- Blog
- Custom Scar Planning
- March 4, 2024
อัปเดต 9 วิธีรักษารอยแดงจากสิว รอยดำจากสิว ฉบับหมอสกิน

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
คุณหมอขอสรุป รอยดำ และรอยแดงจากสิวเกิดจากอะไร?
– รอยดำและรอยแดง คือร่องรอยที่เกิดขึ้นหลังจากเป็นสิว ที่แม้ว่าสิวจะหายแล้วก็ยังเห็นอยู่ – รอยดำและรอยแดง เกิดจากผลของการอักเสบ จนทำให้ผิวสร้างเมลานินมากเกินไปจนเป็นรอยดำ หรือทำให้หลอดเลือดขยายตัวจนเกิดรอยแดง – ลดโอกาสเกิดรอยดำรอยแดงได้ด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด การไม่แคะแกะหรือบีบสิว รักษาสิวอย่างถูกวิธี เพื่อลดการเกิดอักเสบให้ได้มากที่สุด – หากเกิดรอยดำรอยแดงจากสิวแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือการรักษาด้วย Picosecond Laser โดยการตั้งค่าที่ถูกต้องจะช่วยลดได้ทั้งรอยดำ รอยแดง และความเรียบเนียนของผิวซึ่งจะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีเทคนิคจากการสั่งสมประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน – ทำเลเซอร์ที่ DSK Clinic ดีกว่าด้วยความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ของทีมแพทย์ การปรับพลังงานเฉพาะบุคคล กับเครื่องมือแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ ให้ได้ประสิทธิภาพการรักษาที่น่าพึงพอใจ |
ปัญหาสิวเป็นปัญหาที่ก่อกวนใจใครหลายๆ คน แต่อีกปัญหาที่ใครหลายคนลงความเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าการเกิดสิวคือเมื่อรักษาสิวหายแล้วแต่ผิวยังคงมีรอยสิวอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก และทำลายความมั่นใจกันง่ายๆ ทั้งจุดด่างดำจากสิว รอยดำ หรือรอยแดงบนใบหน้าที่ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ ดูไม่เรียบเนียน มาดูกันว่ารอยสิวเหล่านี้มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง และจะรักษารอยแดงจากสิวและรอยดำจากสิวได้อย่างไร

รอยดำ และรอยแดงจากสิว คืออะไร
รอยดำจากสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) เป็นผลที่เกิดจากการที่สารกระตุ้นเม็ดสีของผิว (Melanocytes) ถูกกระตุ้นจากการอักเสบให้ ผิวมีการสร้าง Melanocytes มากขึ้น จึงเกิดเป็นเมลานินที่มากกว่าปกติ ทำให้ผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ
ส่วนรอยแดงจากสิว (Post-Inflammatory Erythema) เกิดจากการที่สารสร้างการอักเสบจากสิวนั้นกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นขยายตัวจนเกิดเป็นสีชมพูหรือแดงจนเห็นได้ชัด
รอยดำ และรอยแดงจากสิว ต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างของรอยดำจากสิวและรอยแดงจากสิวอยู่ที่ลักษณะของรอย โดยรอยดำจากสิวนั้นจะเป็นการกระตุ้นการสร้าง Melanocytes ที่ทำให้เมลานินที่ผิวหนังมากขึ้นจนเกิดเป็นสีคล้ำ หรือรอยดำที่เกิดจากการอักเสบของสิว แต่รอยแดงจะเป็นการกระตุ้นหลอดเลือดใต้ผิวหนังให้ขยายหลังการอักเสบของสิวจนทำให้เห็นเป็นสีชมพูหรือแดง ที่เรียกกันว่ารอยแดงจากสิวนั่นเอง
สาเหตุของรอยดำ และรอยแดงจากสิว เกิดจากอะไร
สาเหตุรอยดำและรอยแดงจากสิวเกิดจากผลกระทบของการอักเสบจากสิว โดยมีกระบวนการเกิดดังนี้
- เมื่อร่างกายหลั่ง Cytokine จะไปกระตุ้นการเกิดการผลิตเมลานิน (Melanocytes Activatvation) จนกลายเป็นรอยดำจากสิว และกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือดฝอย (Dilated Capilary) ใต้ผิวหนังจนเกิดเป็นรอยแดงจากสิว
