RADIESSE® (เรเดียสซ์) สารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิวใหม่
ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ ได้ยาวนาน
ด้วยเทคนิคเฉพาะ ที่ DSK Clinic เท่านั้น
RADIESSE นวัตกรรมใหม่ที่สุดของงานผิวเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ย้อนวัยผิว ลดเลือนริ้วรอย กระชับผิวหน้าและลดหลุมสิว ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น เรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้น มารู้จัก RADIESSE คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร แตกต่างจากฟิลเลอร์และหัตถการอื่นๆ อย่างไรบ้าง พร้อมข้อควรรู้อื่นๆเกี่ยวกับ RADIESSE บทความนี้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว
RADIESSE หรือ เรเดียส เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของตัวยากระตุ้นคอลลาเจน หรือ Biostimulator และเป็นสารเติมเต็มซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปทั้งในเรื่องของสารประกอบหลักและการทำงาน โดย RADIESSE มีความโดดเด่นทางด้านย้อนวัยความแน่นเฟิร์ม และเรียบเนียนของผิว ของผิว ทำให้ผิวมีวอลลุ่มชุ่มชื้นอยู่ได้นานเพราะเข้าไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในร่างกายตามธรรรมชาติ แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เป็นการใส่ตัวเจล Hyaluronic acid เข้าไป อีกทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวกระชับ แข็งแรง เรียบเนียนและดูเด็กลง
RADIESSE™ คือสารเติมเต็มผิวหนังที่ มีสารสำคัญคือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ในรูปแบบไมโครสเฟียร์ (Calcium Hydroxyapatite Microspheres, CaHA) ที่คัดเฉพาะขนาด 25-45 ไมครอน ใน RADIESSE หนึ่งโดสประกอบไปด้วย CaHA ปริมาณ 30% หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อนึงว่า “คาห้า” เป็นสารประกอบด้วยฟอสเฟต (Phosphate Ion) และแคลเซียม (Calcium ) ที่พบได้ในร่างกายโดยธรรมชาติอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะในกระดูกและฟัน และอีกปริมาณ 70% เป็นสารเนื้อเจล Sodium Carboxymethylcellulose ที่ทำหน้าที่นำพา CaHa เข้าสู่ตำแหน่งที่ฉีด
โดยสาร CaHA ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์มานานกว่า 25 ปี ดังนั้น synthetic CaHA ของ RADIESSE® จึงมีความปลอดภัยสูงสามารถเข้ากับร่างกายได้ดี (Biocompatibility) โดยไม่เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน (Non-immunogecin Properties) และสามารถสลายไปตามธรรมชาติด้วยระบบ Normal Homeostatic Mechanisms ของร่างกายตามปกติได้
RADIESSE สามารถใช้เป็นได้ทั้ง ฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้กับรอยพับบนใบหน้า และช่วยพยุงกระชับใบหน้าส่วนบน ลดความหย่อนคล้อยของผิวในใบหน้าส่วนล่าง หรือสามารถใช้เป็น Biostimulator เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสตินเพิ่มความยืดหยุ่น และเรียบเนียนของผิวได้
หลักการทำงานของการฉีด RADIESSE คือการเข้าไปกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังตามธรรมชาติในร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนได้เร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การเพิ่มของคอลลาเจนที่มากขึ้นจะช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรง กระชับ เรียบเนียนทำให้ใบหน้าดูตึงและมีผิวที่แน่นเฟิร์มขึ้นนั่นเอง
