- May 9, 2024
กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าทำได้กี่วิธี กิน ทา ฉีด หรือทำเครื่องดีกว่ากัน
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
คุณหมอขอสรุป กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า คอลลาเจนแบบกิน vs Sculptra แบบไหนดี?
|
ในปัจจุบันการกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าทางการแพทย์ เพื่อทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง อ่อนกว่าวัย ทำได้หลายวิธี แยกออกเป็น การใช้กลุ่มเครื่องเลเซอร์ และคลื่นพลังงาน เช่น Picosecond Laser, Thermage, Potenza และการฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเช่น Sculptra, Radiesse, Rejuran ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ส่วนการใช้อาหารเสริม หรือการทา คอลลาเจน ไม่ใช่วิธีการกระตุ้นคอลลาเจนที่ได้ผล
บทความนี้จะพาไปส่องตารางเปรียบเทียบ การกระตุ้นคอลลาเจนวิธีต่างๆ ทั้งการกินคอลลาเจน การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน Sculptra, Radiesse รวมถึงการใช้เครื่องมือกลุ่มกระตุ้นคอลลาเจนประเภทต่างๆ ให้เห็นชัดๆ ว่าตัวไหนคุ้มค่ากับการลงทุน
คอลลาเจน คืออะไร
คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นมา เป็นส่วนประกอบหลักของผิว กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น รวมถึงเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ซึ่งคอลลาเจนสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- คอลลาเจนชนิด I: มีจำนวนมากถึง 90% ของคอลลาเจนในร่างกาย เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง เส้นเอ็น รวมถึงโครงสร้างของร่างกาย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และสมานแผลบนผิวหนังได้ดี ดังนั้นการมีคอลลาเจนชนิดที่ 1 สามารถช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อีกด้วย
- คอลลาเจนชนิด II: พบมากในบริเวณหู จมูก และหลอดลม โดยคอลลาเจนชนิดที่ 2 ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ ช่วยบำรุงกระดูกอ่อน ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกของข้อต่อ ช่วยลดอัตราการเสื่อมและ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
- คอลลาเจนชนิด III: มักพบร่วมกับชนิดที่ 1 พบได้ในกล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน รวมถึงหลอดเลือดแดง มีหน้าที่ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่นแก่เนื้อเยื่อเหล่านี้
- คอลลาเจนชนิด IV: เป็นชนิดที่มีลักษณะเฉพาะตัว มักพบมากในบริเวณเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อ ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือด
- คอลลาเจนชนิด V: ชนิดที่ 5 เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่างๆ พบในเส้นผม และผิวของเซลล์
จากคอลลาเจนทั้งหมด 5 ชนิด จะเห็นว่าคอลลาเจนชนิด I มีความสำคัญต่อผิวมากที่สุด ช่วยเสริมสร้างให้ผิวแข็งแรง มีความกระชับมากขึ้น ดังนั้น ในการกระตุ้นคอลลาเจน ไม่ว่าจะเป็นการกิน การทา รวมไปถึงการฉีด จะมุ่งเน้นไปที่คอลลาเจนชนิด I เพื่อย้อนวัยผิวให้ดูกระชับ ไร้ริ้วรอย
การเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายมีกี่แบบ
จากที่ได้ทราบกันแล้วว่าคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย ช่วยในเรื่องการบำรุงผิวพรรณ บำรุงเส้นเอ็น จนไปถึงโครงสร้างกระดูก ดังนั้นยิ่งมีคอลลาเจนในร่างกายมาก จะช่วยให้ผิวพรรณดี ยืดหยุ่น กระชับ โดยมีวิธีกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกายได้ทั้งหมด 3 วิธี ดังนี้
- การเพิ่มคอลลาเจนด้วยการกิน เช่นการทานคอลลาเจนนั้นเห็นผลค่อนข้างน้อย หรือแทบจะไม่มีผลเลย ผลหลักที่ได้จะเป็นเรื่องความชุ่มชื่นเป็นหลัก Skincare
- การทาผิวเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ให้ทำความเข้าใจก่อนว่าการทาคอลลาเจนไปที่ผิวหนัง คอลลาเจนจะไม่สามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้ แต่สามารถเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ไนอะซินาไมด์ ฯลฯ ทั้งนี้การทาสกินแคร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะเห็นผลลัพธ์ได้น้อย และใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล การทาผิวกระตุ้นคอลลาเจนจึงเป็นการรักษาสภาพผิวให้ดี มากกว่าการแก้ไขปัญหาผิว
- การฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเข้าผิวหนัง เป็นวิธีที่ดี และเห็นผลรวดเร็วในการสร้างคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งก็คือการฉีด Sculptra หรือ Radiesse เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายโดยตรง โดยจะเป็นการสร้างเนื้อเยื่อของเราจริงๆขึ้นมาจริงๆ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดจากการขาดคอลลาเจนได้อย่างเห็นผลนั่นเอง
- การใช้เครื่องมือกลุ่มเลเซอร์ เช่น Picosecond Laser มีข้อดีคือสามารถพัฒนาคุณภาพผิวได้ทั้ง การลดเลือนรอยดำ รอยแดง และกระตุ้นคอลลาเจน โดยเด่นที่การกระตุ้นคอลลาเจนชั้นตื้น ให้ผิวโดยรวมเรียบเนียนขึ้น เด่นที่งานคุณภาพผิว ผิวเรียบเนียน รูขุมขน เป็นหลัก
อ่านต่อ Pico Laser คืออะไร 10 ข้อที่ต้องรู้ก่อนทำ
- การใช้เครื่องมือกลุ่มคลื่นวิทยุ เช่น Thermage Potenza มีข้อดีคือสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกกว่ากลุ่มเลเซอร์คือสามารถตุ้นได้ถึงหนังแท้ชั้นลึก ทำให้ได้ผลเรื่องผิวหด ผิวกระชับ ผิวยืดหยุ่น โครงหน้าที่ดูหดเล็กลง กระชับ อ่อนกว่าวัยขึ้น โดยหากเป็น Thermage จะเด่นเรื่องผิวกระชับ เป็นหลัก ได้เรื่องคุณภาพผิวบ้าง ถ้าเป็น Potenza จะได้ทั้งเรื่องคุณภาพผิว รูขุมขน หลุมสิว ริ้วรอย และได้เรื่องรูปหน้า ผิวหดกระชับไปพร้อมกัน
อ่านต่อ เจาะลึก Thermage คืออะไร ยกกระชับหน้า ดีหรือไม่? เครื่องไหนดีที่สุด
เจาะลึก Potenza เลเซอร์ทางเลือกใหม่ ยกกระชับปรับผิวเนียน
- การใช้เครื่องมือกลุ่มคลื่นเสียง เช่น Ulthera จะเด่นที่กระตุ้นคอลลาเจนชั้นลึกสุดคือ SMAS เด่นที่สุดการด้านยกกระชับ โดยผลลัพธ์ขึ้นกับเทคนิคการยิงของแพทย์เป็นหลักว่ามีความ เชี่ยวชาญ แม่นยำเพียงพอหรือไม่
อ่านต่อ Ulthera คืออะไร ย้อนวัยผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ไม่ต้องผ่าตัดทำอย่างไร?
คอลลาเจน มีส่วนสำคัญต่อผิวอย่างไร
คอลลาเจน มีส่วนช่วยบำรุงผิวได้ ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง และความยืดหยุ่นให้กับผิว
- ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู
- ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลเป็นดูจางลง
- ช่วยบำรุงฟื้นฟูสภาพผิว ลดปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น
การกินคอลลาเจนช่วยบำรุงผิวอย่างไร
การกินอาหารที่ช่วยสร้างคอลลาเจนนั้น เป็นวิธีที่สามารถช่วยบำรุงผิวได้เล็กน้อย แต่ไม่สามารถช่วยในเรื่องของการยกกระชับ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้เหมือนการทำ Sculptra , Ulthera, Thermage, Potenza เนื่องจากการฉีดการทำหัตถการทางการแพทย์ จะสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่า และลึกมากกว่า ในขณะที่การทาน มีการกระตุ้นคอลลาเจนที่น้อยมาก
กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า ด้วยสกินแคร์
ในปัจจุบันมีสกินแคร์มากมายที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ แนะนำให้เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสม ดังนี้
- Vitamin C ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน และอิลาสติน ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- Vitamin A ในรูปแบบอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นคอลลาเจน มักใช้ในผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการเกิดสิว ช่วยให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- Niacinamide ช่วยกักเก็บน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้ง รอยดำ