- เมื่อต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากเกินไปและอุดตันในรูขุมขนจนเกิดสิว เซลล์ผิวที่ตายและน้ำมันที่อุดตันในรูขุมขนเป็นอาหารของเชื้อ C. acnes ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบ (Inflammatory)
- จากนั้นการอักเสบจะกระตุ้นให้เกิด Cytokine เป็นสารโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในการอักเสบเพื่อพยายามรักษาร่างกาย

9 วิธีลดรอยดำและรอยแดงจากสิวให้หายเร็วที่สุด
แม้ว่าการเกิดรอยดำจากสิวและรอยแดงจากสิวจะเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขและมักเกิดขึ้นซ้ำๆ จนกวนใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีรักษา เพราะด้วยการแพทย์ปัจจุบัน มีหลากหลายวิธีที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนี้
1. ทำเลเซอร์ด้วย Picosecond Laser
วิธีแรกที่นิยมใช้ในการรักษารอยแดงจากสิว และรอยดำจากสิว และช่วยลดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอจากสาเหตุอื่นๆได้ดีเช่นกัน คือการทำเลเซอร์ด้วย Picosecond Laser เป็นการทำหัตถการโดยยิงเลเซอร์ที่บริเวณผิวเพื่อกำจัดเม็ดสีผิดปกติออก และยังลดการทำงานของเซลล์ Melanocyte ลง รวมถึงเป็นการกระตุ้นผิวชั้นกลางให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ วิธีนี้เป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์ได้มากที่สุดเพราะรักษาได้ทั้งรอยดำที่ผิวชั้นหนังแท้และหนังกำพร้า อีกทั้งยังสามารถรักษารอยแดงจากสิวได้ อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกการทำหัตถการภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการปรับพลังงานระหว่างการยิงเลเซอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และควรเลือกเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน
2. ทำเลเซอร์ด้วย RedTouch Pro
สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวอย่างตรงจุด โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นหลังการรักษา การทำเลเซอร์ด้วย RedTouch Pro เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยไม่มี Downtime สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติหลังการทำหัตถการ สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ เช่น ริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำ และรอยแผลเป็น โดยการทำงานของเลเซอร์นี้จะปล่อยแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะที่สามารถซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรักษาใช้เวลาสั้น ไม่ต้องผ่าตัด และไม่มีรอยแผล
3. ทำเลเซอร์ด้วย V-beam Laser
V-beam Laser เป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed Dye Laser ที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษารอยแดงจากสิว โดยเฉพาะในกรณีที่มีการขยายตัวของหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนัง เลเซอร์ชนิดนี้จะปล่อยคลื่นความยาว 595 นาโนเมตร ซึ่งถูกดูดซับโดยฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำให้หลอดเลือดฝอยที่ขยายตัวยุบตัวลง รอยแดงจากสิวจึงจางลง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่การรักษาด้วย V-beam จำเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลชัดเจน และควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และรอยสิวโดยทั่วไปมักมีองค์ประกอบของทั้งรอยแดงและรอยดำร่วมกัน การใช้กลุ่ม Picosecond laser และ RedtouchPro จึงมักมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
