รูขุมขนกว้าง เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่หลายคนกังวล ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน เห็นรูขุมขนได้ชัด ซึ่งอาจขัดกับภาพจำของคนที่ผิวสุขภาพดี จะต้องมีรูขุมขนที่เล็ก ผิวเนียนละเอียด ปัญหารูขุมขนกว้างส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากธรรมชาติของผิวแต่ละคน หากเราเข้าใจลักษณะของผิว จะช่วยให้เราสามารถจัดการปัญหารูขุมขนกว้างได้ถูกจุดมากขึ้น

สอบถาม จองคิวปรึกษาแพทย์

สาเหตุของปัญหารูขุมขนกว้าง

1. กรรมพันธ์ุ
   • กรรมพันธ์ุเป็นตัวกำหนดลักษณะของผิวในแต่ละคน ทั้งสีผิว ความแน่นเด้ง ความชุ่มชื้น ความมัน รวมถึงขนาดของรูขุมขน ซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
2. 4 องค์ประกอบในรูขุมขน
   • ในผิวของคนเราประกอบด้วยหลายองค์ประกอบ แต่ส่วนสำคัญที่มีผลต่อขนาดรูขุมขน คือ คอลลาเจน ขนาดของเส้นขน ต่อมไขมัน และ Hyaluronic acid จึงเป็น 4 องค์ประกอบหลักที่เราสามารถเข้าไปแก้ไข เพื่อให้ขนาดของรูขุมขนเล็กลงได้
   • ดังนั้น เครื่องมือหรือยาที่จะใช้ ต้องจัดการ 4 องค์ประกอบเหล่านี้ได้

หลักการรักษารูขุมขนกว้างของหมอผิวหนัง

• หมอจะเลือกใช้ เครื่องมือ หรือวิธีการใด ๆ ที่เข้าจัดการองค์ประกอบ 4 อย่างข้างต้นได้
• ถ้าพูดถึง สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางลดรูขุมขน นี่งานวิจัยน้อยมากไม่อยากให้คาดหวังผลเยอะ เท่าไหร่เรื่องรูขุมขน แต่ถ้าอยากจะหา Skincare ที่ช่วยรูขุมขนจริงๆ ส่วนผสมที่ควรมองหาคือมีคุณสมบัติที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อย่างเช่น Niacinamide หรือ Vitamin A เป็นต้น แต่ก็ต้องบอกว่าคาดหวังผลได้น้อยมาก ๆ
• การรักษาที่ได้ผลจึงเป็นหัตถการทางการแพทย์เช่นเลเซอร์หรือหัตถการแบบฉีดมากกว่า
• และถ้าเรามาดู anatomy ของชั้นผิว จะพบว่ารูขุมขนมันอยู่ลึกมาก ลึกลงไปหนังแท้ชั้นล่าง ดังนั้นถึงจะใช้เลเซอร์ที่กระตุ้นคอลลาเจนได้ ก็ไม่ได้แปลว่ารูขุมขนจนเล็กลง ต้องอาศัยเลเซอร์ หรือหัตถการหลาย ๆ ตัว ร่วมกัน เพื่อจัดการองค์ประกอบของรูขุมขน

การรักษารูขุมขนที่ได้ผล มีอะไรบ้าง ?