- Peptide ช่วยปรับสภาพพื้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการทาสกินแคร์จะเห็นผลค่อนข้างน้อยมากมักหวังผลเชิงการบำรุงผิว หากต้องการผลเรื่องการ ชะลอวัย แก้ไขปัญหาคุณภาพผิว และรูปหน้า การทำหัตถการทางการแพทย์ เช่น Sculptra, Ulthera, Thermage, Potenza จะเห็นผลชัดเจนมากกว่า
กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า ด้วยการฉีด Sculptra
การฉีด Sculptra คือ การฉีดอนุภาคของกรด PLLA (Poly-L-Lactic-Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของพื้นผิว ซึ่ง Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นโดยบริษัท Galderma และผ่านการรับรอง FDA จากประเทศสหรัฐอเมริกา มั่นใจได้ในด้านความปลอดภัย
หลักการทำงานของ Sculptra
Sculptra จะมีลักษณะเป็นผง ต้องนำไปผสมกับน้ำกลั่นที่ผ่านการฆ่าเชื้อจนสะอาดบริสุทธิ์ (Sterile water) ผสมให้เข้ากันจนครบ 10cc แล้วทำการฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง โดยหลังจากฉีดเสร็จจะเห็นว่าผิวหนังดูอิ่มฟู เนื่องจากปริมาณของน้ำที่ผสมเข้าไป หลังจากฉีด 2-3 วัน น้ำและสารประกอบส่วนอื่นๆ จะถูกดูดซึมเข้าร่างกาย โดยอนุภาคของกรด PLLA จะไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของเส้นใยคอลลาเจน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับ เติมเต็มริ้วรอย และสำหรับผู้ที่สนใจอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือกำลังลังเลระหว่างการฉีด Sculptra หรือ Radiesse สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ ที่นี่
Sculptra ต้องฉีดกี่ cc
โดยปกติแล้วเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง 1% ต่อปี ซึ่งตามหลักโดยปกติจะใช้เกณฑ์อายุในการพิจารณาปริมาณที่เหมาะสม เช่น ผู้ที่มีอายุ 30 ปี ควรฉีด Sculptra ทั้งหมด 3 ขวด (ขวดละ 10cc) ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวอีกด้วย
Sculptra ช่วยเรื่องผิวอย่างไรบ้าง
การฉีด Sculptra ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังได้ ดังนี้
- ช่วยเสริมสร้าง และฟื้นฟูผิว
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดปัญหาริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูกระชับ
- ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การทำ Sculptra เป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับใบหน้า โดยหากต้องการเน้นความกระจ่างใส ลดรอยดำ ลดการอักเสบของสิว ผิวกระจ่างใส แนะนำให้ทำ PICO Laser, Rejuran หรือเลือกทำหัตถการแบบอื่นๆ จะเหมาะสมกว่า
Sculptra เป็นวิธีกระตุ้นคอลลาเจน ที่เหมาะกับใคร
การฉีด Sculptra เป็นวิธีกระตุ้นคอลลาเจนที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสภาพผิว ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้า เช่น ขมับ หน้าแก้ม แก้มตอบ
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับในระยะยาว เนื่องจาก Sculptra สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 25 เดือน หากดูแลอย่างเหมาะสม
ความต่างของคอลลาเจนแบบกิน vs Sculptra และ เครื่องมือยกกระชับต่างๆ
ทำไมต้องฉีด Sculptra และใช้บริการเครื่องมือยกกระชับ ที่ DSK Clinic
การทำ Sculptra รวมถึงเครื่องยกกระชับเช่น Ulthera ที่ DSK Clinic นั้น คนไข้สามารถมั่นใจได้ว่ายาหรือเครื่องที่ทำเป็นของแท้ ผ่านการับรองจากทั้ง อย ไทย และ USFDA นอกจากยาแท้ และเครื่องแท้แล้ว ทั้ง Sculptra และ Ulthera เป็นหัตถการที่อาศัยเทคนิค และความแม่นยำ จึงจะได้ผล
