- Blog
- September 10, 2025
โปรแกรม XERF คืออะไร? เจาะลึกนวัตกรรมยกกระชับใหม่

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
ในยุคที่นวัตกรรมความงามพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การมองหาเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด กลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีกับเทคโนโลยีการยกกระชับอย่างโปรแกรม Ulthera โปรแกรม ThermageFLX และโปรแกรม Oligio รวมถึง OligioX แต่ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามอง นั่นคือโปรแกรม XERF บทความนี้หมอจะชวนไปทำความรู้จักกับโปรแกรม XERF คืออะไร มีหลักการทำงานที่โดดเด่นอย่างไร และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ แล้วมีความแตกต่างกันในด้านใดบ้าง
ทำความรู้จักโปรแกรม XERF เทคโนโลยี เพื่อการยกกระชับ

โปรแกรม XERF คือเทคโนโลยียกกระชับผิวและสลายไขมันส่วนเกิน ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Cynosure Lutronic ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเลเซอร์ระดับโลก จากอเมริกาและเกาหลีใต้ (เป็นการควบรวมของบริษัทยักษ์ใหญ่จากสองประเทศ) โดยจัดอยู่ในกลุ่มพลังงานคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency) เช่นเดียวกับโปรแกรม ThermageFLX โปรแกรม Oligio และโปรแกรม OligioX ที่มีความโดดเด่นด้วยการใช้ระบบ Dual-Frequency คือการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่ 6.78 MHz และ 2 MHz สลับกัน ทำให้เครื่อง XERF สามารถส่งผ่านพลังงานความร้อนลงไปใต้ชั้นผิวได้อย่างแม่นยำและครอบคลุมถึง 3 ระดับความลึกที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ส่วนบน ชั้นกลาง ไปจนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดระเบียบโครงสร้างผิวได้อย่างทั่วถึงในครั้งเดียว
หลักการทำงานของโปรแกรม XERF
หลักการทำงานของโปรแกรม XERF คือการส่งพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ลงไปสร้างความร้อนในชั้นผิวลึกอย่างสม่ำเสมอ ความร้อนที่เกิดขึ้นจะส่งผล 2 ประการหลัก คือ
- ทำให้เส้นใยคอลลาเจนเดิมที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัวในทันที ส่งผลให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ
- กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ให้สร้างเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ในระยะยาว ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โปรแกรม XERF จึงเป็นการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน
โปรแกรม XERF สามารถปรับได้ 3 ระดับ

โปรแกรม XERF ถูกออกแบบมาให้สามารถส่งพลังงานลงไปจัดการปัญหาผิวได้ถึง 3 ชั้นความลึกที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถออกแบบการรักษาได้อย่างจำเพาะเจาะจงในแต่ละบริเวณ
- ระดับผิวชั้นบน (Shallow Mode) : พลังงานจะถูกส่งไปที่ผิวหนังชั้นตื้น เพื่อกระตุ้นการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่โดยตรง เหมาะสำหรับการฟื้นฟูความยืดหยุ่นและคืนความแน่นกระชับให้ผิวชั้นนอก
- ระดับชั้นกลาง (Middle Mode) : กำหนดเป้าหมายที่ชั้นไขมันส่วนบนและผิวหนังแท้ เพื่อช่วยปรับโครงสร้างผิวให้มีความหนาแน่นและแข็งแรงขึ้น เหมาะสำหรับแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยระดับกลาง
- ระดับชั้นลึก (Deep Mode) : ใช้คลื่นพลังงานแบบผสมผสาน (6.78MHz + 2MHz) ส่งลงไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อจัดการปัญหาความหย่อนคล้อยจากโครงสร้างภายใน มอบผลลัพธ์ด้านการยกกระชับใบหน้าที่ชัดเจน
จุดเด่นของโปรแกรม XERF ที่แตกต่างจากเครื่องอื่น
โปรแกรม XERF โดดเด่นด้วยการเป็นนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อการยกกระชับและฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลลัพธ์การรักษาที่ชัดเจน โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างจากเครื่องมืออื่น ดังนี้
- ผสมผสาน 2 คลื่นความถี่ 6.78 MHz และ คลื่นความถี่ 2 MHz ช่วยปรับปรุงผิวครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน ทั้งกระตุ้นคอลลาเจน และยกกระชับและสลายไขมันส่วนเกิน
- Wave Fit™ Pulse Technology เป็นเทคโนโลยีการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุแบบเฉพาะตัวที่ปรับให้เหมาะกับความต้านทานของผิวในแต่ละบริเวณ ทำให้พลังงานถูกส่งลงไปได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง
- Integrated Cryogen Delivery (ICD) ระบบปล่อยความเย็นระหว่างทำหัตถการ ที่ช่วยปกป้องผิวชั้นบนจากความร้อนและลดความเจ็บปวดขณะทำหัตถการ ทำให้คนไข้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา และยังช่วยลดอาการบวมแดงหลังทำ
- Spider Web Pattern Tip หัวทิปที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 50% ช่วยให้กระจายพลังงานได้อย่างทั่วถึง และมีระบบตรวจจับแรงต้านของผิว ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิปัญหาผิวไหม้ตามมา
การทำโปรแกรม XERF ช่วยเรื่องใดบ้าง
หลักการทำงานหลัก ๆ ของทำโปรแกรม XERF คือการส่งพลังงานลงไปในหลายระดับชั้นผิว ทำให้การทำโปรแกรม XERF สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมและหลากหลาย
ยกกระชับ
พลังงานของโปรแกรม XERF ที่ลงไปถึงชั้นผิวลึก จะช่วยจัดการกับปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด ความร้อนที่เกิดขึ้นจะเข้าไปฟื้นฟูและจัดเรียงโครงสร้างคอลลาเจนใต้ผิวที่เคยอ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงและยืดหยุ่นอีกครั้ง ส่งผลให้ผิวบริเวณแก้ม ร่องแก้ม และใต้คางที่เคยหย่อนคล้อยกลับมายกกระชับขึ้น ใบหน้าโดยรวมจึงดูได้รูปและอ่อนเยาว์ลง การทำโปรแกรม XERF จึงช่วยเข้าไปซ่อมแซมโครงสร้างผิวจากภายในสู่ภายนอก
กรอบหน้าคมชัด
หนึ่งในปัญหาที่มักมาพร้อมกับวัยคือกรอบหน้าที่เริ่มไม่คมชัดและปัญหาเหนียงใต้คาง การทำงานของโปรแกรม XERF ไม่เพียงแต่ช่วยยกกระชับผิว แต่ยังสามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยสลายไขมันส่วนเกินสะสมได้อีกด้วย เมื่อไขมันลดลงร่วมกับการที่ผิวหนังกระชับขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือกรอบหน้าที่ดูคมชัดขึ้น แนวสันกรามเด่นชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติมากกว่าเดิม โปรแกรม XERF จึงช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งในเรื่องของผิวและไขมันไปพร้อมกัน
ฟื้นฟูคอลลาเจน
คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และเต่งตึง เป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความแน่นกระชับและดูอ่อนเยาว์ ซึ่งการทำโปรแกรม XERF ถือเป็นการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติของร่างกาย พลังงานความร้อนจากโปรแกรม XERF จะเป็นสัญญาณไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ตื่นตัวและทำงาน เพื่อสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาทดแทนของเก่าที่เสื่อมสภาพไปตามวัย ช่วยให้ผิวที่ดูอิ่มฟู แน่น และมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ริ้วรอยลดลง
เมื่อผิวได้รับการฟื้นฟูและมีปริมาณคอลลาเจนที่หนาแน่นขึ้น โครงสร้างผิวจะแข็งแรงและสามารถพยุงตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยเล็ก ๆ และร่องตื้นต่าง ๆ ดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวจะมีความเรียบเนียนและดูสดใสขึ้น การทำโปรแกรม XERF จึงไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องการยกกระชับ แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ดีขึ้น ลดสัญญาณแห่งวัยที่มองเห็นได้จากภายนอก
สลายไขมันใต้คาง
โปรแกรม XERF จัดการปัญหาเหนียงและไขมันใต้คางอย่างตรงจุด ด้วยการใช้คลื่นความถี่ 2 MHz ที่สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ พร้อมกันนั้นคลื่น 6.78 MHz จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวบริเวณใต้คางและกรอบหน้ากระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ช่วยปรับมิติกรอบหน้าที่คมชัดและเรียวขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องเหนียงและผิวไม่กระชับ
เปรียบเทียบชัด ๆ โปรแกรม XERF vs โปรแกรม Ulthera vs โปรแกรม Thermage vs โปรแกรม OligioX vs โปรแกรม Oligio และ โปรแกรม Onda Pro

เพื่อให้เห็นภาพรวมถึงความโดดเด่นของโปรแกรม XERF และเข้าใจความแตกต่างของเทคโนโลยียกกระชับและสลายไขมันในปัจจุบันแบบต่าง ๆ หมอขอนำโปรแกรม XERF มาเปรียบเทียบกับโปรแกรมชั้นยกกระชับอื่น ๆ อย่าง โปรแกรม Ulthera โปรแกรม Thermage โปรแกรม Oligio และ โปรแกรม Onda Pro เพื่อให้เห็นภาพรวมและเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
ด้านเทคโนโลยีที่ใช้
โปรแกรม XERF โปรแกรม Thermage โปรแกรม Oligio และโปรแกรม OligioX ใช้เทคโนโลยีเดียวกันคือ คลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ซึ่งเน้นการส่งพลังงานความร้อน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในวงกว้าง ในขณะที่โปรแกรม Ulthera ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างออกไป คือ คลื่นอัลตราซาวนด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (MFU-V) ซึ่งจะส่งพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ ที่มีความแม่นยำสูงลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับผิว
ดังนั้นหากต้องการกระตุ้น SMAS เป็นหลักเพื่อ “ยกหน้า” ต้องยกให้โปรแกรม Ultherapy ซึ่งความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำหัตถการ และเล็งเป้าหมายพลังงานร่วมด้วย
แต่หากต้องการกระตุ้นคอลลาเจนในผิวหนังให้หดเฟิร์มแน่น และคอลลาเจนในไขมันกระชับ หน้าหดเฟิร์มไม่หลวม กลุ่มคลื่นวิทยุเช่น โปรแกรม Thermage, โปรแกรม Oligio, โปรแกรม OligioX และโปรแกรม XERF จะเหมาะสมกว่า
โดยถ้าเทียบในกลุ่มคลื่นวิทยุด้วยกัน โปรแกรม OligioX และโปรแกรม XERF ถือเป็น New Generation ของคลื่นวิทยุ เพราะมีระบบการปล่อยความเย็น และการปล่อยพลังงานที่ทำให้พลังงานลงได้ลึกมากขึ้น สามารถหดกระชับผิวได้ดีกว่า เครื่องกลุ่มเดิมอย่าง โปรแกรม Oligio รุ่นเดิม และโปรแกรม ThermageFLX
ในขณะที่ โปรแกรม OndaPro ใช้คลื่นพลังงานไมโครเวฟเน้นพลังงานลงชั้นไขมัน แต่โดนคอลลาเจนในผิวหนังน้อยกว่า จึงเหมาะกับการลดไขมัน มากกว่าการสร้างคอลลาเจนหรือกระชับผิว
แต่ในกลุ่มคลื่นวิทยุรุ่นใหม่อย่างโปรแกรม OligioX และโปรแกรม XERF ได้มีโหมดการปล่อยพลังงานแบบลึกลงชั้นไขมันเช่นกันขึ้นกับแพทย์ดีไซน์ และสามารถให้พลังงานที่แม่นยำกว่าการใช้โปรแกรม OndaPro เนื่องจากมีการกำหนดระยะเวลา Pulse duration ต่อช็อตที่ชัดเจน ในขณะที่อุณหภูมิของโปรแกรม Onda Pro ขึ้นกับการเคลื่อนไหวมือ ทำให้อาจได้พลังงานที่น้อยเกินไป หรือมากเกินไปได้ และยังเป็นเทคโนโลยีที่มีงานวิจัยรองรับน้อยกว่า
ในความเห็นของแพทย์ DSK แม้จะเป็นคนที่มีไขมันเยอะ พบว่าผลลัพธ์จากโปรแกรม OligioX และโปรแกรม XERF เหมาะสมกว่าการใช้โปรแกรม OndaPro จากพลังงานที่แม่นยำ และมีอุณหภูมิที่พอดีกับการกระชับไขมันมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกระดับความลึกว่าต้องการหรือไม่ต้องการให้พลังงานลงในชั้นไขมัน
ความรู้สึกขณะทำ
โปรแกรม XERF มีความโดดเด่นด้วยระบบทำความเย็น ICD Cooling ที่ให้ความเย็นสบายขณะทำหัตถการ ซึ่งช่วยปกป้องผิวชั้นบน ทำให้รู้สึกสบายผิวและเจ็บน้อยมาก ในขณะที่โปรแกรม Thermage ก็มีระบบสั่นและ Cooling แต่ยังคงรู้สึกร้อนลึกใต้ผิวได้ชัดเจน ส่วนโปรแกรม Ulthera จะให้ความรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ หรือ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดจากพลังงานที่ลงไปเป็นจุด ๆ อย่างแม่นยำ ในแง่ความเจ็บ โปรแกรม XERF และโปรแกรม OligioX ไม่ต้องแปะยาชา และแทบไม่รู้สึกเจ็บ ในขณะที่โปรแกรม ThermageFLX รู้สึกเจ็บที่สุดในหัตถการที่ยกมาเปรียบเทียบ และโปรแกรม Ultherapy Prime ซึ่งเป็นรุ่นใหม่มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นใหม่ทำให้ความเจ็บลดลงในระดับที่ทนได้
ผลลัพธ์และจุดเด่น