4. ทำเลเซอร์ด้วย Dual Yellow Laser
Dual Yellow Laser เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่ใช้คลื่นแสงสีเหลือง 2 ความยาวคลื่น คือ 578 และ 511 นาโนเมตร ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษารอยแดงจากสิวและจุดด่างดำบนใบหน้า เลเซอร์นี้จะเข้าไปจัดการกับเม็ดสีเมลานินและหลอดเลือดฝอยที่ขยายตัวโดยตรง โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง ทำให้ไม่เกิดแผลและไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วย Dual Yellow Laser อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และเป็นเลเซอร์ที่ประสิทธิภาพน้อยกว่าเลเซอร์ใหม่ ๆ ในปัจจุบันอย่าง Picosecond Laser และ RedTouch Pro ปัจจุบันจึงไม่เป็นที่นิยม
5. ฉีดเมโสหน้าใส เพิ่มวิตามินผิว
การฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือการฉีดวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อผิว ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูที่เห็นผลลัพธ์ได้มากกว่าการทาครีม การฉีดผิวเพื่อรักษารอยดำรอยแดงจากสิว โดยยากลุ่มเมโสที่ผ่านการรับรองจาก อย. และช่วยรอยสิวได้มีเพียงชนิดเดียวคือ Rejuran แต่อย่างไรก็ตามด้านรอยแดงจากสิว และรอยดำจากสิว ยังเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์น้อยกว่าการทำ Picosecond Laser
6. การลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peel)
การใช้ตัวยาลอกผิว (Chemical Peel) คือการใช้ตัวยาลอกผิว เป็นวิธีหนึ่งในการรักษารอยดำ แต่อาจได้ผลน้อยกับรอยแดงจากสิว ที่อาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก โดยการทำ Chemical Peel จะใช้ Glycolic Acid, Salicylic Acid และ Trichloroacetic Acid ซึ่งเป็นสารเคมีหรือกรดผลไม้ที่มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ เป็นการลดรอยดำแต่ได้ผลน้อยกับการรักษารอยแดงจากสิว วิธีนี้ต้องทำการปรึกษาแพทย์อย่างถี่ถ้วนก่อนเพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้ในบางกรณี อีกทั้งไม่เหมาะต่อผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย
7. ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยเรื่องลดรอยดำจากสิว
การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษารอยดำจากสิว สารสำคัญที่ควรมีในผลิตภัณฑ์ ได้แก่ วิตามินซี อาร์บูติน โคจิก แอซิด และไนอาซินาไมด์ ซึ่งช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และควรใช้ควบคู่กับครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ เพื่อป้องกันการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีจากแสงแดด
8. รับประทานวิตามินเสริมที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูสภาพผิว
การรับประทานวิตามินเสริมเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวสามารถช่วยเร่งการรักษารอยดำและรอยแดงจากสิวได้ โดยวิตามินที่สำคัญ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอย่างสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) และสารสกัดเปลือกสนอย่าง Pycnogenol ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานวิตามินเสริม เพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสมและปลอดภัย ทั้งนี้การทานวิตามินไม่ใช่การรักษารอยแดงรอยดำสิว แต่ส่งเสริมการทำงานที่ดีของผิวตามปกติเท่านั้น
9. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาสิวอย่างถูกวิธี
การป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำและรอยแดงจากสิวที่ดีที่สุดคือการรักษาสิวตั้งแต่เริ่มเกิด โดยการปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาทาหรือยารับประทานตามความรุนแรงของสิว เช่น ยากลุ่มเรตินอยด์ ยาปฏิชีวนะ หรือยาคุมกำเนิดในกรณีที่สิวเกิดจากฮอร์โมน การรักษาสิวอย่างถูกวิธีจะช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดรอยดำรอยแดงในภายหลัง
แพทย์ผิวหนังแนะนำการรักษารอยดำรอยแดงอย่างไร
แพทย์ผิวหนังจะแนะนำการใช้ Picosecond Laser เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เห็นผลได้ชัดเจนทั้งกับการรักษารอยดำรอยแดงจากสิวและหลุมสิว นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีทางเลือกหัตถการที่ค่าความเจ็บ = 0 และไม่มี Downtime สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักหน้า นั่นก็คือ RedTouch Pro ที่ช่วยในเรื่องความเนียนใส ปัญหารอยดำ รอยแดง จากสิว แต่ข้อควรระวังที่สำคัญคือการเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะต้องตรวจสอบได้ว่าเครื่องที่ใช้นั้นเป็นเครื่องแท้ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือการใช้เทคนิคของแพทย์ในการยิงเลเซอร์ นอกจากนี้ ยังแนะนำการใช้สกินแคร์ร่วมด้วย แต่การใช้สกินแคร์นั้นจะเห็นผลกับรอยดำแต่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพกับการลดรอยแดงเพราะรอยแดงเป็นผลมาจากเส้นเลือด ที่สำคัญ การใช้สกินแคร์มักจะเห็นผลช้ามากหากเทียบกับการทำหัตถการ

ป้องกันอย่างไรให้ห่างไกลจากรอยดำ และรอยแดงจากสิว
เมื่อการแก้ไขปัญหาอาจเป็นเรื่องที่ยาก การป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำรอยแดงจากสิวจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ โดยวิธีการป้องกันรอยดำรอยแดงจากสิว เช่น
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทาครีมกันแดดให้เพียงพอ เพราะแสงแดดคือปัจจัยที่ส่งผลต่อการคล้ำเสียของผิวและการเกิดสิว เนื่องจากแสง UV จะกระตุ้นการทำลายเซลล์ผิวซึ่งนำไปสู่การเกิดรอยดำรอยแดงจากสิว
- หลีกเลี่ยงการบีบสิวหรือแคะ แกะ เกาสิว เนื่องจากการกดสิวเองนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบซึ่งแม้ว่ารักษาสิวหายแล้วก็ยังทำให้เกิดรอยดำและรอยแดงจากสิวทิ้งไว้ นอกจากนี้ การบีบสิวด้วยมือซึ่งอาจมีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกก็จะทำให้เกิดสิวที่ลุกลามไปยังบริเวณรอบๆ ได้ด้วย
- รักษาสิวให้กายเร็วที่สุดเพื่อลดการอักเสบซึ่งเป็นต้นตอของรอยสิวทุกประเภท
- เลือกใช้ Skin Care ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี เสริมประสิทธิภาพของเลเซอร์ในการลดรอยดำจากสิว
รักษารอยสิวกี่วันหาย?
ระยะเวลาในการรักษารอยสิวขึ้นอยู่กับความรุนแรงและวิธีการรักษา การรักษาด้วยเลเซอร์อย่าง Picosecond สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และเห็นผลชัดเจนภายใน 2-3 ครั้ง ในขณะที่การใช้ครีมทาอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนหรือมากกว่า สำหรับการปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติอาจใช้เวลานานถึง 1 ปี หรือมากกว่า ทั้งนี้ การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมและการดูแลอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้รอยสิวจางเร็วขึ้น
รักษารอยดำ และรอยแดงที่ DSK Clinic ดีกว่าอย่างไร?
