Morpheus8 เป็นเครื่องยกกระชับด้วยเทคโนโลยี  Fractional Microneedle RF โดยหัวยิงจะมีเข็มเป็นตัวกลางในการส่งคลื่นพลังงานความถี่วิทยุ จึงทำให้เกิดความเจ็บปวดระหว่างการทำมากกว่า แต่ก็มีข้อดีตรงที่ช่วยแก้ปัญหาผิวชั้นบนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยให้เรียบเนียนขึ้น ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดเซลลูไลท์  Ulthera เป็นเครื่องยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวนด์ สามารถยิงพลังงานลงลึกถึงชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่แพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่เกิดจากกล้ามเนื้อหย่อนยานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด  Morpheus8 กับ Ulthera เลือกทำแบบไหนดี จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาผิวและเป้าหมายในการรักษาของแต่ละบุคคล หากไม่รู้ว่าจะเลือกทำเครื่องยกกระชับผิวตัวไหนดี สามารถเข้ามาให้คุณหมอที่ DSK Clinic ช่วยวิเคราะห์สภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณได้เลย

Morpheus8 กับ Ulthera นับเป็นหนึ่งในเครื่องยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย และเห็นผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจน แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยทำมาก่อน อาจไม่รู้ว่าควรเลือกทำแบบไหนดี หรือไม่รู้ว่า Morpheus8 กับ Ulthera มีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณสามารถเลือกเครื่องมือยกกระชับผิวได้อย่างเหมาะสม DSK Clinic จะพาไปดูความแตกต่างของ 2 เครื่องมือนี้เอง

Morpheus8 กับ Ulthera แตกต่างกันอย่างไร?

ถึงแม้ว่า Morpheus8 กับ Ulthera จะช่วยในเรื่องยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันไม่น้อย เพราะใช้เทคโนโลยีในการยกกระชับที่ไม่เหมือนกัน โดย Morpheus8 จะยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี Fractional Microneedle RF ส่วน Ulthera จะยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งความแตกต่างกันนี้ ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกันมากมาย ทั้งในด้านความเจ็บปวด ระยะเวลาการพักฟื้น และระยะเวลาผลลัพธ์ สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างได้ที่ด้านล่างนี้เลย!

Morpheus8 คืออะไร?

Morpheus8 คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วย Fractional Microneedle RF โดยหัวยิงจะมีเข็มทองคำขนาดเล็ก 24 เข็ม (สำหรับใบหน้า) และ 40 เข็ม (สำหรับลำตัว) เป็นตัวกลางในการส่งคลื่นความถี่วิทยุ (RF) เข้าไปกระตุ้นให้ชั้นไขมันใต้ผิวหดตัวลง พร้อมกระตุ้นการซ่อมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทั้งเส้นใยคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสติน รวมถึงกระตุ้นการเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้นได้

Morpheus8 ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?

Morpheus8 สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น

• ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น แก้มห้อย หรือเหนียงใต้คาง
• ช่วยลดเลือนริ้วรอย และรอยยับย่น ช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และสามารถทำได้หลายจุด เช่น ทั่วใบหน้า ลำคอ ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง
• ช่วยลดเลือนรอยสิว รอยเป็น และรอยแตกลายให้ตื้นขึ้น
• ช่วยลดเม็ดสีเมลานินและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• ช่วยลดไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเฟิร์มและเซลลูไลท์ลดลง

Morpheus8 มีระดับความเจ็บเท่าไหร่?

ระดับความเจ็บของการทำ Morpheus8 จะขึ้นอยู่กับความลึกที่ทำ ถ้ายิ่งทำลึกก็จะยิ่งเจ็บมาก แต่เราสามารถลดความเจ็บปวดได้ด้วยการทายาชาก่อนทำ และสำหรับใครที่เคยทำหัตถการที่ใช้เข็มจิ้มเข้าไปที่ใบหน้ามาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะไม่ได้แตกต่างกันมาก

Morpheus8 ต้องพักฟื้นไหม?

หลังจากทำ Morpheus8 เสร็จแล้ว อาจมีอาการบวมแดง และมีจุดเลือดออกบ้าง โดยอาการบวมจะหายได้ภายใน 1 – 3 สัปดาห์ ส่วนจุดเลือดออก สะเก็ดจะสามารถหลุดออกเองภายใน 3 วัน ซึ่งในระหว่างนั้นจะแนะนำให้งดแต่งหน้าไปก่อน

ผลลัพธ์การทำ Morpheus8 อยู่ได้นานไหม?

หลังจากทำ Morpheus8 แล้ว จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 3 สัปดาห์ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในช่วง 3 เดือนหลังทำ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานสูงสุด 1 – 3 ปี ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการดูแลตัวเอง

Morpheus8 ราคาเท่าไหร่?

