- Blog
- Custom Scar Planning
- April 19, 2024
รอยแผลเป็นจากสิวเกิดจากอะไร แนะวิธีรักษา ฉบับแพทย์ผิวหนัง
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
คุณหมอขอสรุป รอยแผลจากสิว เกิดจากอะไร ?
– รอยแผลเป็นจากสิว เกิดจากการอักเสบของสิวที่ทำลายคอลลาเจน และเนื้อเยื่อ หรือกระตุ้นให้เกิดรอยดำหรือรอยแดง จนทำให้เป็นรอยแผลที่ไม่สามารถหายได้ในเวลาสั้นๆ – รอยแผลเป็นจากสิวมี 4 ชนิด คือ รอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว และรอยแผลเป็นนูน – รอยแผลเป็นจากสิวรักษาได้ด้วยหลายวิธี เช่น Picosecond Laser, Potenza Laser, Rejuran และฟิลเลอร์ สารกระตุ้นคอลลาเจน สกินแคร์ – วิธีป้องกันรอยแผลเป็นจากสิว คือไม่ควรแคะ แกะ หรือบีบสิว และหมั่นทาครีมกันแดด – ควรให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้ผิวแห้งจนหน้าต้องผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปจนเกิดสิวอุดตัน และเมื่อไม่มีสิวแล้วก็ช่วยลดโอกาสในการเกิดรอบแผลเป็นจากสิวได้ – มั่นใจในการรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่ DSK Clinic ได้ เพราะที่นี่มีการวางแผนการรักษา ที่จะช่วยให้แก้ปัญหารอยแผลเป็นจากสิวของคนไข้ได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตามผลลัพธ์การทำ เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ถูกใจคนไข้มากที่สุด |
สิวอักเสบที่มีความรุนแรง รวมไปถึงการแคะ แกะ หรือบีบสิวจะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อถูกทำลายได้ จึงทำให้เกิดรอยสิวตามมา บางทีก็เกิดเป็นรอยแผลเป็นจากสิว บทความนี้จึงมาแนะนำวิธีการรักษาโดยแพทย์ผิวหนัง ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
รอยแผลเป็นจากสิวมีกี่ชนิด เกิดจากอะไร
รอยแผลเป็นจากสิวมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะ และสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
รอยดำ
รอยดำเกิดจากการอักเสบของสิว มักพบในสิวหัวหนอง สิวอุดตันรุนแรง จนทำให้ร่างกายผลิตเมลานินออกมาจำนวนมาก ยิ่งสิวอักเสบรุนแรงก็ยิ่งมีรอยดำชัดเจนมาก ฉะนั้นบริเวณที่อักเสบจะมีสีเข้มกว่าบริเวณอื่น จึงกลายเป็นรอยแผลเป็นจากสิวที่หายช้า
รอยแดง
เกิดจากเส้นเลือดฝอยบริเวณที่เป็นสิวขยายตัว มักพบได้บ่อยหลังจากสิวอักเสบยุบลง การอักเสบของสิวส่วนใหญ่มักจะทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นจากสิวสีแดง หรือสีชมพู
รอยหลุมสิว
รอยหลุมสิวคือรอยแผลเป็นจากสิวที่มีลักษณะผิวหนังเว้าลงไปจนเป็นหลุม เกิดจากการอักเสบของสิวที่รุนแรง ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง ส่งผลให้เกิดรอยหลุมสิว
รอยแผลเป็นนูน
รอยแผลเป็นจากสิวชนิดนี้ เกิดจากผิวหนังที่ผลิตเนื้อเยื่อออกมามากเกินไปเพื่อรักษาสิวอักเสบ จะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีความนูนสูงกว่าบริเวณรอบๆ ทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นนูนขึ้นมาได้ นอกจากสิวอักเสบแล้ว การผ่าตัด การบาดเจ็บ หรือแผลไหม้ก็สามารถทำให้เกิดรอยแผลเป็นนูนได้เช่นกัน
DSK CLINIC มั่นใจ ยาแท้ ปลอดภัย 100%
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว
วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวมีอยู่หลายวิธี ทั้งการรักษาด้วยตัวเอง หรือการรักษาทางการแพทย์อย่างหัตถการ ซึ่งแต่ละวิธีสามารถช่วยรักษา และเห็นผลได้ต่างกัน ดังนี้
