- September 12, 2024
Niacinamide คืออะไร ฉบับหมอผิวหนัง พร้อมข้อควรรู้ก่อนใช้!
หมอปอร์เช่
นพ. สราวุธ เหล่ากิจรุ่งโรจน์
แพทย์ผู้ก่อตั้ง DSK Clinic
สารบัญ
คุณหมอขอสรุป Niacinamide คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
– Niacinamide คือวิตามินบี 3 ชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนและลดการอักเสบของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง และยังสามารถช่วยลดเม็ดสีได้ดี จึงเป็นสิ่งที่คุณหมอมักแนะนำในการช่วยรักษาสภาพผิวให้ดูดี – Niacinamide เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาสภาพผิวให้ดูชุ่มชื้น ลดรอยดำรอยแดง ป้องกันการเกิดสิวและผู้ที่ต้องการมีผิวแข็งแรง มีสมดุลผิวที่ดี – ผลลัพธ์ของการเติม Niacinamide อาจเห็นได้ช้าและอาจไม่ค่อยเห็นผลกับผู้ที่สภาพผิวมีปัญหามากๆ อย่างการยกกระชับผิว คุณหมอจึงขอแนะนำการใช้หัตถการอย่าง Sculptra แทน เพราะเป็นการรักษาและฟื้นฟูผิวที่ตรงจุดและเห็นผลได้มากกว่า – ขอแนะนำฉีด Sculptra ที่ DSK Clinic ที่บริการโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ภายใต้การดูแลที่มีมาตรฐานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์การฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ |
Niacinamide ส่วนผสมยอดนิยมใน Serum ที่หลายคนอาจเคยเห็น หรือเคยได้ยินกันมาบ้าง มาดูว่า Niacinamide ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใคร ใช้ตอนไหนดี พร้อมแนะนำว่านอกจาก Niacinamide แล้วยังมีหัตถการอื่นๆ ที่ทดแทนกันได้หรือไม่ วันนี้คุณหมอมาขอสรุปให้ในบทความนี้กันเลย
Niacinamide คืออะไร
Niacinamide คือวิตามินบี 3 สารสกัดจากธรรมชาติที่พบได้ในอาหารหลายชนิด ทั้งเนื้อสัตว์ ปลาและพืชตระกูลถั่ว ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน รักษาสิว รอยดำและรอยแดง กระตุ้น Ceramide ให้ผิวแข็งแรง ช่วยลดการอักเสบของผิวและสามารถลดเม็ดสีผิวได้ 3 – 5% จึงมีผลช่วยเพิ่มความกระจ่างใสของผิวนั่นเอง จึงทำให้ Niacinamide นั้นเหมาะกับทุกสภาพผิว
Niacinamide ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
อ่านกันถึงตรงนี้อาจยังเห็นภาพประโยชน์ของ Niacinamide ไม่ชัดเจน จึงขอมาลงรายละเอียดในแต่ละสรรพคุณของ Niacinamide ว่าช่วยอะไรได้บ้าง ดังนี้
1. ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ
Niacinamide ช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดดที่มีต่อผิว และช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง จึงส่งผลให้จุดด่างดำนั้นเกิดขึ้นได้ยาก และลดเลือนไปได้ง่ายขึ้น
2. ช่วยลดรอยแดงและอาการระคายเคืองผิว
Niacinamide ช่วยลดการอักเสบของผิว จึงทำให้รอยแดงหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวแข็งแรงจึงลดการระคายเคืองจากสิ่งสกปรกต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย
3. ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ
Niacinamide นั้นช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวที่เสื่อมสภาพนั้นฟื้นฟู ปรับสีผิวที่ถูกทำร้ายให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอได้
4. ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
Niacinamide ช่วยกระตุ้น Ceramide จึงทำคืนความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน
5. ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส
Niacinamide ลดการขนส่งของเม็ดสี ทำให้มีผลเป็น whitening ได้ประมาณ 3-5% ทำให้ผิวนั้นมีความกระจ่างใส
Niacinamide เหมาะกับใคร
Niacinamide มีประโยชน์หลายอย่าง จึงแนะนำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว
- ผู้ที่ผิวแห้ง ขาดน้ำ Niacinamide จะช่วยกระตุ้น Ceramide ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- ผู้ที่ผิวมัน Niacinamide จะช่วยควบคุมน้ำมันในผิวให้ผิวแข็งแรง ปรับสมดุลผิว
- ผู้ที่มีรอยดำรอยแดงหรือสิว Niacinamide จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้ผิวลดการระคายเคือง ป้องกันรอยต่างๆ และลดเลือนรอยดำรอยแดงได้ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวแข็งแรง ป้องกันการเกิดสิว จึงเป็นการตัดวงจรการเกิดรอยได้
ข้อควรรู้! Niacinamide ห้ามใช้ร่วมอะไรบ้าง
มีหลายงานวิจัยที่บอกว่า Niacinamide ห้ามใช้ร่วมกับสารที่มีค่าเป็นกรดสูงอย่าง AHA BHA และ Vitamin C เนื่องจากทำงานได้ดีในคนละค่า pH กัน จึงขอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้ Niacinamide และสารที่มีค่าเป็นกรด ในความเข้มข้นสูงพร้อมๆ กันหรือควรเว้นระยะเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ห่างกันสัก 10-20 นาที เพราะอาจเกิดอาการแสบคันได้
Niacinamide มีผลข้างเคียงไหม
อย่างที่ได้รู้กันไปแล้วว่า Niacinamide ว่าเป็นวิตามินบี 3 ซึ่งสกัดได้จากธรรมชาติจึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง แต่สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่ายอาจเกิดอาการแสบคัน หรือร้อนผิวได้เพราะ Niacinamide จะทำให้ร่างกายปล่อยฮิสตามีนออกมาซ่อมแซมผิว
หัตถการทางเลือก ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Niacinamide
แม้การทา Niacinamide ให้ผิวเป็นสิ่งที่ดี แต่มักแนะนำสำหรับการบำรุงประจำวันเท่านั้น ไม่สามารถรักษา หรือเปลี่ยนแปลงสภาพผิวได้ เนื่องจากข้อจำกัดของการทา กลุ่ม Skincare อย่าง Niacinamide กระตุ้นคอลลาเจนได้น้อยและตื้น จึงเห็นผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนโดยเฉพาะเรื่องของการลดริ้วรอยและยกกระชับผิว
โดยการรักษาคุณภาพผิว และยกกระชับเพื่อคงอายุ หรือรักษาทั้งความหย่อนคล้อย ริ้วรอย จุดด่างดำ และความแน่นเฟิร์มของผิว ต้องพึ่งหัตถการทางการแพทย์ดังนี้
1. Sculptra
Sculptra เป็นยากลุ่ม Biostimulator เน้นในเรื่องของการเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวโดยเฉพาะ เมื่อเปรียบเทียบกันกับ Niacinamide แล้ว Sculptra สามารถลงลึกถึงชั้นผิวและสร้างคอลลาเจนได้จากผิวเอง จึงทำให้ผิวมีความเรียบเนียน เต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด
2. Radiesse
Radiesse เป็นสารกลุ่มเติมเต็มที่เน้นการเติมร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น เมื่อเทียบเรื่องการยกกระชับผิวจึงทำได้ดีกว่า Niacinamide มาก โดย Radiesse จะเป็นฟิลเลอร์ที่นิยมฉีดบริเวณร่องแก้มลดเลือนริ้วรอยร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น แก้ไขผิวที่หย่อนคล้อยให้ผิวดูกระชับขึ้นได้