ทำ Morpheus8 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ​ 30,000 – 90,000 บาท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำและโปรโมชันของแต่ละคลินิก

Ulthera คืออะไร?

Ulthera (อัลเทอร่า) คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวนด์ (Focused Ultrasound) โดยจะยิงคลื่นเสียงแบบเฉพาะเจาะจงลงไปที่ชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่หมอผ่าตัดใช้ผ่าตัดดึงหน้า แล้วกระตุ้นให้เกิดพลังงานความร้อน 60 –  70% ทำให้ชั้นผิว SMAS เกิดการหดตัว และถูกกระตุ้นให้เกิดการซ่อมสร้างเส้นใยคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินขึ้นมาใหม่ จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้นได้เช่นกัน

Ulthera ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?

Ulthera สามารถช่วยยกระชับผิวหน้า หรือผิวกายที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาตึงกระชับได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำลิฟกรอบหน้า หรือยกคิ้วขึ้น รวมถึงลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้าได้อีกด้วย

Ulthera มีระดับความเจ็บเท่าไหร่?

ในอดีต การยกกระชับผิวด้วย Ulthera อาจจะมีความเจ็บอยู่บ้าง แต่ในปัจจุบัน Ulthera ได้พัฒนาไปเป็น Ulthera SPT ที่มาพร้อมกับการออกแบบเทคนิคการยิงที่มีชื่อเรียกว่า S (See) – P (Plan) – T (Treat) ช่วยปรับการส่งพลังงานให้เหมาะสม มีความแม่นยำ เจ็บน้อยลง และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

Ulthera ต้องพักฟื้นไหม?

หลังจากทำ Ulthera เสร็จแล้ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด แต่อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อยในช่วง 1 สัปดาห์แรก ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ตามปกติหลังจากการทำหัตถการ และสามารถกินยาแก้ปวดร่วมเพื่อบรรเทาอาการได้

ผลลัพธ์การทำ Ulthera อยู่ได้นานไหม?

การทำ Ulthera จะมีการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำอย่างน้อย 30% และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ  ใน 1 – 2 เดือน และเห็นผลลัพธ์สูงสุดใน 3 เดือน โดยสามารถอยู่ได้นานสูงสุด 1 ปี ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

Ulthera ราคาเท่าไหร่?

ทำ Ulthera ที่ DSK Clinic จะมีราคาอยู่ที่ 9,990 – 119,990 บาท (100 – 1,200 ไลน์) ส่วนการทำ Ulthera กับคุณหมอปอร์เช่ จะมีราคาอยู่ที่ 11,000 – 132,000 บาท (100 – 1,200 ไลน์)

สรุป Morpheus8 กับ Ulthera เลือกทำเครื่องไหนดี

จะเห็นได้ว่า Morpheus8 กับ Ulthera มีความแตกต่างกัน และไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ โดย Morpheus8 จะเน้นไปที่การแก้ปัญหาผิวหน้าให้เรียบเนียน เน้นหน้าหด หน้าแน่น ส่วน Ulthera จะเน้นยิงชั้น SMAS ทำให้หน้ายกกระชับและเห็นกรอบหน้าชัดมากกว่า ถ้าจะให้เปรียบเทียบกัน หมอแนะนำให้เทียบระหว่าง Morpheus8 กับ Potenza จะเหมาะสมกว่า เพราะสองเครื่องนี้ใช้แก้ปัญหาผิวที่คล้าย ๆ กัน โดยสามารถดูความแตกต่างได้ที่ตารางด้านล่างนี้เลย!

	Morpheus	Potenza	Ulthera
ชั้นหนังแท้ (หน้าแน่น คุณภาพผิวดี)	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐	⭐
ชั้นไขมัน (หน้าหด)	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐	⭐⭐ (ไม่แนะนำใช้ยิงเพราะมีเครื่องอื่นที่ทำได้ดีกว่า)
ชั้น SMAS (หน้ายกคล้ายการดึงหน้า)	ไม่สามารถใช้ยิง SMAS ได้	ไม่สามารถใช้ยิง SMAS ได้	⭐⭐⭐⭐⭐
หน้ายก กรอบหน้าชัด โครงหน้าชัด	⭐⭐	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐
หน้าหดแน่น	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐	(ต้องใช้หัวตื้นซึ่งต้องใช้ชอตเพิ่มเติมจากจำนวนที่ใช้ยิง SMAS จึงแนะนำใช้เครื่องอื่นดีกว่า)
กระเปาะแก้ม	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐
คุณภาพผิว รูขุมขน	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐
หลุมสิว	⭐⭐⭐	⭐⭐⭐⭐⭐
หมายเหตุ	Morpheus , Potenza มีพลังงานคล้ายกันแต่ Potenza มี Monopolar RF ร่วมกับ Bipolar จึงทำให้ได้ประสิทธิภาพทั้งการกระชับผิว และคุณภาพผิวดีกว่า