กลไกการทำงานของ RADIESSE® คือฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast (เซลล์ต้นตอการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน ) ส่งผลให้กระตุ้นการสร้าง Key components 5 อย่าง ได้แก่ที่มีส่วนสำคัญต่อผิวที่สุขภาพดี
สรุปแล้ว การฉีด RADIESSE จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในการฟื้นฟูผิวทำให้ริ้วรอย รอยพับย่นต่างๆ บนใบหน้าและส่วนต่างๆ ลดลง รวมทั้งทำให้ผิวยืดหยุ่น คืนตัวได้ดีขึ้น ย้อนอายุผิวให้เรียบเนียน และยืดหยุ่น
กลไกการทำงานของ RADIESSE® คือฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast (เซลล์ต้นกำเนิดผิว) ส่งผลให้กระตุ้นการสร้าง Key components 5 อย่าง ที่มีส่วนสำคัญต่อผิวที่สุขภาพดี
มอบ 3 ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันที และยาวนานกว่าที่เคย โดย CaHA microsphere
ซึ่ง RADIESSE ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะ Radiesse จะเข้าไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติคล้าย Sculptra ทำให้ผิวเรียบเนียนเต่งตึง ได้ความเฟิร์มของผิว และลดริ้วรอยต่างๆระยะยาว แต่ Filler จะเน้นการเติมปริมาตรของผิวจากเนื้อเจล Hyaluronic acid รวมทั้งปรับโครงสร้างทดแทนกระดูกและไขมันที่หายไป แต่ไม่ได้เป็นกลไกหลักในการกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว 18-24 เดือนหลังจากฉีด RADIESSE
Debra อายุ 62 ปี
Source: https://radiesse.com/before-after/
Jackie อายุ 52 ปี
ใน RADIESSE หนึ่งกล่อง ประกอบด้วย ตัวยา บรรจุในหลอดพร้อมฉีด เป็นแบบชนิดใช้ครั้งเดียว ขนาดบรรจุ 1.5 ซีซี
เป็นการฉีดแบบไม่ผสมน้ำเกลือ ให้ผลลัพธ์คล้ายฟิลเลอร์ ใช้ทดแทนฟิลเลอร์เนื้อหนักได้ มีค่าการตั้งทรงที่สูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปจึงเหมาะกับการฉีดเฉพาะบางบริเวณที่ต้องการ ไม่ไ่ด้เป็นการฉีดบริเวณกว้างเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่เป็นการฉีดเพื่อสร้างความคมของใบหน้าและการการตั้งทรง เช่น กรอบหน้า สันหน้า คาง เป็นต้น
การฉีดแบบ Diluted คือการผสม Radiesse 1.5 cc กับน้ำเกลือและยาชารวม 1.5 cc เรียกว่าอัตราส่วน 1 : 1
การฉีดแบบ Hyperdiluted หมายถึงการผสม Radiesse 1.5 cc กับน้ำเกลือและยาชารวม 3.O cc ขึ้นไป โดยหากผสม Radiesse 1.5 cc กับน้ำเกลือและยาชารวม 3.O cc เรียกว่าอัตราส่วน 1 : 2
หากผสม Radiesse 1.5 cc กับน้ำเกลือและยาชารวม 4.5 cc เรียกว่าอัตราส่วน 1 : 3
โดยการฉีดแบบ Diluted และ Hyperdiluted จะเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนในวงกว้าง และพัฒนาคุณภาพผิวเป็นหลัก โดยหากใช้ยาจำนวนมาก หรือ เจือจางน้อยกว่า จะได้การกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาวมากกว่า และการเติมเต็มระยะสั้นที่ยาวนานกว่าด้วย ทั้งนี้แพทย์จะพิจารณาจากตำแหน่งที่ฉีดและความหนาของผิวในการเลือกเทคนิคการผสมที่เหมาะสม
ซึ่งเทคนิคเฉพาะที่ DSK จะมีการออกแบบเทคนิค การฉีด จุดฉีด ความเข้มข้น และการดีไซน์การฉีดเฉพาะบุคคล และตามบริเวณที่เหมาะสม
RADIESSE และ Sculptra เป็นยากลุ่มเดียวกัน ออกฤทธิ์คล้ายกัน แต่มีองค์ประกอบ และ กลไกที่ต่างกัน มีจุดฉีดบางจุดที่ต่างกันเล็กน้อย หากต้องการฉีดร่องแก้ม ร่องคางและส่วนกลางใบหน้าจะเหมาะกับ Radiesse มากกว่า Sculptra