3. Ulthera
Ulthera คือเทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ ซึ่งจะยิงความร้อนเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึก อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้มองเห็นปัญหาในระหว่างการทำหัตถการได้ จึงเน้นในเรื่องของการกระชับกรอบหน้าและผิวที่เหี่ยวให้กลับมากระชับได้ดี แก้ไขปัญหาได้ลึกจากชั้นผิวทำให้แก้ไขได้ตรงจุดกว่าการใช้ Niacinamide บำรุงผิว
4. Thermage
Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับปรับรูปหน้าที่เด่นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาไขมันที่ผิวหน้าได้ดี เพราะมีการทำงานด้วยคลื่นวิทยุพลังงานสูงที่กระตุ้นทั้งคอลลาเจนและอีลาสติน แต่ Niacinamide นั้นจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนบนผิวซึ่งไม่ตอบโจทย์กับการแก้ไขปัญหาใบหน้าที่อาจเกิดจากไขมันส่วนเกิน
5. Potenza
Potenza เป็นนวัตกรรมที่มีการทำงานด้วยคลื่นความถี่วิทยุลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ จึงช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลายโดยเฉพาะการยกกระชับและการปรับผิวให้เรียบเนียน เมื่อเปรียบเทียบกับ Niacinamide แล้ว การใช้หัตถการ Potenza จะมีประสิทธิภาพมากกว่าโดยเฉพาะกับผิวที่มีปัญหาเรื่องของหลุมสิว เพราะ Potenza สามารถกระชับรูขุมขนและทำให้ผิวดูเรียบเนียนได้ ในขณะที่ Niacinamide จะทำให้เรียบเนียนจากการกระตุ้นคอลลาเจนและการลดเม็ดสีแต่ไม่สามารถเห็นผลกับหลุมสิวได้อย่างชัดเจน
ทำไมต้องแก้ปัญหาผิวที่ DSK Clinic
มาจนถึงตอนนี้ แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่คงสังเกตกันคือทั้งการใช้ Niacinamide และหัตถการนั้นมีความหลากหลายมาก โดยแต่ละอย่างนั้นเหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และนั่นคือสาเหตุที่จะขอแนะนำการบริการของ DSK Clinic จุดที่ทำให้ DSK Clinic นั้นแตกต่าง มีดังนี้
- การรักษาที่เลือกเครื่องมือสำหรับผู้เข้ารับการบริการที่แตกต่างกัน เพราะเราเข้าใจว่าปัญหาผิวของแต่ละคนจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกันจึงมีเครื่องมือหลายชนิดเพื่อตอบรับการรักษาที่หลากหลาย
- ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัญหาผิวในแต่ละเคสเพื่อการแก้ไขปัญหาด้วย “การออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล” จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามลักษณะของปัญหา จากการดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์หรือยกกระชับปรับรูปหน้า
คลินิกที่ให้บริการสูงสุด 1 ใน 3 คลินิก จากคลินิกทั้งหมดทั่วประเทศ
ตรวจสอบโปรโมชั่น
รีวิวแก้ปัญหาผิวที่ DSK Clinic
แก้ปัญหาผิวด้วย Sculptra
แก้ปัญหาผิวด้วย Radiesse
แก้ปัญหาผิวด้วย Ulthera
แก้ปัญหาผิวด้วย Thermage
แก้ปัญหาผิวด้วย Potenza
* ใช้เป็นตัวอย่างผลจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
** ได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้ใช้ภาพแล้ว
DSK CLINIC มั่นใจ ยาแท้ ปลอดภัย 100%
ติดต่อ สอบถาม จองคิว
