คุณหมอขอสรุป วิธีปรับรูปหน้าให้ V-Shape

– สาเหตุที่ทำให้หน้าไม่วีเชฟ มีอยู่หลายสาเหตุ ได้แก่ ไขมันสะสม กระดูก กล้ามเนื้อกรามและผิวที่หย่อนคล้อย ซึ่งเกิดได้จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น กรรมพันธุ์หรือพฤติกรรมการกิน – การแก้รูปหน้าให้วีมากขึ้นจึงต้องประเมินตามสาเหตุและเลือกเครื่องมืออย่างถูกต้อง  – Ulthera คือ การยิงพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์บนชั้น SMAS กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ให้ผิวหดตัว มีความยืดหยุ่นและดูเต่งตึง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากชั้น SMAS – Thermage คือ การยิงคลื่นวิทยุ (RF) ลงบนชั้นผิว Dermis และไขมัน เสริมคอลลาเจนให้แข็งแรง ลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ริ้วรอยต่างๆ ผิวจึงมีความแข็งแรงและกระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวด้านบนหลวม ไม่กระชับ  ข การฉีดโบท็อกซ์ คือ การฉีดสาร Botulinum toxin ในบริเวณที่ต้องการให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง เนื่องจากเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบประสาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากการทำงานหนักของกล้ามเนื้อกราม อยากให้กรอบหน้าดูเรียว ชัด – การผ่าตัดศัลยกรรมกราม คือ การผ่าตัดแต่งกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยมจากกระดูก รวมทั้งปัญหาคางยื่นหรือคางยาวจนเกินไป ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีอื่นแก้ไขได้  – การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็ม HA เข้าไปในบริเวณคางเพื่อเพิ่มความยาวหรือความโค้งมนของคางมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางตัด คางสั้น หรือคางบุ๋ม หน้ากลมใหญ่ เป็นวิธีช่วยเพิ่มความยาวของใบหน้า ให้กรอบหน้าดูเรียว สมมาตรมากขึ้นนั่นเอง – มั่นใจในการยกกระชับ ปรับรูปหน้าที่ DSK Clinic ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีการวิเคราะห์และวางแผนปรับรูปหน้าได้อย่างตรงจุด “เฉพาะบุคคล” ตามปัญหาที่แตกต่างกัน และเหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ พร้อมทั้งติดตามผลลัพธ์หลังการทำ เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้ได้รูปหน้าตามที่ต้องการและพึงพอใจในผลลัพธ์มากที่สุด

หน้าวีเชฟ เป็นโครงหน้าที่เป็นต้องการของผู้หญิงหลายๆ คน มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้หน้ากลม แก้มเยอะ หน้าใหญ่ มีเหนียงหรือคางชั้น เพื่อเลือกวิธีปรับรูปหน้าให้ v-shape เหมาะสมกับรูปหน้าของเรามากที่สุด

หน้า V Shape คืออะไร

หน้า V-Shape คือ ใบหน้าที่มีลักษณะเรียวยาว เป็นรูปไข่ มีหน้าผากได้สัดส่วน  โดยสัดส่วนด้านล่างของใบหน้ามีขนาดเล็กกว่าสัดส่วนด้านบน คางโค้งมนรับกับโครงหน้าทั้งหมด เป็นรูปหน้าที่ได้สัดส่วนเหมาะกับทรงผมหลายๆ ทรง ทำให้หน้า v-shape เป็นโครงหน้าผู้หญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นเอง

ทำไมหน้า V- Shape ถึงเป็นที่นิยม

หน้าวีเชฟถูกมองว่าเป็นใบหน้าที่มีสเน่ห์และน่าดึงดูด เพราะเป็นโครงหน้าผู้หญิงที่บ่งบอกถึงความอ่อนเยาว์ ความอ่อนหวานและความสมมาตรของโครงสร้างใบหน้า ทั้งยังเป็นรูปหน้าที่สื่อถึงโหงวเฮ้งที่ดี ช่วยสร้างโอกาสในเรื่องของการงานและความรัก ดังนั้น หน้ารูป v-shape จึงได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะในโซนเอเชียว่าเป็นโครงหน้าที่ได้มาตรฐานตามค่านิยมความงามของหลายๆ ประเทศในเอเชีย นอกจากนี้กระแสจากไอดอลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้า v-shape เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน

สัดส่วนหน้า V-Shape ตามโหงวเฮ้ง

ใบหน้ารูปทรง V-shape เป็นแนวโน้มความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยตามตำราโหงวเฮ้ง มีลักษณะดังต่อไปนี้

