำ อีกทั้งทีมแพทย์ได้ปรับแผนการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เพื่อประสิทธิภาพที่สูงกว่าที่อื่น เมื่อเทียบกับจำนวนการยิงที่เท่ากัน นอกจากนี้ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังมีประสบการณ์สูงจากการรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก และได้รับการรับรองจากบริษัทผู้นำเข้าอัลเทอร่า และเทอร์มาจ ที่ได้รับรางวัลยอดการใช้งานระดับต้นๆ ของประเทศ

* ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

* ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว

ช่องทางการติดต่อ DSK Clinic

DSK Clinic มีทีมแอดมินคอยแนะนำ และให้คำปรึกษาฟรี แอดไลน์ปรึกษา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้

สอบถาม จองคิวปรึกษาแพทย์

ADD LINE OFFICIAL ACCOUNT

Facebook: https://www.facebook.com/dsk.clinic/ 

Instagram: https://www.instagram.com/dsk.clinic/ 

YouTube: https://www.youtube.com/@dskclinic 

TikTok: https://www.tiktok.com/@dskclinic
ติดตามโปรโมชั่นอื่นๆ ได้ที่นี่ https://dskclinic.com/promotion/

สรุป

ชั้นผิวหนังของคนเราประกอบด้วยชั้นหลัก 3 ชั้นได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน ซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกันไป โดยชั้นที่มีความสำคัญต่อความอ่อนวัย และความกระชับของผิวเรียกว่าชั้น SMAS โดยชั้น SMAS คือเนื้อเยื่อที่คั่นอยู่ระหว่างชั้นไขมันและชั้นกล้ามเนื้อ เมื่อชั้นนี้เกิดการเสื่อมสภาพ จะส่งผลทำให้ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อยไปด้วย การทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าแพทย์จึงทำการผ่าตัดในชั้นนี้เพื่อให้ได้ผิวที่ตึงกระชับ 

สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแต่ไม่อยากเจ็บตัวจากการผ่าตัด ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวโดยใช้เครื่องมือต่างๆ อย่าง Ulthera และ Thermage แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ ก็มีความแตกต่างกันดังนี้

• Ulthera ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ เจาะลึกถึงชั้น SMAS ให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนกว่า เหมาะกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่มากกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
• Thermage ใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง เน้นการกระชับและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว มีความเจ็บปวดน้อยกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า เหมาะสำหรับการบำรุงและป้องกัน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ulthera และ Thermage (FAQ)

หมอรวมมาให้แล้วกับคำถามที่พบบ่อย พร้อมทั้งมีคำตอบมาไขข้อสงสัยดังนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

1. Ulthera คืออะไร ย้อนวัยผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ไม่ต้องผ่าตัดทำอย่างไร?
2. คัมภีร์ เปรียบเทียบ Ulthera กับ เครื่องยกกระชับ 5 ตัวท็อป
3. อยากหน้าเด็ก ลงทุนกับอะไรดี Sculptra vs Ulthera
4. อัปเดต! ทำ Ulthera ที่ไหนดี ต้องเลือกที่อะไรถึงได้ผล และไม่โดนหลอก
5. เจาะลึก Thermage คืออะไร ยกกระชับหน้า ดีหรือไม่? เครื่องไหนดีที่สุด