จุดเด่นของโปรแกรม Ulthera คือการยกกระชับที่ลงลึกถึงชั้น SMAS เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ส่วนโปรแกรม Thermage จะโดดเด่นในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวแน่นฟู ลดริ้วรอย และกระชับรูขุมขนได้ดี ในขณะที่โปรแกรม XERF และโปรแกรม OligioX มีจุดเด่นที่ผสมผสาน คือให้ทั้งผลลัพธ์การยกกระชับ การสลายไขมัน ทั้งนี้ขึ้นกับการตั้งค่าของแพทย์ว่าต้องการลงชั้นไขมันหรือไม่ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนมีไขมันเยอะ หรือคนที่ต้องการความกระชับ แต่อยากรักษาไขมันไว้ หากเป็นแพทย์ที่ปรับตั้งค่า และปรับเทคนิคถูกต้องสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีกับเคสทั้งสองกลุ่ม ในขณะที่โปรแกรม ThermageFLX และโปรแกรม Oligio เน้นความหดกระชับผิวชั้นบนเป็นหลัก และโปรแกรม OndaPro เน้นพลังงานลงชั้นไขมันเป็นหลัก
ทั้งโปรแกรม XERF, โปรแกรม Oligio, โปรแกรม OligioX, โปรแกรม Ulthera และโปรแกรม ThermageFLX ให้ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้บางส่วนทันทีหลังทำ และจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 2-3 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์จากการทำสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล การทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยคงสภาพผิวที่ดีไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ใครที่เหมาะกับการทำโปรแกรม XERF ที่สุด?
โปรแกรม XERF เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้เหมาะกับกลุ่มคนหลากหลายที่ต้องการดูแลผิว แต่จะมีบางกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการทำโปรแกรม XERF เป็นพิเศษ
- ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณความหย่อนคล้อย : เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง ที่ต้องการฟื้นฟูความกระชับโดยไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่มีไขมันที่แก้ม หรือไขมันใต้เหนียง : สำหรับผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด เพราะมีไขมันใต้เหนียง ปริมาณไขมันที่แก้มเยอะ โปรแกรม XERF จะช่วยยกกระชับใบหน้าลำคอ ให้ดูสดใสมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้คมชัด : สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องแก้มที่เริ่มหย่อนคล้อยหรือมีเหนียงเล็กน้อย การทำโปรแกรม XERF จะช่วยเก็บกรอบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติคมชัดขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิว : ผู้ที่รู้สึกว่าผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่แน่นเหมือนเคย การทำโปรแกรม XERF จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวกลับมาดูอิ่มฟูและสุขภาพดี
- ผู้ที่กลัวเจ็บหรือมีเวลาพักฟื้นจำกัด : จุดเด่นเรื่องความสบายขณะทำและไม่ต้องพักฟื้น ทำให้โปรแกรม XERF เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กลัวเจ็บหรือไม่มีเวลาในการพักฟื้น
ทั้งโปรแกรม XERF และโปรแกรม OligioX ถือเป็นเครื่อง New Generation ของเครื่องยกกระชับกลุ่มคลื่นวิทยุที่ทำให้แพทย์สามารถ Customize การรักษาได้มากขึ้น ปรับพลังงานลงลึกได้มากขึ้น เจ็บน้อยลง แม้แต่เคสที่ยาก ในสมัยก่อนเช่นเคสที่มีไขมันหนา ที่เดิมพลังงานลงไม่ถึง หรือเคสที่มีความหย่อนคล้อยมากจึงต้องการพลังงานลงลึก หรือกรณีเคสที่ไขมันน้อย และต้องการรักษาไขมันไว้ ทั้งสองเครื่องสามารถใช้เทคนิคแพทย์ในการปรับพลังงานได้
ทำไมต้องทำโปรแกรม XERF ที่ DSK

- ทีมแพทย์ DSK เป็น XERF Pioneer Thailand และมีโอกาสเข้าไปพูดคุย Discuss ถึง Head Quarter ของ Cynosure Lutronic กับ Head of R&D และ Head of Clinical training เพื่อทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีเชิงลึก และการออกแบบเทคนิค ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ทีมแพทย์ DSK มีโอกาสได้เข้าพูดคุย และ เรียนรู้เทคนิคเชิงลึกเกี่ยวกับเทคนิคของโปรแกรม XERF จาก Dr. Do Young Rhee แพทย์ผิวหนังแนวหน้าของประเทศเกาหลีใต้