1. โครงหน้า :  โครงหน้าเรียวลงมาแบบเพชร ขมับเต็ม คางยาวเรียว
2. หน้าผาก : กว้าง สูง โค้งรับกับไรผม โหนกนูน พอดี
3. กราม : เรียว ชัด สันคม
4. คาง : คางแหลมชัดเจน มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำ
5. ความยาวใบหน้า : ยาวประมาณ 3 เท่าของความกว้างคาง 

ใบหน้าแบบ V-shape ถือเป็นหนึ่งในค่านิยมความงามในยุคปัจจุบัน แต่ใบหน้าของแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน ฉะนั้นการปรับรูปหน้าควรอิงโครงสร้างหน้าของตนเองเพื่อความเป็นธรรมชาติ เพราะค่านิยมความงามเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่เอกลักษณ์เฉพาะตัวจะอยู่กับเราตลอดไป

สาเหตุที่ทำให้หน้าไม่ V-Shape

หน้าวีเชฟ เป็นเทรนด์โครงหน้าผู้หญิงที่หลายคนต้องการ เพราะช่วยเสริมความมั่นใจและเป็นโหงวเฮ้งที่ดี ทั้งต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน ซึ่งปัญหาหน้าไม่ v-shape เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย โดยแต่ละปัจจัยมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

• กระดูก เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างของใบหน้า ซึ่งทำให้มีโครงหน้ามีหลายรูปแบบ จึงสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดเท่านั้น
• กล้ามเนื้อกราม คือกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่ทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหาร หากรับประทานอาหารที่เหนียว แข็งหรือเคี้ยวยาก อาจทำให้กล้ามเนื้อกรามนั้นทำงานหนักและขยายใหญ่ขึ้น ทำให้สัดส่วนช่วงล่างของใบหน้ากว้างและดูไม่วีเชฟ สามารถแก้ได้ด้วยการฉีด Botox ที่จะทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง
• ไขมัน ไขมันมักจะสะสมตามร่างกายรวมทั้งใบหน้า เกิดจากการที่น้ำหนักขึ้นหรือรับประทานอาหารที่ประกอบด้วยไขมันสูง ทำให้ไขมันสะสมบริเวณใบหน้าช่วงแก้มหรือคาง หน้าจึงดูกลม การทำ Potenza หรือ Thermage จะช่วยสลายเซลล์ไขมันบางส่วนออก จึงช่วยให้หน้าเรียวขึ้นได้
• ผิวหย่อนคล้อย เกิดจากผิวที่มีความกระชับน้อยลงเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินจึงลดลง ทำให้เกิดปัญหาหน้าห้อย แก้มย้อย แก้มตก สามารถแก้ได้ด้วย Ulthera, Potenza หรือ Thermage ซึ่งจะช่วยให้หน้ากระชับขึ้น ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์

อย่างไรก็ตาม การที่หน้า v-shape เล็กจนเกินไปอาจจะดูไม่สวยงาม ไม่ไ่ด้สัดส่วน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการปรับรูปหน้าที่เหมาะกับโครงหน้าของเรา เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาตรงจุด ผลลัพธ์ออกมาสวยเป๊ะเหมาะกับตนเอง

วิธีปรับรูปหน้าให้ V-Shape ตามปัญหาอย่างตรงจุด

เมื่อรู้แล้วว่าปัญหาหน้าไม่ v-shape มีสาเหตุและปัจจัยจากอะไรบ้าง ทีนี้จึงควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหา เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยสามารถวิเคราะห์เบื้องต้นได้จากโครงหน้า ใบหน้า ไขมันที่สะสม หรือการหย่อนคล้อยของผิว

• หน้ากลม เป็นลักษณะโครงสร้างที่เกิดจากการที่มีไขมันสะสมบนใบหน้า แก้มเยอะหรือแก้มใหญ่ ทำให้หน้าดูอ้วน รวมทั้งคางสั้นหรือคางตัด
• หน้าหัวใจ เป็นรูปหน้าที่หน้าผากที่สัดส่วนกว้างมากที่สุด คางแหลม ซึ่งมาจากโครงสร้างของกระดูกและกล้ามเนื้อเป็นหลัก
• หน้าเพชร คนที่มีโครงหน้าลักษณะนี้จะมีโหนกแก้มเป็นจุดเด่นซึ่งเห็นได้ชัดที่สุด คางแหลมและหน้าผากแคบคล้ายกับเพชร ซึ่งเกิดจากโครงสร้างของกระดูก
• หน้าเหลี่ยม ใบหน้าลักษณะนี้อาจเกิดจากปัญหาไขมันสะสมหรือโครงสร้างที่โหนกแก้มและกรามมีสัดส่วนเท่ากัน 

ทั้งนี้ควรให้แพทย์วิเคราะห์หาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อแก้ไขให้มีใบหน้า v shape ตามที่ต้องการ

1. Ulthera

Ulthera คือ เครื่องช่วยยกกระชับ เหมาะกับผู้ที่มีผิวเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย มีรอยพับบนใบหน้า มีรอยย่นต่างๆ จากอายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนัก โดยอัลเทอร่าเป็นเครื่องมือที่สามารถส่งพลังงานความร้อนถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ทำให้หน้าดูกระชับ เต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งการทำอัลเทอร่าหนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ความเสี่ยงต่ำ และเป็นวิธียกกระชับใบหน้าที่ทั่วโลกยอมรับ จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นหลังจากทำภายใน 1-3 เดือน เพราะเป็นช่วงที่คอลลาเจนจะถูกสร้างอย่างเต็มที่

2. Thermage

Thermage คือนวัตกรรมที่ช่วยในการหดผิว ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูเรียบเนียน เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีใบหน้ากลม แก้มเยอะ แก้มใหญ่จากการสะสมของใขมัน การทำ Thermage นอกจากจะช่วยให้ผิวหด กระชับ ใบหน้าดูเล็กลงแล้ว พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ที่เป็นพลังงานความร้อนยังสามารถลงลึกไปยังชั้นผิวหนังต่างๆ 3 ชั้นผิว คือ 

• ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis):  กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น
• ชั้นหนังแท้ (Dermis): กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังกระชับและเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยดูลดลง
• ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat): ช่วยสลายไขมัน ทำให้ใบหน้าเล็กลง ดูเรียวขึ้น

เทอมาจสามารถอยู่ได้นานถึง 1 – 2 ปี และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 3-6 เดือนหลังการทำ

3. ฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ คือ การใช้สารโปรตีนที่มีชื่อว่า Botulinum toxin (Type A) ที่สร้างจากเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติไม่อันตราย ซึ่งสารนี้จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทในตำแหน่งที่ฉีดและเข้าไปรบกวนการทำงานของเซลล์ประสาทในการส่งสารสื่อนำประสาทไปยังกล้ามเนื้อปลายทาง ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และทำงานน้อยลง การโบท็อกซ์กรามจึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการทำหน้าวีเชฟของคลินิกเสริมความงาน เนื่องจากช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนกรามหรือกรอบหน้าเล็กลง และเห็นผลชัดเจนภายใน 1 เดือน

4. ร้อยไหม

ร้อยไหม คือ การใช้ไหมละลายสอดใต้ชั้นผิวหนังเพื่อดึงผิวหน้าให้กระชับในตำแหน่งที่กำหนดไว้ กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อจะถูกยกขึ้นตามทิศทางที่ร้อยไหม โดยการร้อยไหมเป็นการกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนรอบๆ บริเวณเส้นไหม ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ก่อให้เกิดอาการบวมหรือช้ำน้อยที่สุด นอกจากจะช่วยให้หน้าเรียว กระชับ ดูวีเชฟมากขึ้น ยังช่วยลดริ้วรอยได้อีกด้วย

5. ศัลยกรรมผ่าตัดกราม

ศัลยกรรมผ่าตัดกราม คือ การผ่าตัดกรามสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกกรามใหญ่หรือไม่เท่ากัน สัดส่วนไม่ตอบรับกับใบหน้า ทำให้หน้าดูเหลี่ยม ไม่สมมาตร ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้จากการฉีดโบท็อกซ์ การศัลยกรรมผ่าตัดกรามจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เกิด v-shape ได้ เกิดอาการบวม และต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้ใช้ระยะเวลา 1-2 ปี จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสวยงาม

6. ด้วยฟิลเลอร์

การปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่เหมาะผู้ที่มีปัญหาหน้ากลมหรือหน้าเหลี่ยม โดยเป็นการเติมสารเติมเต็ม Hyaluronic acid ปกติจะฉีดฟิลเลอร์ไปยังจุดที่ต้องการเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม เช่น การยกกระชับ การสร้างกรอบหน้าหรือการเพิ่มความยาวให้กับใบหน้า เป็นต้น การฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์หลังฉีดเลย และส่วนใหญ่จะคงอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน หรือแล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์  โดยจุดที่คนมักจะเติมฟิลเลอร์เพื่อให้หน้าวีเชฟ ได้แก่

• คาง สำหรับคนที่คางสั้น คางตัดหรือคางบุ๋ม การฉีดฟิลเลอร์คางจะช่วยให้คางดูยาวขึ้นดูสมส่วน มีความโค้งมนรับกับใบหน้า  หน้าดูเรียว คมชัดและดูวีเชฟมากขึ้น
• หน้าแก้ม สำหรับคนที่หน้าแบน ดูไม่มีมิติ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณโหนกแก้มเพื่อปรับในส่วนของใบหน้าช่วงกลางให้ดูยกขึ้น ซึ่งเป็นการเน้นมิติของโหนกแก้มให้สมดุล เพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และดู v-shape มากขึ้น

อยากหน้า V-Shape แต่กลัวเข็ม ไม่กล้าผ่าตัดกราม เลือกวิธีไหน

สำหรับคนที่กลัวเข็ม ไม่กล้าผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้น แต่อยากมีหน้าวีเชฟ เทคโนโลยีเครื่องยกกระชับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความปลอดภัยสูง บวมช้ำน้อย อย่าง Ulthera และ Thermage ที่สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ดูสมส่วน โดยไม่ต้องพึ่งการร้อยไหม หรือศัลยกรรมผ่าตัด อย่างไรก็ตาม ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัยและวางแผนการปรับรูปหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเข้ากับใบหน้ามากที่สุด

เทคโนโลยีเครื่องยกกระชับ Ulthera และ Thermage ต่างกันอย่างไร เลือกอะไรดี

ใครที่กำลังลังเลว่าควรเลือกเทคโนโลยีเครื่องยกกระชับแบบไหน ควรเลือก Ulthera หรือ Thermage ดี เพื่อให้ตอบโจทย์กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขที่แตกต่างกัน ทาง DSK ได้รวมข้อแตกต่างเรื่องความคงทน ผลลัพธ์ ราคาและระยะเวลาการทำระหว่างสองเครื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว

• Thermage ปล่อยคลื่นวิทยุ (Radio frequency) เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับผิวให้ดูหดลง หน้าเล็กลง เพราะสามารถช่วยลดไขมันได้ดี ช่วยให้รูขุมขนเล็กลงและดูเรียบเนียน รวมทั้งช่วยลดริ้วรอยและสิว ใช้เวลาในการทำประมาณ 40 นาทีขึ้นไป ชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานราวๆ  1-2 ปี 
• Ulthera ปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องยกผิวจากชั้นลึก ต้องการโครงหน้าที่ดูยกขึ้น และผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าไม่มาก ใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที ชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือนและอยู่ได้นานราวๆ 1-2 ปี 

ซึ่งเทคโนโลยีของเครื่องยกกระชับ  Ulthera และ Thermage ใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน และระยะเวลาในการคงทนขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตนเองของแต่ละบุคคล ทั้ง 2 วิธิมีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องพักฟื้น เพราะสามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ในส่วนของราคานั้นสามารถปรึกษากับแพทย์เพื่อวิเคราะห์ว่าปัญหามากน้อยแค่ไหน ความเชี่ยวชาญของแพทย์ รุ่นของเทคโนโลยีที่ให้บริการแบบใดและแต่ละสถานที่ที่ให้บริการ

ปรับรูปหน้า V-Shape ทำที่ไหนดี เลือกอย่างไร

การปรับรูปหน้า V-Shape ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการนั้นไม่ใช่ว่าจะทำที่ไหนก็ได้ ควรเลือกทำกับคลินิกที่น่าเชื่อถือกับแพทย์ที่มีฝีมือและประสบการณ์สูง เพราะหากเลือกทำกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือราคาถูกจนเกินไปอาจส่งผลอันตรายมากกว่าที่คิด ซึ่งวิธีการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานสามารถ มีดังต่อไปนี้

1. แพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ 
2. ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้เป็นของแท้ สามารถตรวจสอบได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการฉีดของปลอม
3. ราคาผลิตภัณฑ์สมเหตุสมผล สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกยี่ห้อที่เหมาะสม
4. คลินิกได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข น่าเชื่อถือ สะอาด และมีเลขที่ใบอนุญาต
5. มีอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐาน เช่น เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจสอบคลื่นหัวใจหรืออุปกรณ์กู้ชีพ เป็นต้น
6. มีบริการปรึกษาแพทย์ฟรีก่อนการทำหัตถการ
7. มีริวเคส เปรียบเทียบก่อนหลังทำของคลินิกเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ
8. มีการบริการดูแลหรือรับประกันหลังทำ เพื่อให้คนไข้ปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง

ปรับรูปหน้า V-Shape ที่ DSK Clinic ดีกว่าอย่างไร

การปรับรูปหน้า V-Shape ที่ DSK Clinic มีความแตกต่างจากที่อื่น เพราะมีการวิเคราะห์และประเมินปัญหาของคนไข้โดยละเอียด ตามสาเหตุเฉพาะบุคคล เครื่องมือระดับ Gold-standard ที่ผ่านมาตรฐาน USFDA โดยขั้นตอนการวิเคราะห์และรักษาแบบ “เฉพาะบุคคล” ที่ DSK มีดังนี้

1. Custom Analysis มีการประเมินทุกสัดส่วนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หาสาเหตุที่แท้จรืง  ให้ได้รูปหน้าแบบ v-shape ที่สวย ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแบบที่ต้องการ 
2. Custom Planing มีการวิเคราะห์ปัญหา เพราะคนไข้แต่ละคนมีรูปหน้า สัดส่วนใบหน้า และโครงหน้าที่แตกต่างกัน หากแก้ปัญหาถูกจุด ก็จะทำให้การทำ v-shape ออกมาสวยงามตามที่ต้องการ
3. Custom Technique แพทย์จะเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม หลังจากวิเคราะห์โครงหน้าและปัญหาโดยละเอียดแล้ว เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยกว่าและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

DSK Filler and Lifting excellence Focus

𝑫𝑺𝑲 𝑭𝒊𝒍𝒍𝒆𝒓 & 𝑳𝒊𝒇𝒕𝒊𝒏𝒈 𝑬𝒙𝒄𝒆𝒍𝒍𝒆𝒏𝒄𝒆 𝑭𝒐𝒄𝒖𝒔

1 ใน 3 ความเชี่ยวชาญในการรักษาเฉพาะด้านของ
DSK : ปรับรูปหน้า | รักษาหลุมสิว | เลเซอร์งานผิว

“แพทย์” รวมทีมแพทย์เฉพาะทางการปรับรูปหน้า วิเคราะห์ลงลึกถึงโครงสร้าง  

“เครื่องมือ” ระดับ Gold-Standard  ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก

“เทคนิค” ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล  อัพเดตเทคนิคใหม่อย่างสม่ำเสมอ

รีวิวปรับรูปหน้า V-Shape ที่ DSK Clinic

* ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
* ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว

ช่องทางการติดต่อ DSK Clinic

DSK Clinic มีทีมแอดมินคอยแนะนำ และให้คำปรึกษาฟรี แอดไลน์ปรึกษา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้

สอบถาม จองคิวปรึกษาแพทย์

Facebook: https://www.facebook.com/dsk.clinic/ 
Instagram: https://www.instagram.com/dsk.clinic/ 
YouTube: https://www.youtube.com/@dskclinic 
TikTok: https://www.tiktok.com/@dskclinic 

สรุป

หน้าวีเชฟคือลักษณะใบหน้าที่สัดส่วนช่วงล่างเล็ก โค้งมน เรียวได้รูป แสดงถึงโหงวเฮ้งที่ดีและเป็นที่นิยมของหลายๆ คน สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าไม่ V-Shape สามารถทำการแก้ไขได้หลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุของแต่ละบุคคล ในผู้ที่มีไขมันแก้มเยอะหรือผิวหย่อนคล้อย เทคโนโลยีเครื่องยกกระชับ Thermage และ Ulthera หากเป็นสาเหตุจากกล้ามเนื้อให้ Botox 

ขั้นตอนของที่  DSK Clinic จะเริ่มต้นที่การหาสาเหตุวิเคราะห์ถึงโครงสร้าง เลือกการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะสามารถวิเคราะห์ วางแผน และเลือกเทคนิคการรักษาให้กับปัญหาคนไข้ที่มีโครงสร้างแตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม ผลลัพธ์จึงออกมาสวยเข้ากับปัญหาของแต่ละเคสได้อย่างตรงจุด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับหน้า V-Shape (FAQ)

DSK Clinic ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาและคำตอบคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับหน้า V-Shape ให้กับทุกคนแล้ว ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จากด้านล่างนี้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

1. คัมภีร์ เปรียบเทียบ Ulthera กับ เครื่องยกกระชับ 5 ตัวท็อป
2. Ulthera คืออะไร ย้อนวัยผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ไม่ต้องผ่าตัดทำอย่างไร? 
3. เจาะลึก Thermage คืออะไร ยกกระชับหน้า ดีหรือไม่? เครื่องไหนดีที่สุด
4. ไขข้อข้องใจ Thermage ราคาเท่าไร ทำที่ไหนดี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ
5. Ulthera ทั่วหน้า กี่ช็อตดี? ทำเท่าไหร่ถึงเห็นผลตามงานวิจัย