Facebook: https://www.facebook.com/dsk.clinic/
Instagram: https://www.instagram.com/dsk.clinic/
YouTube: https://www.youtube.com/@dskclinic
TikTok: https://www.tiktok.com/@dskclinic
สรุป
Niacinamide คือวิตามินบี3 ชนิดหนึ่งซึ่งพบได้จากธรรมชาติอย่างเนื้อสัตว์ ปลา หรือพืชตระกูลถั่วและสามารถสกัดออกมาใช้ประโยชน์ได้ โดยการเติม Niacinamide จะช่วยให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นคอลลาเจนและ Ceramide รวมไปถึงการลดการขนส่งเม็ดสีผิว จึงมีส่วนช่วยต่อการลดการอักเสบ เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ลดเลือนรอยดำรอยแดงและทำให้ผิวดูกระจ่างใสได้
หากใครที่มีปัญหาผิวมากและต้องการการรักษา แนะนำการทำหัตถการต่างๆ จะช่วยได้อย่างตรงจุดและเห็นผลมากกว่า เช่น การทำ Sculptra หรือ Radiesse สำหรับการยกกระชับริ้วรอยร่องลึกที่ Niacinamide ไม่เห็นผล การทำ Ulthera หรือ Thermage สำหรับการปรับรูปหน้าและผิวที่หย่อนคล้อยและการทำ Potenza ที่ครอบคลุมปัญหาผิวตั้งแต่การปรับผิวเรียบเนียน กระชับรูขุมขนไปจนถึงการยกกระชับผิว
ที่ DSK Clinic พร้อมช่วยให้ผู้เข้ารับบริการได้รับการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดจากเครื่องมือที่หลากหลายรองรับทุกความต้องการในการรักษาที่ “ออกแบบเฉพาะบุคคล” ไม่ใช่การขายตามเมนู แต่วิเคราะห์วางแผนโดยแพทย์ที่ผ่านการคัดเลือก และมีประสบการณ์สูงโดยตรง ทำให้สามารถเลือกการรักษาที่เหมาะกับปัญหาและเทคนิคที่เหมาะสมได้จริง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Niacinamide (FAQs)
ก่อนการตัดสินใจใช้ Niacinamide เราอยากให้เข้าใจถึงการใช้งานและประโยชน์อย่างถี่ถ้วน จึงขอรวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาไขข้อสงสัยก่อนการตัดสินใจกัน
Niacinamide ใช้ระยะเวลานานแค่ไหนจึงเห็นผล
โดยปกติแล้วจะเห็นผลลัพธ์ของการใช้ Niacinamide ในระยะ 2-4 สัปดาห์ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ แก้ไขปัญหาสิว ปรับสีผิวให้เรียบเนียนและดูแลสมดุลผิวทั้งผิวมันและความชุ่มชื้นของผิว ควรใช้อย่างต่อเนื่อง 8-12 สัปดาห์
ฉีด Sculptra พร้อมใช้ Niacinamide ได้หรือไม่
สามารถใช้ทั้ง Niacinamide รวมกับการทำหัตถการ Sculptra ได้ และยิ่งเห็นผลลัพธ์ได้ดี สำหรับบางคนที่อาจไม่อยากใช้ Niacinamide ก็สามารถเลือกเข้ารับการทำ Sculptra แทนได้ด้วยเช่นกัน
Ceramide กับ Niacinamide ต่างกันอย่างไร
Ceramide คือสารประกอบหนึ่งบนชั้นผิวที่ช่วยเรื่องของการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ส่วน Niacinamide คือวิตามินที่สามารถช่วยกระตุ้น Ceramide จึงเป็นสาเหตุที่ Niacinamide สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- Sculptra ดีจริงไหม ฉีดที่ไหนดี รวมเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด ฉบับอัพเดท 2024
- อยากหน้าเด็ก ลงทุนกับอะไรดี Sculptra vs Ulthera
- Sculptra VS Radiesse เทียบคนละหมัด ตัวท็อปหน้าเด็ก 2 ค่ายดัง
- เทียบให้ชัด! Sculptra VS Filler ตัวช่วยเติมเต็มใบหน้า เลือกตัวไหนดี?
- กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าทำได้กี่วิธี กิน ทา ฉีด หรือทำเครื่องดีกว่ากัน