สกินแคร์
สกินแคร์สามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิวแต่จะรักษาได้แค่รอยดำเท่านั้น รอยแผลเป็นจากสิวประเภทอื่นๆ อย่างรอยแดงจะช่วยรักษาได้น้อยมาก ส่วนรอยแผลเป็นนูนกับรอยหลุมสิวไม่สามารถช่วยรักษาให้จางลงได้
หากอยากรักษาให้ตรงจุด ควรใช้เลเซอร์เข้ามาเป็นตัวช่วยในการรักษา
ส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ที่สามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้มีดังนี้
- AHA คือกรดผลไม้ที่สามารถลดรอยแผลเป็นจากสิวได้ โดยการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก แล้วกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ แต่ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าบางลงได้
- BHA ถือเป็นส่วนผสมที่สามารถลดรอยสิว และรอยแผลเป็นจากสิวได้เป็นอย่างดี โดยการผลัดเซลล์ผิวเก่า ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง หรือผิวบางจนไวต่อแดด
- PHA เป็นกรดผลไม้ชนิดหนึ่ง ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพลง มีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่ากรด AHA และ BHA เพราะมีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า แต่ก็จะทำให้ซึมเข้าผิวช้ากว่า และเห็นผลช้ากว่าเช่นกัน จึงเหมาะกับคนผิวบาง ผิวแพ้ง่าย
- Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ลดเลือนรอยดำ รวมถึงลดการอักเสบ ลดการเห่อของสิวหนองได้
- Butyl Resorcinol เป็นส่วนผสมที่สามารถช่วยลดเมลานินได้ จึงช่วยรักษาปัญหารอยดำจากสิวได้ดี
- Arbutin สามารถรักษาลดความหมองคล้ำของผิวได้ จึงสามารถช่วยรักษารอยดำจากสิวให้จางลงได้
- Kojic Acid คือส่วนผสมที่พบได้ตามธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการลดเลือนรอยดำจากสิว เพราะสามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีในผิวได้
- Tranexamic acid มีส่วนช่วยในการรักษาปัญหารอยดำจากสิว ลดการก่อตัวของเมลานิน
เลเซอร์
เลเซอร์เป็นการรักษารอยแผลเป็นจากสิวต่างๆ ด้วยวิธีต่างกัน อย่างรอยดำเลเซอร์จะเข้าไปในชั้นผิวหนัง ช่วยทำลาย และลดการสร้างเม็ดสีผิวจากเซลล์ Melanocyte ที่ผลิตออกมาเป็นจำนวนมากเมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบ ในรอยแดงเลเซอร์จะช่วยลดการขยายตัวของเส้นเลือด ทำให้รอยแดงค่อยๆ จางลง ส่วนรอยหลุมสิวจะเป็นการรักษาตามอาการ หรือความรุนแรง อาจมีการตัดพังผืดเข้าร่วมด้วย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เลเซอร์รอยสิว บอกลารอยดำ รอยแดง บนใบหน้า
คนที่มีปัญหาแผลเป็นจากสิวจึงควรเลือกรักษาด้วยเลเซอร์ให้เหมาะสมกับปัญหารอยสิว นอกจากนี้ ควรเลือกทำการรักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีเทคนิคการรักษาที่ดี สามารถเข้าใจถึงต้นตอของปัญหา จึงทำให้การรักษานั้นแก้ปัญหาได้ตรงจุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เข้ารับบริการ
Picosecond Laser
คือเครื่องเลเซอร์ที่ทำงานโดยการปล่อยลำแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร และ 532 นาโนเมตรลงบนผิวหนัง โดยพลังงานของเลเซอร์จะเข้าไปจัดการเม็ดสีเมลานินให้แตกตัว จึงช่วยให้รอยดำ รอยแดงที่เป็นรอยแผลเป็นจากสิวจางลง ทั้งนี้ ควรเลือกคลินิกเข้ารักษาที่ใช้เทคนิคการยิงเลเซอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาผิว เพื่อการรักษาที่ตรงจุด