1. Potenza เลเซอร์กลุ่มคลื่นวิทยุ RF

• การรักษาหลักในรุขุมขนที่ได้ผลดี และสำหรับผม ได้ผลดีที่สุดเท่าที่เราได้ลองเลเซอร์มาหลายตัวคือคลื่นวิทยุที่เรียกว่า Potenza 
• สาเหตุเพราะ Potenza มันเป็นคลื่นวิทยุที่ปรับระดับความลึกของเข็มได้ และเป็นตัวเดียวที่พลังงานออกได้ทั้งโหมด monoplar ที่แผ่กว้าง และ Bipolar ที่ไม่ได้แผ่กว้างแต่เข้มข้น ทำให้เราลงพลังงานได้ความลึกที่เหมาะสม สามารถกระตุ้นได้ทั้งคอลลาเจนชั้นตื้น และชั้นลึก รวมถึงลดการทำงานของต่อมไขมันได้
• Potenza  เป็นไม่กี่เครื่องที่หลังทำครั้งแรกคนไข้บอกกับหมอเองเลยว่าหน้าเนียนขึ้น รูขุมขนเล็กลง รวมถึงหน้ามันน้อยลง นอกจากนั้นผลพลอยได้คือเรื่องความกระชับของหน้า 
• Potenza จะมีหัว Tiger tail ที่สามารถปล่อยพลังงานได้สองระดับความลึกในการยิงหนึ่งช็อต ทำให้เจ็บน้อยกว่า ได้ผลมากกว่า และตัวเครื่องมีเซนเซอร์วัดการต้านของผิวด้วย
• ถ้านอกจาก Potenza ตัวที่ผมคิดว่าได้ผลรองลงมาก็จะเป็นพวก Infini , Sylfirm และ Picosecond Laser

2. Picosecond Laser

• สำหรับ Pico Laser ที่กำลังเป็นกระแส และมันเก่งจริงเรื่องความกระจ่างใส รอยสิว แต่ถ้าเป็นเรื่องรูขุมขนมันจะได้ผลเพียงระดับหนึ่ง เพราะมันจะเด่นด้านการกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวชั้นชั้นบนๆ ซึ่งรุขุมขนมันจะอยู่ลึกกว่านั้น 
• ถ้าเทียบเรื่องประสิทธิภาพรูขุมขน หลุมสิว  Potenza จะดีกว่า Pico แน่นอน
• และ Pico Laser ก็ไม่สามรถลดหน้ามันได้เหมือนที่ Potenza ทำได้

3. Thermage ลดรูขุมขน

• อันต่อไปที่ช่วยด้านรูขุมขนก็จะเป็นกลุ้ม Thermage ที่เป็น Monopolar RF ซึ่งช่วยรูขุมจนได้เช่นกัน และลดหน้ามันได้ด้วย ซึ่งที่ DSK เรามีทั้งสองเครื่อง แต่โดยส่วนตัวผลลัพธ์หน้าเป็นด้านรูขุมขน หมอมองว่า Potenza จะเหนือกว่า แต่ในขณะที่ Thermage จะมี downtime (เวลาที่ต้องพักหน้าจนผิวกลับมาเป็นปกติ) ที่น้อยกว่าทั้ง Pico และ Potenza

4. Ulthera ลดรูขุมขนกว้าง

• สำหรับ Ulthera เองถ้าเราปรับพลังงานไปชั้น SMAS ที่ใช้ยกหน้าจะช่วยยกหน้า แต่ถ้าเราปรับพลังงานมาชั้น Dermis ก็ช่วยรูขุมขนเช่นกัน แต่แน่นอน หมอยังรู้สึกว่า Potenza ดีกว่า และคุ้มกว่า เพราะถ้ายิง Ulthera เอาไปยิงชั้น SMAS จะคุ้มค่ามากกว่าการเอา Shot มาเสียกับ Dermis ที่อยู่ด้านบนแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการมองเห็นชั้นผิวแบบ real time ของ Ulthera

5. YAG Laser กำจัดขน

• สำหรับคนที่หมอเห็นว่ามีขนบนใบหน้าที่เส้นใหญ่ด้วย จะแนะนำให้กำจัดขนบนใบหน้า อย่างไรขนอ่อน ตามจมูกและหน้าแก้ม และแนะนำเป็นเลเซอร์กลุ่ม Yag ที่ทำให้รากขนตายถาวรและหลุดออกไปเอง เมื่อขนหลุดไป ผิวจะเกิดการปรับตัวตามธรรมชาติให้รูขุมขมเล็กลงเล็กน้อยด้วย