เพราะหากแม้จะมียาแม้หรือเครื่องแท้ แต่เทคนิคไม่ดี ก็อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผล
ที่ DSK Clinic มีทีมคุณหมอที่มากประสบการณ์ เป็นคลินิก Top 3 Sculptra , Top 10 Filler และคลินิกยกกระชับใบหน้าชั้นนำของไทย เป็นหนึ่งในไม่กี่คลินิกของไทย ที่ผ่านการถ่ายเทคนิค ทั้งจาก Global และ Asia Pacific Trainer นำมาปรับใช้กับเทคนิคของ DSK ปรับให้เหมาะกับปัญหาแต่ละคน
แพทย์ DSK มีความเชี่ยวชาญด้านการยกกระชับ ทั้งการใช้ Ulthera, Sculptra,Potenza , Thermage โดยเน้นการเลือกการรักษาให้เหมาะกับปัญหาจริง มีเทคนิคการวิเคราะห์ใบหน้าก่อนทำการรักษาทุกเคส เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับใบหน้าของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์สูงสุด ของคนไข้แต่ละคน
𝑫𝑺𝑲 𝑭𝒊𝒍𝒍𝒆𝒓 & 𝑳𝒊𝒇𝒕𝒊𝒏𝒈 𝑬𝒙𝒄𝒆𝒍𝒍𝒆𝒏𝒄𝒆 𝑭𝒐𝒄𝒖𝒔
[1 ใน 3 ความเชี่ยวชาญในการรักษาเฉพาะด้านของ DSK : ปรับรูปหน้า | รักษาหลุมสิว | เลเซอร์งานผิว]
- “แพทย์” รวมทีมแพทย์เฉพาะทางการปรับรูปหน้า วิเคราะห์ลงลึกถึงโครงสร้าง
- “เครื่องมือ” ระดับ Gold-Standard ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก
- “เทคนิค” ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล อัพเดตเทคนิคใหม่อย่างสม่ำเสมอ
𝑫𝑺𝑲 𝑻𝒉𝒆 𝑭𝒊𝒓𝒔𝒕 𝑪𝒖𝒔𝒕𝒐𝒎𝒊𝒛𝒆𝒅 𝑪𝒍𝒊𝒏𝒊𝒄
“เทคนิคต่าง ผลลัพธ์ต่าง” เพราะผลลัพธ์ของคุณสำคัญที่สุดสำหรับเรา
เครื่องมือได้รับการรับรอง USFDA อัพเดทเทคนิคการรักษาและงานวิจัยจากทั่วโลก
ทีมแพทย์ผิวหนัง เชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์ดูแลคนไข้กว่า 50,000 เคส
ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อตัวเองในรูปแบบที่ดีกว่าเดิม
รางวัลล่าสุดที่ DSK ได้รับรางวัลใหญ่ที่สุดของ Sculptra ในไทย
คลินิกที่ให้บริการสูงสุด 1 ใน 3 คลินิก จากคลินิกทั้งหมดทั่วประเทศ
ตรวจสอบโปรโมชั่นและของสมนาคุณได้ทางแอดมิน
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
รีวิวการทำ Sculptra ที่ DSK Clinic
สรุป
‘คอลลาเจน’ เป็นสารที่ช่วยบำรุงฟื้นฟูสภาพผิวของเราให้มีความชุ่มชื้น มีสุขภาพผิวดี ซึ่งเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลง ทำให้ผิวหนังดูหย่อนคล้อย มีริ้วรอยได้ง่าย การฉีด Sculptra รวมถึงการใช้เครื่องมือยกกระชับเช่น Ulthera, Thermage และ Potenza จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยปรับสภาพผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระชับมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และคงผลลัพธ์ได้นาน ทั้งนี้การฉีด Sculptra รวมถึงการทำเครื่องมือยกกระชับ เเค่เครื่องแท้หรือยาแท้อย่างเดียวไม่พอ เพราะเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง อาศัยเทคนิคและความแม่นยำ ซึ่ง DSK เป็นคลินิกชั้นนำระดับประเทศทั้งด้านเลเซอร์ และการยกกระชับ รวมทั้งทีมแพทย์ที่เข้าใจปัญหา เครื่องมือที่ครบครัน และเทคนิคที่ปรับเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด หากใครมีปัญหา หรือต้องการปรึกษาปัญหาคุณภาพผิว การยกกระชับ สามารถทักนัดปรึกษาคุณหมอได้เลย
DSK CLINIC มั่นใจ ยาแท้ ปลอดภัย 100%
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า
ฉีด Sculptra เห็นผลชัดเจนตอนไหน
การฉีด Sculptra สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 3 เดือน
ควรฉีด Sculptra กี่ครั้งดี ถึงจะเห็นผล
สำหรับการฉีด Sculptra จะใช้วิธีการนับจากช่วงอายุ โดยทุกๆ 10 ปี ควรฉีด Sculptra 1 ขวด (10 cc) แปลว่าหากคุณมีอายุ 30 ปี ควรฉีด Sculptra ทั้งหมด 3 ขวด โดยจะฉีดเดือนละ 1 ครั้ง และแบ่งปริมาณในการฉีดออกเป็น 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ต้องใช้ และสภาพผิวของคนไข้ ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นานสูงสุดถึง 25 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
บทความที่เกี่ยวข้อง