Potenza Laser
Potenza คือเทคโนโลยีเลเซอร์ RF Microneedling ที่ใช้เข็มขนาดเล็กเพื่อปล่อยคลื่นวิทยุลงสู่ชั้นผิวหนัง เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าหย่อนคล้อย และรอยแผลเป็นจากสิว
หัตถการสายฉีด
หัตถการสายฉีดมักจะเป็นการบำรุงผิวจากการฉีดสารเข้าไปในผิวหนังเพื่อให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลงได้ โดยแต่ละหัตถการก็เหมาะสมกับปัญหาที่ต่างกัน จึงสามารถเลือกหัตถการสายฉีดให้เหมาะกับปัญหาได้ดังนี้
รีจูรัน (Rejuran)
Rejuran ประกอบไปด้วยกรด Polynucleotide ซึ่งคือ DNA บริสุทธิ์ ที่สกัดจากปลาแซลมอน มีความบริสุทธิ์สูงและมีความคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น จึงทำให้รอยดำจากสิวจางลง สามารถรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้ หากใช้ร่วมกับการรักษาด้วยเลเซอร์
ฟิลเลอร์ (HA Filler)
ฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการสายฉีดเติมเต็มหลุมสิวได้ แต่ไม่ใช่ตัวช่วยหลักในการรักษา เพราะสามารถช่วยรักษาได้แค่รอยหลุมสิวบางประเภท ควรทำการรักษาควบคู่ไปกับการตัดพังผืด และเลเซอร์
สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator)
การใช้สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) เป็นวิธีที่มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองโดย USFDA ซึ่งมีการใช้มาอย่างยาวนานแล้วที่ต่างประเทศ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในเซลล์ร่างกายของเราเอง เพื่อฟื้นฟูสุขภาพผิวให้กลับมาดีขึ้น จึงสามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิว อย่างรอยดำให้แลดูจางลงได้ โดยตัวยาที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ผลิตโดยบริษัทยาที่เชื่อถือได้ คือ Sculptra และ Radiesse
DSK CLINIC มั่นใจ ยาแท้ ปลอดภัย 100%
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว
การรักษาสิวอย่างถูกวิธีจะทำให้สิวไม่ลุกลาม รวมถึงการไม่ปล่อยให้สิวขึ้นบนหน้านานๆ หรือขึ้นบนหน้าเยอะเกินไป การรักษาสิวอักเสบตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการอักเสบเรื้อรังและรอยแผลเป็น จึงควรรีบรักษารอยสิวให้เร็วที่สุด สามารถปรึกษา และรับคำแนะนำจากแพทย์สำหรับการวางแผนรักษาแผลเป็นจากสิวอย่างถูกต้อง เพราะการรักษาที่เร็วกว่า ย่อมมีโอกาสที่รอยจะหายได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันไม่ให้มีรอยแผลเป็นจากสิวได้ ดังนี้
ไม่แคะ แกะ หรือบีบสิว
การแคะ แกะ เกา หรือบีบสิว นอกจากจะสร้างรอยแผลเป็นจากสิวแล้ว ยังอาจทำให้ผิวหนังเสี่ยงติดเชื้อได้ด้วยเช่นกัน จึงควรหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าวนี้ ปล่อยให้สิวค่อยๆ หายเองตามธรรมชาติจะดีกว่า
หมั่นทาครีมกันแดด
แสงแดดถือเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดรอยดำได้ง่ายขึ้น หากพบเจอแสงแดดเป็นประจำ จึงควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดทำร้ายผิว โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ ขึ้นไป
รักษารอยแผลเป็นจากสิว ที่ DSK Clinic ดีกว่าอย่างไร?