การรักษารอยจุดด่างดำจากสิวให้เห็นผลดีนั้น ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของความชำนาญของแพทย์ผู้ดูแล และเครื่องมือที่ใช้และหากใครที่กำลังมองหาการรักษารอยดำ รอยแดงจากสิว ที่ DSK Clinic เราเป็น Acne Scar Excellence Focus มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์การทำ Picosecond Laser, RedTouch Pro หัตถการ และวิธีการรักษาอื่น ๆ อย่างครบถ้วน ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี เพราะเราเชื่อว่า นอกจากการมีแพทย์ที่มีประสบการณ์แล้ว เทคนิคการรักษา และเครื่องมือที่ครบครันจำเป็นอย่างมากในการออกแบบการรักษาอย่างตรงจุดตามสาเหตุของผู้มารับบริการ เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานระดับ Gold-Standard ในการดูแลของแพทย์ด้วยเทคนิคเฉพาะ จุดเด่นของ DSK คือการวินิจฉัย วิเคราะห์และวางแผนการรักษา “เฉพาะบุคคล” เพื่อให้เกิดแผนการรักษาที่ดีที่สุด การตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสมที่สุด และเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ ผู้ที่มีปัญหารอยดำและรอยแดงจากสิว
รีวิวลดรอยแดงจากสิวด้วยโปรแกรม Custom Skin Quality

* ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว
สรุป

ปัญหารอยสิวที่กังวลใจใครหลายๆ คน เกิดจากการที่สิวอักเสบและกระตุ้นให้เกิดสารต่างๆ หลังการเกิดสิว อย่าง Melanocytes ทำให้ผลิตเมลานินมากเกินไปจนเกิดเป็นรอยดำจากสิว และการอักเสบที่เกิดการกระตุ้นหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังจนขยายเกิดเป็นรอยแดงจากสิว การรักษาทั้งรอยดำและรอยแดงจากสิวที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือการทำ Picosecond Laser เพราะสามารถกำจัดเซลล์ผิวเก่าออก กำจัดเม็ดสีส่วนเกิด พร้อมสร้างเซลล์ผิวใหม่ แก้ปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึก และเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรเลือกทำที่คลินิกที่น่าเชื่อถือ ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มากประสบการณ์ มีรีวิวจากคนไข้จริงที่เชื่อถือได้
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรอยดำ และรอยแดงจากสิว
เมื่อได้ทราบถึงสาเหตุของปัญหารอยสิวและการป้องกันแก้ไขแล้ว มาดูคำถามที่พบบ่อยกันได้ ดังนี้
ปัญหารอยดำ และรอยแดงสามารถหายเองได้หรือไม่?
หายเองได้ แต่ใช้ระยะเวลานานอาจเป็นหลักเดือนหรือหลักหลายปี ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดรอยสิวและสภาพผิว แต่ในบางเคสพบว่าหากรอยที่มีเป็นรอยลึก สามารถคงอยู่ได้นานหลายปี และปัจจุบันมีงานวิจัยว่ารอยดำจากสิว และรอยแดงจากสิวสามารถพัฒนาเป็นหลุมสิวได้เมื่อเวลาผ่านไป การรีบรักษารอยสิวตั้งแต่เป็นรอยแดงและรอยดำจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
มีวิธีไหนรักษารอยดำ และรอยแดงได้หายเร็วมากที่สุด?
ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เกี่ยวกับสภาพผิวและสาเหตุของการเกิดรอยซึ่งแตกต่างออกไปในแต่ละคนโดยปกติจะประกอบด้วยการรักษาสิวเดิมให้หาย เพื่อป้องกันรอยสิวใหม่ และการใช้เลเซอร์กลุ่ม Picosecond Laser ปรับพลังงานให้เหมาะสมโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเป็นวิธีการรักษารอยแดงและรอยดำจากสิวที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
หากรักษารอยดำ และรอยแดงแล้วจะกลับมาเป็นอีกได้หรือไม่?
รอยสิวเดิมที่หายแล้วจะไม่กลับมา แต่หากเกิดสิวใหม่ก็ย่อมเกิดรอยใหม่ได้การป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยดำจากสิวและรอยแดงจากสิว และผิวที่แข็งแรงก็จะทำให้รอยจุดด่างดำจากสิวหายไปได้เร็วขึ้นด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
1. Pico Laser ราคาเท่าไร ทำที่ไหนคุ้มเงินสุด แต่ละที่ต่างกันอย่างไร ทำไมราคาต่างกัน | DSK Clinic
2. คัมภีร์ รูขุมขนกว้าง รวมทุกวิธีรักษาที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจ | DSK Clinic
3. Pico Laser คืออะไร 10 ข้อที่ต้องรู้ก่อนทำ | DSK Clinic
4. Discovery Pico จบครบทุกปัญหาผิวได้ในเครื่องเดียว
5. เตือนแล้วนะ! 6 ข้อสังเกตควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อคอร์ส Picosecond Laser