ผลลัพธ์ในระยะสั้น Radiesse จะมีความฟูมากกว่า Sculptra
Sculptra มีข้อดีคือกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่า แต่ Radiesse อาจกระตุ้น อีลาสตินได้ดีกว่า ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ที่ DSK เพราะทีมแพทย์มีความรู้และความเข้าใจในตัวยาทั้งสองตัว สามารถเลือกตัวยาที่เหมาะสมกับปัญหาที่สุด
สิ่งที่ทำให้ RADIESSE แตกต่างจาก Biostimulator อื่นๆ ได้แก่
*การฉีด Biostimulator ทุกตัวควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนการตัดสินใจ
กลุ่มผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีด RADIESSE ได้แก่
ฉีด RADIESSE บริเวณหน้าส่วนล่าง
ฟื้นฟูผิวมือให้ดูอ่อนเยาว์
ปรับรูปหน้าให้สมส่วน แก้ปัญหาการยุบหรือหย่อนคล้อยของบริเวณกรอบหน้า (ต้องทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะที่ DSK Clinic)
เรเดียสสามารถทำได้หลายตำแหน่ง ตำแหน่งที่แนะนำสำหรับโปรแกรมฉีด RADIESSE (ตำแหน่งที่ฉีดขึ้นกับเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง) ได้แก่
หลุมสิวสามารถรักษาโดยการฉีด RADIESSE ใต้ชั้นผิวหนังเพื่อเติมเต็มให้ผิวดูเรียบเนียน และหลุมตื้นขึ้น เพราะสารประกอบ CaHA ที่อยู่ใน RADIESSE จะไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทั้งนี้การใช้ RADIESSE เพื่อการรักษาหลุมสิว ต้องใช้เทคนิคพิเศษ และควรเป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญการในการรักษาหลุมสิวโดยตรง เพราะทีมแพทย์มีการวิเคราะห์ วางแผนการรักษา ตามประเภทของหลุมสิว บางเคสอาจต้องรักษาร่วมกับเลเซอร์ หรือการรักษาแบบอื่นๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การฉีด Radiesse มีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีข้อควรรู้ก่อนเข้ารับบริการการฉีด RADIESSE และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด RADIESSE มีดังนี้
การเตรียมตัวก่อนฉีด RADIESSE สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
การดูแลตัวเองหลังฉีด RADIESSE สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
ปัจจุบันมีคลินิกมากมายให้ผู้บริโภคเลือกเข้ารับบริการ แต่การเลือกคลินิกที่ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั้นควรพิจารณาจากมาตรฐานความปลอดภัย ความเชี่ยวชาญของแพทย์และยี่ห้อของฟิลเลอร์ ซึ่งประกอบไปด้วยปัจจัยดังนี้
ควรเลือกฉีด RADIESSE ของแท้ มีมาตรฐานอย. โดยเลือกคลินิกกี่สามารถให้คุณหมอแกะกล่องก่อนทำการฉีดได้
DSK Clinic มีการคัดสรรทีมแพทย์ ที่เข้าใจกลไกปัญหาผิวและโครงสร้างใบหน้า ขึ้นชื่อเรื่องงานหัตถการ เทคนิคในการฉีด และ การให้คำปรึกษาที่ตรงจุด
นอกจากนั้นที่ DSK เราคัดเลือกทุกเทคโนโลยีระดับ Gold-standard ทั้ง Ulthera Thermage Potenza Sculptra Botox Filler และ Radiesse แต่ละเทคโนโลยีมีจุดเด่นที่ต่างกัน เหมาะกับปัญหาที่ต่างกัน ดังนั้นการที่มีครบทุกวิธีการรักษา และเชี่ยวชาญในทุกวิธีการรักษา จึงทำให้ทีมแพทย์สามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับคนไข้ได้จริงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุด
นอกจากนี้ ที่ DSK Clinic ยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 คลินิกแห่งแรกของประเทศไทยที่พร้อมให้บริการ Biostimulator ทั้ง Sculptra และ Radiesse และยังถูกคัดเลือกเป็นหนึ่งในไม่กี่คลินิกของไทยที่ผ่านการ เทรนแบบตัวต่อตัวกับแพทย์เทรนเนอร์ทั้งระดับ Global และ Asia Pacific จึงได้รับการถ่ายทอดจากประเทศที่มีการใช้งาน Biostimulator มายาวนานกว่า 20 ปี และการปรับเทคนิคแบบ Advance ให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะบุคคล คนไข้ที่ DSK จึง มั่นใจได้เลยว่า จะได้รับการดูแลปัญหา ปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิคเฉพาะบุคคล และเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ
1 ใน 100 คลินิกแรก! ที่ได้สิทธิ์ให้บริการ #Radiesse ที่จะทำให้ “คุณเป็นคุณในเวอร์ชั่นดูดียิ่งขึ้น” จัดเต็มเรื่องงานผิวอย่างที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน เฉพาะที่ DSK Clinic เท่านั้น
และ DSK Clinic ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจ ให้เป็นคลินิกชั้นนำกลุ่มแรกของประเทศ ที่จะได้รับสิทธิ์ให้บริการ Radiesse โดยผ่านการเทรน และใบรับรองอย่างเป็นทางการจาก Merz Aesthetics
หมอปอร์เช่ หมอกิ๊ฟ หมอซิน และหมอปริ๊นซ์ ได้รับเชิญเข้าร่วมงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Radiesse และรับการถ่ายทอดความรู้จาก คุณหมอ Tatjana Pavicic ผู้มีประสบการณ์ใช้ Radiesse ในการรักษามาตั้งแต่ปี 2008
ที่ DSK Clinic ไม่ได้เป็นแค่คลินิกเสริมความงามทั่วไป แต่เป็น Filler & Lifting Excellence Center ที่รวมเครื่องมือการยกกระชับปรับรูปหน้าที่ครบครัน คัดเลือกทีมแพทย์ผิวหนังที่มีความเข้าใจ ผ่านการศึกษา มีความรู้ความเข้าใจ และมีฝีมือในด้านการใช้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงเทคนิคการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวจึงสามารถแนะนำคนไข้ได้ว่าควรฉีด Biostimulator ตรงจุดไหน หรือควรใช้หัตถการแบบใดควบคู่หลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษา
ที่ DSK เราใช้เทคนิคที่ทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ใบหน้าและวางแผนการรักษาและออกแบบจุดฉีดเฉพาะบุคคล แก้ไขปัญหาตรงจุด และเห็นผลลัพธ์มากกว่า
ที่ DSK ฉีด RADIESSE แท้ 100% เพราะ DSK เป็นคลินิกที่ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการจาก Merz Asthethics และเป็น Certified Injector ที่ได้รับการเทรนโดยตรง
ที่ DSK เราใช้เทคนิคที่ทำให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ใบหน้าและวางแผนการรักษา เทคนิค “Advance CMS (Custom multi-directional stimulation)” คือ เทคนิคฉีดกระตุ้นคอลลาเจน ที่เหนือกว่าเทคนิคนี้มีเฉพาะที่ DSK Clinic เท่านั้น
ถ้าต้องการทำทั้ง 2 อย่างใน 1 วัน ให้ทำ Ulthera ก่อน แล้วค่อยฉีด Radiesse ตาม กรณีที่ทำคนละวัน ให้ทิ้งช่วงการทำเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อผลลัพทธ์ที่ชัดเจน โดยการทำ Ulthera และ Radiesse สามารถทำไปพร้อมกันได้เลย เพราะมีงานวิจัยรองรับว่ามีการทำงานร่วมกันระหว่าง Radiesse และ Ulthera โดย Radiesse จะส่งเสริมให้การ ทำงานของ Ulthera ดียิ่งขึ้น
RADIESSEเป็นสารเติมเต็มตัวเดียวที่มีสารประกอบเป็นแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วโดยให้ผลลัพธ์ทันที และยาวนานกว่า Filler ทั่วไป และให้ความยืดหยุ่นและความเฟิร์มของคุณภาพผิวที่ดียิ่ง ยิ่งขึ้น ที่มีสารตัวเติมกรดไฮยาลูโรนิก (HA) เป็นองค์ประกอบ ซึ่งจะเสื่อมสภาพลงในระยะเวลา 1 ปี