- DSK เป็น 1 ใน 2 คลินิกในไทยที่ ได้รับเกียรติจาก Cynosure Lutronic และ Dr. Do Young Rhee จัด Clinical Private Visit and Hand-on Training โดยทีมแพทย์ทุกคนได้รับการถ่ายทอดเทคนิคโดยตรงและมีการพัฒนาเทคนิคเพื่อการรักษาแบบ Customized ให้เหมาะกับปัญหาต่าง ๆ ของคนไข้ไทย ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อดึงประสิทธิภาพของการรักษาออกมามากที่สุด
ทำอย่างไรให้การยิงโปรแกรม XERF ได้ผล
การทำโปรแกรม XERF และโปรแกรม OligioX ถือเป็นเครื่องมือที่อาศัยเทคนิค ความรู้ความเข้าใจสูงไม่เพียงแค่ใช่ช็อตเท่ากันผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกัน

คุณหมอปอร์เช่ (นพ.สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์) ได้มีโอกาสได้รับเชิญไปบรรยายในหัวข้อ How to maximize Monopolar RF Outcome โดยหลักการสำคัญคือเราต้องรู้ว่าความหย่อนคล้อยเกิดจากชั้นไหน และต้องการอุณหภูมิเท่าไหร่เพื่อให้ได้ผลสูงสุด และใช้หลักการประเมินรูปหน้าเพื่อหา High Impact Area และแบ่งโซนการยิงเพื่อ minimize heat loss หรือลดการสูญเสียพลังงานการแบ่งช็อตตาม area คำนวณช็อต รวมถึงพลังงาน ตามปัญหาจริง เพื่อลดไขมันบริเวณที่ต้องการ และรักษาไขมันในบริเวณที่อยากรักษาไว้ รวมถึงเครื่องรุ่นใหม่อย่างโปรแกรม OligioX และโปรแกรม XERF มีการปรับค่าพลังงานที่ละเอียดขึ้นมาก การเข้าใจหลักการของคลื่นวิทยุ และโหมดต่าง ๆ ของเครื่องถือเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
ขั้นตอนการทำโปรแกรม XERF
กระบวนการยกกระชับผิวด้วยโปรแกรม XERF ถูกออกแบบมาให้สะดวกสบายและรวดเร็ว โดยมีขั้นตอนหลัก ดังนี้
- ปรึกษาและประเมินผิว : แพทย์จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างผิวและปัญหาที่กังวล เพื่อออกแบบการรักษาและกำหนดค่าพลังงานที่เหมาะสมโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะกับคุณ
- เตรียมผิว : เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำการรักษา พร้อมทั้งติดแผ่นสื่อไฟฟ้า (Grounding Pad) ที่ร่างกาย เพื่อช่วยให้เครื่องในการทำโปรแกรม XERF มีความสมบูรณ์มากขึ้น
- เริ่มทำการรักษา : แพทย์จะใช้หัวยิงของโปรแกรม XERF ปล่อยพลังงานเป็นชุดคลื่นสั้น ๆ ลงไปในบริเวณที่ทำหัตถการ ขณะทำจะรู้สึกอุ่นลึก ๆ ในชั้นผิว สลับกับความรู้สึกเย็นสบายที่ผิวชั้นบน จากระบบให้ความเย็น (ICD) ที่ทำงานควบคู่กันไป
- เสร็จสิ้นกระบวนการ : หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวอีกครั้ง และทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
วิธีดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม XERF
เพื่อให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ทำหัตถการมาอยู่ในนานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ครับ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โดนความร้อน : ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำหัตถการ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โดนความร้อนจัด เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ การเข้าซาวน์หน้า สตรีม หรืออาบน้ำร้อน
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ : ปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน เพราะแสงแดดคือปัจจัยสำคัญที่ทำลายคอลลาเจน
- บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น : ใช้มอยส์เจอไรเซอร์และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นการเติมน้ำให้ผิว เพื่อส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูให้ผิว
- งดการสครับหรือผลัดเซลล์ผิว : เว้นการขัดถูผิวหน้าแรง ๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA เป็นเวลาอย่างน้อย 3-5 วันหลังทำ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวเต็มที่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำสะอาด 8-10 แก้วต่อวัน จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายในและช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่