DSK Clinic มีความชำนาญเฉพาะทางด้านหัตถการ ในการนำหัตถการหลายประเภทมารักษา และแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุด ตามสาเหตุของปัญหา โดยมีจุดเด่นที่สำคัญของคลินิกดังนี้
- แพทย์เชี่ยวชาญและตรงไปตรงมา และจริงจังกับการรักษา ที่ DSK เราคัดเลือกแพทย์ที่ผ่านการศึกษาเฉพาะทางด้านผิวหนังทั้งระดับปริญญาโท และวุฒิบัตรเฉพาะทางด้านผิวหนัง รวมถึงการศึกษาต่อใน และต่างประเทศ มีประสบการณ์ในการงางแผนดูแล ปัญหาสิว รอยสิว หลุมสิว ทุกประเภท ตามหลักการ และเทคโนโลยีที่มีหลักฐานทางการแพทย์ว่าได้ผลจริง
- เครื่องมือครบและเป็นเครื่องมือที่มีมาตรฐานระดับโลก
การมีเครื่องมือที่หลากหลาย สามารถทำให้แพทย์ที่ชำนาญสามารถเลือกเครื่อง หรือยามาใช้รักษา หรือดูแลให้เหมาะสมกับปัญหาผิวจริงๆ ได้มากกว่า เพราะปัญหาที่ต่างกัน จึงต้องใช้วิธีรักษาที่ต่างกันตามไปด้วย โดยเลเซอร์ที่ DSK ทุกเครื่องเป็นเลเซอร์รุ่นหรือประเภทที่มีการอัปเดทสม่ำเสมอ และผ่านมาตรฐาน USFDA ทุกเครื่อง คนไข้จึงมั่นใจได้ว่าได้ร้บการรักษาแบบ world-class standard - Technique ด้วยเทคนิคเฉพาะ จึงส่งผลต่อผลลัพธ์ ไม่ใช่เป็นเครื่องเดียวกันที่ใครยิงแล้วผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกัน แต่ด้วยเทคนิคที่ต่างกัน จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาต่างกัน ที่ DSK เน้นเรื่องความสำคัญเทคนิคการตั้งค่าพลังงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด มีการออกแบบเทคนิคการรักษาเฉพาะบุคคล ให้ออกมาตรงกับปัญหา อีกทั้งยังมีความแม่นยำ ในการตั้งค่าพลังงาน เพื่อทำให้ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ออกมาสูงสุด
รีวิวการรักษารอยแผลเป็นจากสิว ที่ DSK Clinic
* ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
* ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว
สรุป
รอยแผลเป็นจากสิวมีทั้งหมด 4 ชนิด คือ รอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว และรอยแผลเป็นนูน ซึ่งรอยแผลเป็นเกิดจากการอักเสบของสิวที่ทำลายคอลลาเจน และเนื้อเยื่อ จนทำให้เป็นรอยแผล สามารถรักษาได้โดยการทำ Picosecond Laser, Potenza Laser, Rejuran หรือฟิลเลอร์ สกินแคร์ และสารกระตุ้นคอลลาเจน แต่การรักษาโดย Picosecond Laser ถือเป็นการรักษาแผลเป็นจากสิวได้หลายแบบ ทั้งรอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว เพราะสามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างล้ำลึก โดยหากใครต้องการรักษาอย่างตรงจุด ตามสาเหตุของปัญหา ที่ DSK Clinic เป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญอันดับ 1 ในเรื่องของ Picosecond Laser มีแพทย์เฉพาะทางคอยวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลให้ พร้อมทั้งเทคนิคในการใช้เครื่อง จึงทำให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรอยแผลเป็นจากสิว
หมอขอรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรอยแผลเป็นจากสิวมาตอบเพื่อคลายข้อสงสัย ดังนี้
รอยแผลเป็นจากสิวหายเองได้ไหม?
รอยแผลเป็นจากสิวบางส่วนสามารถหายเองได้ แต่ใช้เวลานาน และบางส่วนอาจอยู่นานกว่า 1 ปีโดยไม่หายเอง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยว่า 80% ของรอยดำ และรอยแดงอาจกลายไปเป็นรอยหลุมสิวได้ ซึ่งรอยแผลเป็นนี้จะรักษาได้ยากกว่า จึงควรรีบรักษารอยดำ และรอยแดงอย่างถูกวิธี และรักษาโดยเร็วที่สุด
ทำไมบีบสิวแล้วเป็นรอยดำ?
การบีบสิวคือการกระตุ้นให้ผิวอักเสบ รวมถึงอาจทำให้สิวลุกลามเพิ่มขึ้นได้ จึงมีโอกาสที่จะเกิดรอยแผลเป็นจากสิวทุกประเภทได้มากขึ้น
ทำอย่างไรให้รอยสิวหายเร็ว?
การรักษารอยแผลเป็นจากสิวให้หายเร็ว ควรเข้ารักษาด้วยหัตถการ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น Picosecond Laser Potenza Laser Rejuran ฟิลเลอร์ และสารกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อให้รักษา หรือแก้ปัญหาอย่างตรงจุด เพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ทั้งนี้ควรปรึกษาทีมแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
อาหารเสริมช่วยลดรอยสิวได้จริงไหม?
ปัจจุบันอาหารเสริมมีหลักฐานสนับสนุนน้อยมากว่าสามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้ จึงไม่แนะนำเป็นวิธีหลักในการรักษารอยสิว
ควรรอให้สิวหายก่อน หรือรักษารอยสิวเลย?
สำหรับการรักษารอยสิวที่ถูกวิธี ควรทำการปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์พิจารณาความรุนแรงของสิวก่อนการรักษารอยสิว หากสิวรุนแรงมากจึงควรรักษาสิวให้หายก่อน หรือหากสิวไม่รุนแรงมาก มีรอยสิวจำนวนมากกว่า แพทย์จะทำการรักษาสิวไปพร้อมกับรอยสิว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นรอยหลุมสิว ซึ่งเป็นรอยแผลเป็นจากสิว และเพื่อให้หายเร็วขึ้นด้วย
ทายาเพื่อลดรอยสิว แต่ไม่ทำเลเซอร์ได้ไหม?
การทายา หรือสกินแคร์เป็นการช่วยรักษารอยสิวได้เฉพาะรอยดำที่ชั้นผิวตื้นๆ เท่านั้น ไม่สามารถรักษารอยแดง รอยหลุมสิวได้ แต่สามารถทายา หรือสกินแคร์เพื่อเป็นการรักษาควบคู่ไปกับเลเซอร์ เพื่อทำให้ผลลัพธ์จากการทำเลเซอร์ดีขึ้นได้ แต่อาจเห็นช้า ได้ผลเฉพาะกับรอยแผลเป็นจากสิวบ้างประเภทเท่านั้น
ทำไมบางคนทำเลเซอร์รอยสิวแต่ไม่เห็นผล?
แม้จะเป็นการทำเลเซอร์รอยแผลเป็นจากสิวเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์อาจต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับการวางแผนเฉพาะบุคคลในการรักษา เทคนิค และฝีมือของแพทย์ รวมไปถึงการตั้งค่าพลังงานเลเซอร์ ที่สำคัญมากอีกอย่างคือคุณภาพ และมาตรฐานของเครื่องเลเซอร์ด้วย หากเลือกทำกับคลินิก หรือสถานพยาบาลที่ไม่มีคุณสมบัติต่างๆ ดังกล่าว ก็อาจทำให้เลเซอร์รอยสิวแล้วไม่เห็นผล
DSK CLINIC มั่นใจ ยาแท้ ปลอดภัย 100%
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
บทความที่เกี่ยวข้อง
1. รีวิวรักษาฝ้า กระ ด้วย Picosecond Laser ปัญหาเม็ดสีผิวแบบไหนก็เอาอยู่
2. ทำไม Picosecond Laser จึงเป็น “เลเซอร์ที่ดีที่สุด” สำหรับฝ้า กระ
3. Rejuran หลุมสิว ตัวช่วยลดรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียน
4. 3 เคล็ด (ไม่) ลับในการรักษาหลุมสิว
5. อัพเดท 2024 รักษาหลุมสิว ด้วยเทคนิคล่าสุด ตามงานวิจัยฉบับหมอสกิน