5. Botox โบท็อกซ์ต่อมไขมัน

• บางคนอาจคุ้นกับการใช้ Botox ลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าอารมณ์ แต่อาจจะไม่เคยได้ยินการนำโบท็อกซ์มาใช้ลดการทำงานของต่อมไขมันด้วย ในคนที่รูขุมขนมีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ (หรือที่เราเรียกว่า คนผิวมัน) รูขุมขนจะกว้างเพราะต้องมีทางให้มีการลำเลียงน้ำมันออกมาที่ผิวชั้นบนมากกว่าปกติ ดังนั้นการลดหรือไปยับยั้งการผลิตไขมันจากต่อมไขมันจะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ ซึ่งการโบท็อกซ์รูขุมขนจะใช้วิธีการฉีดที่แตกต่างกับการฉีดริ้วรอย เพราะจะฉีดชั้นตื้น ๆ ทั่ว ๆ บริเวณ ดังนั้นหมอที่ทำหัตการควรเชี่ยวชาญเรื่องชั้นผิว และฉีดได้ถูกชั้นผิว

ฉีดผิวลดรูขุมขนกว้าง

• คลิปคุณหมออธิบาย ฉีกหน้าใสตัวไหนปัง คลิก
• สำหรับเรื่องรูขุมขนผมมองว่ากลุ่มเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุควรเป็นการรักษาหลัก ส่วนการฉีดหน้า ตัวที่ได้ผลจะมี Belotero Revive, Rejuran รวมถึง Sculptra และ  Radiesse
• แต่ในมุมมองผมคิดว่าเราควรใช้เครื่องเลเซอร์เป็นตัวหลักและใช้การฉีดเป็นตัวเสริม จะดีกว่าการฉีดเป็นตัวหลักเนื่องจากงานวิจัยต่างๆ ก็จะมากกว่า และเป็นไปตามหลักการมากกว่า
• Belotero Revive มีข้อดีคือ มันเสริมองค์ประกอบที่เลเซอร์สร้างได้ไม่ดี หรือสร้างได้ไม่นานคือ Hyalorunic acid ซึง่ทำให่ผิวอิ่มฟู ขึ้น และ Hyaluronic acid เองก็เป็นองค์ประกอบที่ล้อมรอบรูขุมขนเช่นเดียวกัยคอลลาเจน และองค์ประกอบนี้การทำเลเซอร์จะไม่ดีเท่ากันฉีด การฉีด Revive คู่กับเลเซอร์จึงทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
• Sculptra, Radiesse, Rejuran  หลักการในเรื่องรูขุมขนคือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยในเรื่องรูขุมขนควรทำคู่กับเครื่องมือกลุ่มพลังงานเช่น Potenza ก็จะทำห้การกระคุ้นคอลลาเจนได้ผลมากขึ้น

สรุปการรักษารูขุมขนกว้างที่ดีที่สุด

สำหรับหมอถ้ามีงบ ผมจะเลือกทำ Potenza ร่วมกับ Sculptra กระตุ้นคอลลาเจนชั้นลึก และ Revive เสริม Hya ให้ผิวฟู เป็นพื้นฐาน baseline และจะฉีด Rejuran ถ้ามีเรื่องให้ต้องใช้หน้าด่วนอยากได้ความโกลว์

สรุป Potenza + Sculptra + Belotero Revive และบำรุงรักษาด้วย Rejuran

รักษารูขุมขนกว้างที่ไหนดี

จากบทความจะเห็นว่าต้องอาศัยเครื่องมือ และตัวยาที่หลากหลาย ดังนั้นควรเลือกคลินิกรักษารูขุมขนกว้าง ที่มีเครื่องมือครบครัน มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และเทคนิคเฉพาะ เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายไป

สอบถาม จองคิวปรึกษาแพทย์

โปรโมชั่นรักษารูขุมขนกว้าง