- เสริมด้วยวิตามินซี : วิตามินซีเป็นสารอาหารจำเป็นในกระบวนการสร้างคอลลาเจน การรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง หรืออาหารวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของคอลลาเจนให้ดีขึ้น
- รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ : คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากกรดอะมิโน การรับประทานโปรตีนคุณภาพดีให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ ปลา หรือถั่ว จะช่วยทำให้ให้ร่างกายนำไปสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ดูแลสุขภาพ : การดูแลสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ สามารถช่วยให้กระบวนการซ่อมแซมร่างกายและการสร้างคอลลาเจนทำได้ดีขึ้น
- ทรีตเมนต์ซ้ำทุก ๆ ปี : โปรแกรม XERF นั้นสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี การทำหัตถการซ้ำทุก ๆ ปี ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่อย่างชัดเจน
ทำโปรแกรม XERF เจ็บไหม?
โปรแกรม XERF เป็นหัตถการที่ระหว่างทำจะรู้สึกสบายผิวและเจ็บน้อยมากจนแทบไม่รู้สึก เพราะมีเทคโนโลยี ICD Cooling ทำให้ปล่อยความเย็นให้มากกว่า ระหว่างทำอาจจะรู้สึกถึงความอุ่น ๆ ที่ส่งผ่านลงไปใต้ผิว คล้ายความรู้สึกของการนวดผ่อนคลาย สลับกับไอเย็นจากระบบ ICD Cooling ที่ช่วยปกป้องผิวชั้นบนอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีเฉพาะตัวนี้ช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้แปะยาชา และสามารถทำการรักษาได้อย่างต่อเนื่องจนจบขั้นตอนโดยแทบไม่รู้สึกเจ็บ แต่สำหรับใครที่กลัวเจ็บ หรือทนต่อความเจ็บได้น้อยก็สามารถแปะยาชาได้เช่นกัน
โปรแกรม XERF อยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของโปรแกรม XERF สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน โดยหลังทำจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าผิวดูกระชับขึ้นประมาณ 20-30% และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในช่วง 2-3 เดือนถัดมา ซึ่งเป็นช่วงที่คอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ แต่ในช่วง 3-6 เดือนจะเป็นช่วงที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล การกลับมาทำซ้ำปีละ 1 ครั้งจะช่วยรักษาสภาพผิวให้ดูดีและคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
รีวิวโปรแกรม XERF ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย



โปรแกรม XERF กับโปรแกรม OligioX เลือกอันไหนดีกว่ากัน?
โปรแกรม XERF กับโปรแกรม OligioX ถือเป็นเครื่องมือ Generation ใหม่เหมือนกัน ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ใกล้เคียงกัน โดยถือเป็นเครื่องที่มีการพัฒนามาจากกลุ่มเครื่องรุ่นเดิมอย่างโปรแกรม Thermage FLX และโปรแกรม Oligio ในเรื่องระบบการปล่อยความเย็นและพลังงาน รวมถึงสามารถ Customize ความลึกของพลังงานได้ทั้งคู่ โดยที่ DSK มีให้บริการทั้งสองเครื่องสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพปัญหา และเลือกเครื่องรวมถึงเทคนิคที่เหมาะสมได้เลยครับ
สรุป
โปรแกรม XERF คือนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยพลังงาน Monopolar RF รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมจุดเด่นในด้านการส่งพลังงานลงสู่ผิวได้ถึง 3 ระดับความลึก และระบบทำความเย็นที่ช่วยให้รู้สึกสบายขณะทำ ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั้งการยกกระชับผิว การสลายไขมันเพื่อปรับกรอบหน้า และการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อลดเลือนริ้วรอย เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่น โปรแกรม XERF ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ แต่มีความกังวลเรื่องความเจ็บปวดและไม่มีเวลาพักฟื้น
สำหรับใครที่มีปัญหาผิวและความหย่อนคล้อย และกำลังมองหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ DSK Clinic เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกหัตถการที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด
