- Blog
- February 13, 2025
รวม 15 วิธียกกระชับหน้ายอดนิยม ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์

หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic

สารบัญ
คุณหมอขอสรุป ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด
– ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากร่างกายสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินไปประมาณ 1% ต่อปีหลังอายุ 20 ปี ร่วมกับปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่เร่งการเสื่อมของผิว – วิธียกกระชับหน้าแบบธรรมชาติ มี 4 วิธีหลัก ได้แก่ การนวดหน้ายกกระชับ การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า การนวดกัวซา และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมกระชับผิว ซึ่งต้องทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล – วิธียกกระชับหน้าทางการแพทย์ มีให้เลือกหลากหลาย โดย Ulthera SPT ถือเป็นเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุด เพราะสามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนาน 1-2 ปี – การเลือกวิธียกกระชับหน้าที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพผิว อายุ และความรุนแรงของปัญหา บางรายอาจต้องใช้การรักษาแบบผสมผสานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด – การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์สภาพผิวและวางแผนการรักษาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละคนมีสภาพผิวและปัญหาที่แตกต่างกัน การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด โดยที่ DSK Clinic เราใช้เทคนิคเฉพาะอย่าง Custom SMAS Lift ที่ช่วยให้การยกกระชับใบหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุด |
ปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ หย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะส่งผลต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์ภายนอก การยกกระชับหน้าจึงเป็นทางออกที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้เต่งตึง คืนความอ่อนเยาว์ได้ วันนี้ DSK Clinic จะพาทุกคนมารู้จักกับ 15 วิธียกกระชับใบหน้า ทั้งแบบธรรมชาติและแบบทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยม พร้อมแนะนำข้อดี-ข้อควรระวังของแต่ละวิธี เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับตนเองได้ ใครที่อยากรู้ว่ายกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย!
ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ปัญหาผิวแห่งวัยที่หลายคนกังวลใจ

ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากร่างกายสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นไปประมาณ 1% ต่อปีหลังอายุ 20 ปี นั่นหมายความว่าเมื่ออายุ 40 ปี คอลลาเจนจะหายไปถึง 20% ส่งผลให้ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยปรากฏให้เห็นชัดเจน
นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดด มลภาวะ ความเครียด การนอนดึก พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ก็ล้วนเป็นตัวเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ขาดความสดใส และส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน การแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
4 วิธีทำให้หน้าเต่งตึงโดยธรรมชาติ

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นยกกระชับหน้าด้วยตัวเอง มีวิธีธรรมชาติที่สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ต้องพึ่งหัตถการทางการแพทย์ แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล
1. นวดหน้ายกกระชับ
นวดหน้ายกกระชับเป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารดีขึ้น เซลล์ผิวแข็งแรง ลดอาการบวมน้ำ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า ควรนวดเบาๆ ในทิศทางขึ้นด้านบนและด้านนอก โดยใช้ครีมหรือเซรั่มช่วยให้มือลื่น ไม่ดึงรั้งผิวจนเกินไป
2. กระตุ้นและบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า
การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยท่าต่างๆ เช่น การเม้มปาก ยิ้มกว้าง เป่าแก้ม หรือทำหน้าตลก ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ 43 มัดบนใบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยชะลอการหย่อนคล้อย และทำให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น ควรทำเป็นประจำวันละ 10-15 นาที
3. นวดกัวซาหน้ายกกระชับผิว
การนวดกัวซาหน้าด้วยอุปกรณ์พิเศษที่ทำจากหยก หรือวัสดุธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เพิ่มออกซิเจนให้ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น แต่ต้องระวังไม่นวดแรงเกินไปจนทำให้ผิวช้ำหรือระคายเคือง
4. ทาครีมที่มีส่วนช่วยในการยกกระชับผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยกระชับผิว เช่น เปปไทด์ วิตามินซี รีทินอล คอลลาเจน หรือสารสกัดจากธรรมชาติอย่างสาหร่าย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวแลดูเต่งตึงขึ้น ควรทาเป็นประจำทั้งเช้าและก่อนนอน
11 วิธียกกระชับหน้าทางการแพทย์

สำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่าวิธีธรรมชาติ การยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
1. Ulthera SPT
Ulthera SPT เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตร้าซาวนด์ ที่สามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด มีความแม่นยำสูงด้วยระบบ Visualization ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวขณะทำการรักษา ให้ผลลัพธ์ทันทีและอยู่ได้นาน 1-2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้น
2. Ultraformer MPT
Ultraformer MPT เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เช่นเดียวกับ Ulthera แต่ไม่มีระบบ Visualization ทำให้การยิงพลังงานเป็นแบบสุ่ม ผลลัพธ์อาจไม่แน่นอนเท่า อย่างไรก็ตาม ยังสามารถช่วยยกกระชับหน้าได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก และต้องการทางเลือกที่มีราคาประหยัดกว่า
3. Thermage FLX
Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ที่เน้นการกระชับและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่น เต่งตึง มีความอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการเพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่นให้ผิว
4. Potenza
Potenza เป็นเครื่องยกกระชับผิวรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี RF Microneedling ผสมผสานการทำงานของเข็มขนาดเล็กและคลื่นวิทยุความถี่ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
5. Oligio
Oligio เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่แบบ Monopolar ที่ช่วยกระชับผิวและลดไขมันส่วนเกินได้พร้อมกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยร่วมกับมีไขมันสะสมบริเวณใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าเรียวกระชับขึ้น
6. Morpheus
Morpheus8 เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี Fractional RF Microneedling ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและชั้นไขมัน ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้ในคราวเดียวกัน
7. Botox
Botox (โบท็อกซ์) เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ช่วยยกกระชับหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในกรณีที่มีการหย่อนคล้อยไม่มาก การฉีด Botox ทำงานโดยการคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ทำให้เกิดริ้วรอย เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอบดวงตา นอกจากนี้ ยังสามารถฉีดบริเวณกล้ามเนื้อ Platysma ที่กรอบหน้าเพื่อช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดู V-Shape ขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้โบท็อกซ์บางยี่ห้อ เช่น Dysport ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการกระชับกรอบหน้า อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้เป็นการรักษาเสริมร่วมกับการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
8. Sculptra และ Radiesse
Sculptra และ Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่ทำงานแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป โดย Sculptra มีส่วนประกอบของ Polylactic Acid (PLLA) ในขณะที่ Radiesse มีองค์ประกอบของ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่คล้ายกระดูกตามธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง สารทั้งสองจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และไฮยาลูรอนิกแอซิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และยกกระชับหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผิวบางและขาดความยืดหยุ่นจากวัยที่มากขึ้น ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี และสารทั้งสองชนิดสามารถย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ตกค้างในผิว
9. Filler
Filler หรือสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคแอซิด (HA) เป็นการยกกระชับหน้าที่เน้นการเติมเต็มปริมาตรในส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูกหรือไขมัน เปรียบเสมือนการสร้างโครงสร้างค้ำจุนให้ใบหน้า โดยเฉพาะในรายที่มีปัญหากระดูกทรุด ทำให้หน้าตอบ ใต้ตาลึก หรือขมับยุบ ที่ DSK Clinic ใช้เทคนิคการฉีด Filler ชั้นสูงที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เพียงแค่การเติมเต็ม แต่คำนึงถึงโครงสร้างใบหน้าโดยรวม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เห็นผลทันที และสามารถปรับแต่งหรือสลายได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
10. ผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) เป็นวิธียกกระชับหน้าที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากจนมีหนังส่วนเกิน โดยศัลยแพทย์จะทำการตัดผิวหนังส่วนเกินออก พร้อมปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อชั้น SMAS ให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ใบหน้าดูตึงกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดดึงหน้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น เนื่องจากไม่ได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว จึงควรทำร่วมกับหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนอื่นๆ เพื่อให้ผิวที่เหลือมีความเต่งตึงและยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยยืดระยะเวลาก่อนที่จะต้องทำการผ่าตัดดึงหน้าครั้งต่อไป
11. ร้อยไหม
การร้อยไหม (Thread Lift) เป็นนวัตกรรมยกกระชับหน้าด้วยไหมพิเศษทางการแพทย์ที่มีเงี่ยงสำหรับดึงรั้งไขมัน โดยแพทย์จะสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อยกและกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ทันที แต่เส้นไหมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวอย่างต่อเนื่อง แม้เส้นไหมจะค่อยๆ สลายไปตามเวลา แต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นมาล้อมรอบเส้นไหมจะยังคงอยู่ ทำให้ผิวยังคงความเต่งตึง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน 1-2 ปี โดยเทคนิคนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการยกไขมันที่หย่อนคล้อยบริเวณแก้มและกรอบหน้า
ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด?

คำถามที่หลายคนสงสัยว่า “ยกกระชับใบหน้าวิธีไหนดีที่สุด” จริงๆ แล้วไม่มีคำตอบตายตัว เพราะแต่ละวิธีมีข้อดีและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพผิว อายุ และความรุนแรงของปัญหาผิวหย่อนคล้อย
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย การเริ่มต้นด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการนวดหน้ายกกระชับ หรือการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมกระชับผิว อาจเพียงพอที่จะชะลอการหย่อนคล้อยได้ แต่หากปัญหาเริ่มชัดเจนขึ้น การทำหัตถการทางการแพทย์จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
เทคโนโลยียกกระชับผิวอย่าง Ulthera ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการยกกระชับหน้า เพราะสามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำด้วยระบบ Visualization ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวซับซ้อน อาจจำเป็นต้องใช้การรักษาแบบผสมผสาน (Combination Treatment) เช่น การทำ Ulthera ร่วมกับ Sculptra เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน หรือเสริมด้วย Filler ในจุดที่ต้องการเพิ่มปริมาตร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ที่สำคัญ การเลือกวิธียกกระชับหน้าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์สภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพราะแต่ละคนมีสภาพผิว โครงสร้างใบหน้า และปัญหาที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมและการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด
ยกกระชับหน้า ที่ DSK Clinic ฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์และเห็นผล
เมื่อรู้จักวิธียกกระชับหน้าทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์แล้ว สิ่งสำคัญคือการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของตัวเอง โดยเฉพาะการทำหัตถการทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์สภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ DSK Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยแบบองค์รวม ด้วยเครื่องมือยกกระชับหน้ามาตรฐานระดับ USFDA และเทคนิคเฉพาะอย่าง Custom SMAS Lift ที่ช่วยให้การยกกระชับใบหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมวิเคราะห์และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่เป็นธรรมชาติและตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง
